xs
xsm
sm
md
lg

ศาล ปค.รับฟ้องกรมศิลป์อนุญาตสร้างอาคารทับวัง ร.4 แล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครปฐม – ศาลปกครองรับฟ้อง “กรมศิลปากร” อนุญาตให้เทศบาลนครนครปฐม ทำการก่อสร้างอาคารทับสถานที่พระราชวังปฐมนคร ซึ่งเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ในครั้งเสด็จบูรณะองค์พระปฐมเจดีย์แล้ว “ประธานกลุ่มศรีทวารวดี” เผย ได้รับหมายแจ้งคดีจากศาลไปให้ถ้อยคำ 21 ส.ค.นี้ เวลา 13.30 น.

วันนี้ (13 ส.ค.) นายไพบูลย์ พวงสำสี ประธานกลุ่มศรีทวารวดี ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ตนเองได้ยื่นเรื่องในการฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ กรณีกรมศิลปากรอนุญาตให้เทศบาลนครนครปฐม ทำการก่อสร้างอาคารทับสถานที่พระราชวังปฐมนคร ซึ่งมีความสำคัญเป็นจุดเชื่อมโยงในการผลักดันองค์พระปฐมเจดีย์ สู่การเป็นมรดกโลก ตามคำฟ้องหมายเลขคดีดำที่ 1129/2551 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2551

ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2551 ศาลปกครองกลางได้มีการส่งหมายแจ้งคดีหมายเลขดำเลขที่ 1129/1551 เพื่อให้ตนไปให้ถ้อยคำต่อศาลเพื่อประกอบคำพิจารณาสั่งรับคำฟ้องไว้พิจารณาและคำขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดมาตรการ หรือวิธีคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้องคดี โดยนัดไต่สวน ในวันที่ 21 สิงหาคม 2551 เวลา 13.30 น.ที่ศาลปกครองกลาง

ประธานกลุ่มศรีทวารวดี กล่าวต่อว่า ในกรณีดังกล่าวถือว่าศาลปกครองได้มีการพิจารณาถึงเรื่องดังกล่าว และรับฟ้องในเรื่องที่ตนเองในนามกลุ่มศรีทวารวดี ได้ยื่นฟ้องร้องและให้ความสนใจเกี่ยวกับโบราณสถาน ซึ่งสำหรับตนเองแล้วในการยื่นฟ้องดังกล่าวนั้นได้ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ เพราะจากการศึกษาในเรื่องนี้ตนเองได้มีการติดตามเรื่องมาอย่างยาวนานจากเอกสารต่างๆ ที่ปรากฏระบุว่า พื้นที่บริเวณสำนักงานอาคารเทศบาลนครนครปฐมนั้นเป็นพื้นที่ของพระราชวังปฐมนคร ซึ่งเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ในครั้งเสด็จบูรณะองค์พระปฐมเจดีย์ หากทางกรมศิลปากรจะอนุญาตให้มีการก่อสร้างอาคารสำนักงานเทศบาลนครนครปฐม หลังใหม่มาทับสถานที่เดิมที่พิสูจน์แล้วว่า เป็นโบราณสถาน ตนเองจึงเห็นว่าน่าจะเป็นเรื่องไม่สมควร

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังพระธรรมเสนานี อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เจ้าอาวาสวัดวังตะกู ได้รับการเปิดเผยว่า ในเรื่องดังกล่าวถ้าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ไม่มีพระราชศรัทธาในการบวรพระพุทธศาสนา และปรารถนาอันแรงกล้าในการบูรณะปฏิสังขรณ์องค์พระปฐมเจดีย์ พวกเราชาวนครปฐมก็จะไม่มีแผ่นดินอยู่สุขสบายชั่วลูกชั่วหลานเช่นวันนี้ แต่ก่อนนี้เป็นเมืองป่ารกชัฏเป็นเมืองร้าง ฉะนั้น องค์พระปฐมเจดีย์ ต้องมีประวัติความเป็นมาตามลำดับของประวัติศาสตร์ คนไทยเดี๋ยวนี้ไม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชาติตนเอง ไม่รู้ชาติกำเนิดของตนเอง จึงไม่รู้คุณค่าของโบราณสถาน โบราณวัตถุ

“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ปัจจุบันเคยมีพระราชดำรัสไว้ว่า การสร้างอาคารสมัยนี้คงจะเป็นเกียรติสำหรับผู้สร้างคนเดียว แต่เรื่องโบราณสถานนั้นเป็นเกียรติของชาติ อิฐเก่าๆ แผ่นเดียวก็มีค่าควรจะช่วยกันรักษาไว้ ถ้าราขาดสุโขทัย อยุธยา และกรุงเทพฯแล้วประเทศไทยก็จะไม่มีความหมาย พระธรรมเสนานี ยกตัวอย่าง”

พระธรรมเสนานี อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เจ้าอาวาสวัดวังตะกู ยังกล่าวต่ออีกว่า คนเราก็โตๆ กันแล้ว อะไรควรไม่ควรก็น่าจะรู้ คนเดี๋ยวนี้สู้คนโบราณไม่ได้ จะทำจะสร้างอะไร ขาดจิตสำนึก ขาดความศรัทธาและขาดความกตัญญูกตเวที หากจะถามอาตมาว่าสมควรจะอนุรักษ์ที่พระราชวังปฐมนครแห่งนี้ไว้หรือไม่ อาตมาก็จะตอบว่าสมควรอนุรักษ์ไว้ เพราะถ้าไม่มีพระราชวังแห่งนี้องค์พระปฐมเจดีย์ก็จะไม่มีลักษณะเช่นนี้ ส่วนใครจะสร้างตึกรามบ้านช่องสูงแข่งกับองค์พระปฐมเจดีย์อย่างไรนั้น อาตมาไม่อยู่ในฐานะจะวิพากษ์วิจารณ์ได้แต่จะฝากข้อคิดสะกิดธรรมไว้ว่า คนเราต้องมีความกตัญญูรู้คุณผู้ให้กำเนิด นั่นจะเป็นเครื่องหมายของคนดี

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากกระแสของการเปิดเผยเรื่องราวของการอนุรักