โดย : ปิ่น บุตรี
ปัจจุบันกระแสย้อนยุค(เรทโทร)มาแรง ยิ่งสิ่งไหนย้อนยุคไปไกลออกอารมณ์โบร๊าณ โบราณ คนยิ่งชอบกัน ไม่ว่าจะเป็น ตลาดโบราณ กาแฟโบราณ ไอติม(ไอศกรีม)โบราณ ป่าโบราณ บ้านโบราณ(บางบ้านระวัง!! ผีดุ) ก๋วยเตี๋ยวโบราณ ผัดไทโบราณ อาหารโบราณ ฯลฯ
เรียกว่าอะไรที่ดูเก่าขลัง เก๋า เก๋ มักได้รับคำว่า“โบราณ”พ่วงท้าย และกลายเป็นที่สนใจของผู้นิยมในแนวทางเรทโทร
จะมียกเว้นบ้างก็เห็นจะเป็นพวก“หัวโบราณ” ที่หลายคนพากันส่ายหน้า ส่วน“เมียโบราณ” นี่แม้บางคนจะไม่ยอมรับแต่ก็ต้องละไว้ในฐานที่เข้าใจ
อย่างไรก็ตามนั่นเป็นความโบราณที่ถูกเรียกขานตามกระแส แต่สำหรับ“เมืองโบราณ”ที่สมุทรปราการ นี่คือของจริงที่ยืนหยัดนำเสนอเสน่ห์สิ่งของโบราณมาแต่นานนม ซึ่งชายชื่อ“เล็ก วิริยะพันธุ์” ผู้ก่อตั้งได้ได้นำอดีตมาเป็นสะพานเชื่อมต่อปัจจุบันกับอนาคต โดยการนำผลงานสถาปัตยกรรมและงานศิลปกรรมชิ้นโบว์แดงทั่วเมืองไทย มาจำลองไว้ในพื้นที่ที่มีลักษณะคล้ายแผนที่ประเทศไทย(ผังบริเวณในสมัยนั้น)ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506
กระทั่งแล้วเสร็จจึงทำการเปิดตัวอวดโฉมต่อสายตานักท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2515 หลังจากนั้นเมืองโบราณก็สร้างโน่น สร้างนี่ เก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อย ซึ่ง ณ วันนี้ เมืองโบราณนอกจากจะอุดมไปด้วยสุดยอดงานสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมจำลองแล้ว ยังอบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งอดีตที่น่ารื่นรมย์เป็นอย่างยิ่ง
เริ่มตั้งแต่เมื่อแรกเข้าสู่พื้นที่เมืองโบราณในส่วนด้ามขวาน(ภาคใต้) ที่มีจุดน่าสนใจอย่าง เจดีย์พระบรมธาตุ(นครศรีธรรมราช) พระบรมธาตุไชยา(สุราษฏร์ธานี)ไฮไลท์ ซึ่งการเที่ยวเมืองโบราณของผมแต่ละครั้งมักจะใช้การเช่าจักรยานปั่นเที่ยวภายในเมืองโบราณ เพราะสามารถลงไปสัมผัสชื่นชมสิ่งน่าสนใจต่างๆได้อย่างใกล้ชิด แถมยังได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย
นอกจากนี้ในบางจุดรถยนต์ รถรางนำเที่ยวเข้าไม่ได้ แต่เราสามารถขี่จักรยานเข้าไปในนั้นได้สบายๆ อย่างกับที่ตลาดโบราณ หรือ ตลาดบก ที่อยู่ตรงช่วงกึ่งกลางผังรูปด้ามขวานทอง นี่หากขับรถจะได้แค่ผ่าน แต่ถ้านำเจ้าจักรยานเข้าไปในนั้น ขอบอกว่าบรรยากาศการซื้อขายแบบโบราณจะทำให้ผู้มีรสนิยมแนวนี้เพลิดเพลินเป็นอย่างยิ่ง
จากตลาดโบราณ ผมเดินทางจากภาคใต้สู่ภาคกลางมุ่งตรงไปยังหนึ่งในไฮไลท์แห่งเมืองโบราณนั่นก็คือ “พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท” โดยระหว่างทางไม่ลืมที่จะแวะชมสิ่งน่าสนใจต่างๆ อาทิ
พระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ราชบุรี อันงดงามสมส่วนด้วยศิลปะลพบุรี
ศาลาการเปรียญวัดใหญ่สุวรรณราม จ.เพชรบุรี ที่งดงามด้วยเรือนไม้สัก บนศาลามีของประดับน่าสนใจให้เดินชม
พระพุทธรูปทวารวดี แห่งเมืองนครชัยศรี ที่เป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาขนาดใหญ่ประทับนั่งห้อยพระบาทโดดเด่น สวยงาม
เรือนทับขวัญ เรือนไทยอันสวยงามสร้างขึ้นตามแบบเรือนทับขวัญ ในพระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม
แล้วก็มาถึงยังพระที่นั่งสรรเพชญปราสาท ที่ของจริง ณ เมืองกรุงเก่า ถูกพม่าเผาทิ้งเหลือแต่ซากฐาน ส่วนพระที่นั่ง(จำลอง)องค์นี้ ทางเมืองโบราณ ได้ค้นคว้าจากหลักฐานต่างๆที่เหลือ ก่อนที่จะมาถอดแบบเป็นผังและก่อสร้างออกมาโดยย่อลงมา 3 ใน 4 ส่วน จากของจริง ซึ่งเป็นการรวบรวมเอกลักษณ์ทางศิลปกรรมอันโดดเด่นแห่งอยุธยาเข้าไว้ด้วยกัน ไล่ไปตั้งแต่เสา หลังคา และลวดลายประดับต่างๆ
พระที่นั่งองค์นี้ไม่ได้งดงามเฉพาะภายนอกเท่านั้น หากแต่ภายในก็งดงามวิจิตรชวนชมไม่แพ้กัน
ผนังภายในงดงามด้วยลายปูนปั้นลงรักปิดทอง ประดับด้วยกระจกสี,เพดานงดงามด้วยดาวเพดาน,หน้าต่างงดงามด้วยลวดลายประดับมุก,พระที่นั่งของทั้ง 2 ฝั่ง งดงามด้วยงานแกะสลักไม้ที่สุดเนี๊ยบเฉียบนิ้ง
ด้วยความงามแบบนี้ทำให้พระที่นั่งสรรเพชญปราสาทถูกใช้ถ่ายภาพยนตร์หลายเรื่องด้วยกัน
ผมใช้เวลาเดินชมลายละเอียดอันงดงามวิจิตรในพระที่นั่งสรรเพชญฯอยู่เป็นเวลานาน ก่อนจะขี่จักรยานตะลุยชมส่วนอื่นๆซึ่งทางเมืองโบราณได้แบ่งออกเป็นภาคต่างๆ เริ่มจาก
ภาคกลาง นอกจากพระนั่งสรรเพชญฯ ก็มีจุดน่าเที่ยว อาทิ มณฑปพระพุทธบาท จ.สระบุรี พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ที่อยู่ในพระบรมมหาราชวังในกทม.นี่เอง
ภาคเหนือ ที่โดดเด่นน่าชมก็มี หมู่บ้านไทยภาคเหนือ ให้อารมณ์ล้านนา ที่สงบ ร่มรื่น น่านั่งแช่เป็นวันๆมาก ส่วนวัดต่างๆก็โดดเด่นด้วยเอกลักลักษณ์เฉพาะตัวของวัดนั้นๆ ที่ไม่ควรผ่านเลยก็มี วิหารวัดภูมินทร์ จ.น่าน มองด้านนอกงดงามอ่อนช้อยมีบันไดพญานาคราช เลื้อยออกจากวิหาร ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป 4 ทิศ เรียกได้ว่าถอดแบบจากของจริงมาสร้างได้อย่างไม่มีที่ติจริงๆ
ภาคอีสาน มีของดีให้ดูเพียบ ไปแล้วไม่น่าพลาดการชม พระธาตุพนม จ.นครพนม ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ ปราสาทหินพิมาย แห่งโคราช ส่วนใครมีแรงเดินก็น่าจะขึ้นไปชม ปราสาทเขาพระวิหาร ที่หากวันดีคืนดีเขมรปิดเขาพระวิหารอีก เราก็ไม่เห็นต้องง้อ ไปดูที่เมืองโบราณก็ได้ แถมไม่ต้องกลัวเหยียบกับระเบิดด้วย
ภาคตะวันออก มี มี ป่าเจดีย์ ปราสาทสด๊กก๊อกธม(สระแก้ว) ศาลาโถงวัดนิมิตร(ตราด) และตึกแดง(จันทบุรี) เป็นจุดเด่น
จากนั้นเราขี่จักรยานออกไปยังส่วนที่สร้างเพิ่มเติมใหม่ นั่นก็คือ “ส่วนรังสรรค์” ที่ผมขอเรียกว่าดินแดนแห่งโลกจินตนาการ เพราะที่นี่ได้สร้างงานสถาปัตยกรรม ประติมากรรม ที่เกิดจากจินตนาการของผู้สร้าง ซึ่งก็มีคนนิยมไปเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมาก โดยจุดที่ไม่น่าผ่านเลยก็มี ศาลาทศชาติ ขบวนเสด็จพยุหยาตราทางชลมารค เรือสำเภาไทย เขาพระสุเมรุ ศาลารามเกียรติ์ มณฑปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร(เจ้าแม่กวนอิม) เป็นต้น
และนั่นก็เป็นบันทึกส่วนหนึ่งของการเที่ยวชมเมืองโบราณภายในค่อนวัน
สำหรับผมแล้วการได้มาเที่ยวเมืองโบราณถือเป็นการเรียนรู้อดีตที่สำคัญ ซึ่งการเรียนรู้อดีตทำให้เราได้รู้ปัจจุบัน และเป็นแนวทางสำหรับการใช้ชีวิตอนาคตได้อย่างรู้เท่าทัน
นับได้ว่าสิ่งโบราณต่างๆในเมืองโบราณนั้นเป็นอดีตที่มีความร่วมสมัยอยู่ตลอดเวลา
*****************************************
เมืองโบราณ ตั้งอยู่ที่ กม.33 ถ.สุขุมวิท(สายเก่า) บางปูใหม่ อ. เมือง จ. สมุทรปราการ เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 8.00 - 17.00 น.
ปัจจุบันกระแสย้อนยุค(เรทโทร)มาแรง ยิ่งสิ่งไหนย้อนยุคไปไกลออกอารมณ์โบร๊าณ โบราณ คนยิ่งชอบกัน ไม่ว่าจะเป็น ตลาดโบราณ กาแฟโบราณ ไอติม(ไอศกรีม)โบราณ ป่าโบราณ บ้านโบราณ(บางบ้านระวัง!! ผีดุ) ก๋วยเตี๋ยวโบราณ ผัดไทโบราณ อาหารโบราณ ฯลฯ
เรียกว่าอะไรที่ดูเก่าขลัง เก๋า เก๋ มักได้รับคำว่า“โบราณ”พ่วงท้าย และกลายเป็นที่สนใจของผู้นิยมในแนวทางเรทโทร
จะมียกเว้นบ้างก็เห็นจะเป็นพวก“หัวโบราณ” ที่หลายคนพากันส่ายหน้า ส่วน“เมียโบราณ” นี่แม้บางคนจะไม่ยอมรับแต่ก็ต้องละไว้ในฐานที่เข้าใจ
อย่างไรก็ตามนั่นเป็นความโบราณที่ถูกเรียกขานตามกระแส แต่สำหรับ“เมืองโบราณ”ที่สมุทรปราการ นี่คือของจริงที่ยืนหยัดนำเสนอเสน่ห์สิ่งของโบราณมาแต่นานนม ซึ่งชายชื่อ“เล็ก วิริยะพันธุ์” ผู้ก่อตั้งได้ได้นำอดีตมาเป็นสะพานเชื่อมต่อปัจจุบันกับอนาคต โดยการนำผลงานสถาปัตยกรรมและงานศิลปกรรมชิ้นโบว์แดงทั่วเมืองไทย มาจำลองไว้ในพื้นที่ที่มีลักษณะคล้ายแผนที่ประเทศไทย(ผังบริเวณในสมัยนั้น)ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506
กระทั่งแล้วเสร็จจึงทำการเปิดตัวอวดโฉมต่อสายตานักท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2515 หลังจากนั้นเมืองโบราณก็สร้างโน่น สร้างนี่ เก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อย ซึ่ง ณ วันนี้ เมืองโบราณนอกจากจะอุดมไปด้วยสุดยอดงานสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมจำลองแล้ว ยังอบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งอดีตที่น่ารื่นรมย์เป็นอย่างยิ่ง
เริ่มตั้งแต่เมื่อแรกเข้าสู่พื้นที่เมืองโบราณในส่วนด้ามขวาน(ภาคใต้) ที่มีจุดน่าสนใจอย่าง เจดีย์พระบรมธาตุ(นครศรีธรรมราช) พระบรมธาตุไชยา(สุราษฏร์ธานี)ไฮไลท์ ซึ่งการเที่ยวเมืองโบราณของผมแต่ละครั้งมักจะใช้การเช่าจักรยานปั่นเที่ยวภายในเมืองโบราณ เพราะสามารถลงไปสัมผัสชื่นชมสิ่งน่าสนใจต่างๆได้อย่างใกล้ชิด แถมยังได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย
นอกจากนี้ในบางจุดรถยนต์ รถรางนำเที่ยวเข้าไม่ได้ แต่เราสามารถขี่จักรยานเข้าไปในนั้นได้สบายๆ อย่างกับที่ตลาดโบราณ หรือ ตลาดบก ที่อยู่ตรงช่วงกึ่งกลางผังรูปด้ามขวานทอง นี่หากขับรถจะได้แค่ผ่าน แต่ถ้านำเจ้าจักรยานเข้าไปในนั้น ขอบอกว่าบรรยากาศการซื้อขายแบบโบราณจะทำให้ผู้มีรสนิยมแนวนี้เพลิดเพลินเป็นอย่างยิ่ง
จากตลาดโบราณ ผมเดินทางจากภาคใต้สู่ภาคกลางมุ่งตรงไปยังหนึ่งในไฮไลท์แห่งเมืองโบราณนั่นก็คือ “พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท” โดยระหว่างทางไม่ลืมที่จะแวะชมสิ่งน่าสนใจต่างๆ อาทิ
พระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ราชบุรี อันงดงามสมส่วนด้วยศิลปะลพบุรี
ศาลาการเปรียญวัดใหญ่สุวรรณราม จ.เพชรบุรี ที่งดงามด้วยเรือนไม้สัก บนศาลามีของประดับน่าสนใจให้เดินชม
พระพุทธรูปทวารวดี แห่งเมืองนครชัยศรี ที่เป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาขนาดใหญ่ประทับนั่งห้อยพระบาทโดดเด่น สวยงาม
เรือนทับขวัญ เรือนไทยอันสวยงามสร้างขึ้นตามแบบเรือนทับขวัญ ในพระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม
แล้วก็มาถึงยังพระที่นั่งสรรเพชญปราสาท ที่ของจริง ณ เมืองกรุงเก่า ถูกพม่าเผาทิ้งเหลือแต่ซากฐาน ส่วนพระที่นั่ง(จำลอง)องค์นี้ ทางเมืองโบราณ ได้ค้นคว้าจากหลักฐานต่างๆที่เหลือ ก่อนที่จะมาถอดแบบเป็นผังและก่อสร้างออกมาโดยย่อลงมา 3 ใน 4 ส่วน จากของจริง ซึ่งเป็นการรวบรวมเอกลักษณ์ทางศิลปกรรมอันโดดเด่นแห่งอยุธยาเข้าไว้ด้วยกัน ไล่ไปตั้งแต่เสา หลังคา และลวดลายประดับต่างๆ
พระที่นั่งองค์นี้ไม่ได้งดงามเฉพาะภายนอกเท่านั้น หากแต่ภายในก็งดงามวิจิตรชวนชมไม่แพ้กัน
ผนังภายในงดงามด้วยลายปูนปั้นลงรักปิดทอง ประดับด้วยกระจกสี,เพดานงดงามด้วยดาวเพดาน,หน้าต่างงดงามด้วยลวดลายประดับมุก,พระที่นั่งของทั้ง 2 ฝั่ง งดงามด้วยงานแกะสลักไม้ที่สุดเนี๊ยบเฉียบนิ้ง
ด้วยความงามแบบนี้ทำให้พระที่นั่งสรรเพชญปราสาทถูกใช้ถ่ายภาพยนตร์หลายเรื่องด้วยกัน
ผมใช้เวลาเดินชมลายละเอียดอันงดงามวิจิตรในพระที่นั่งสรรเพชญฯอยู่เป็นเวลานาน ก่อนจะขี่จักรยานตะลุยชมส่วนอื่นๆซึ่งทางเมืองโบราณได้แบ่งออกเป็นภาคต่างๆ เริ่มจาก
ภาคกลาง นอกจากพระนั่งสรรเพชญฯ ก็มีจุดน่าเที่ยว อาทิ มณฑปพระพุทธบาท จ.สระบุรี พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ที่อยู่ในพระบรมมหาราชวังในกทม.นี่เอง
ภาคเหนือ ที่โดดเด่นน่าชมก็มี หมู่บ้านไทยภาคเหนือ ให้อารมณ์ล้านนา ที่สงบ ร่มรื่น น่านั่งแช่เป็นวันๆมาก ส่วนวัดต่างๆก็โดดเด่นด้วยเอกลักลักษณ์เฉพาะตัวของวัดนั้นๆ ที่ไม่ควรผ่านเลยก็มี วิหารวัดภูมินทร์ จ.น่าน มองด้านนอกงดงามอ่อนช้อยมีบันไดพญานาคราช เลื้อยออกจากวิหาร ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป 4 ทิศ เรียกได้ว่าถอดแบบจากของจริงมาสร้างได้อย่างไม่มีที่ติจริงๆ
ภาคอีสาน มีของดีให้ดูเพียบ ไปแล้วไม่น่าพลาดการชม พระธาตุพนม จ.นครพนม ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ ปราสาทหินพิมาย แห่งโคราช ส่วนใครมีแรงเดินก็น่าจะขึ้นไปชม ปราสาทเขาพระวิหาร ที่หากวันดีคืนดีเขมรปิดเขาพระวิหารอีก เราก็ไม่เห็นต้องง้อ ไปดูที่เมืองโบราณก็ได้ แถมไม่ต้องกลัวเหยียบกับระเบิดด้วย
ภาคตะวันออก มี มี ป่าเจดีย์ ปราสาทสด๊กก๊อกธม(สระแก้ว) ศาลาโถงวัดนิมิตร(ตราด) และตึกแดง(จันทบุรี) เป็นจุดเด่น
จากนั้นเราขี่จักรยานออกไปยังส่วนที่สร้างเพิ่มเติมใหม่ นั่นก็คือ “ส่วนรังสรรค์” ที่ผมขอเรียกว่าดินแดนแห่งโลกจินตนาการ เพราะที่นี่ได้สร้างงานสถาปัตยกรรม ประติมากรรม ที่เกิดจากจินตนาการของผู้สร้าง ซึ่งก็มีคนนิยมไปเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมาก โดยจุดที่ไม่น่าผ่านเลยก็มี ศาลาทศชาติ ขบวนเสด็จพยุหยาตราทางชลมารค เรือสำเภาไทย เขาพระสุเมรุ ศาลารามเกียรติ์ มณฑปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร(เจ้าแม่กวนอิม) เป็นต้น
และนั่นก็เป็นบันทึกส่วนหนึ่งของการเที่ยวชมเมืองโบราณภายในค่อนวัน
สำหรับผมแล้วการได้มาเที่ยวเมืองโบราณถือเป็นการเรียนรู้อดีตที่สำคัญ ซึ่งการเรียนรู้อดีตทำให้เราได้รู้ปัจจุบัน และเป็นแนวทางสำหรับการใช้ชีวิตอนาคตได้อย่างรู้เท่าทัน
นับได้ว่าสิ่งโบราณต่างๆในเมืองโบราณนั้นเป็นอดีตที่มีความร่วมสมัยอยู่ตลอดเวลา
*****************************************
เมืองโบราณ ตั้งอยู่ที่ กม.33 ถ.สุขุมวิท(สายเก่า) บางปูใหม่ อ. เมือง จ. สมุทรปราการ เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 8.00 - 17.00 น.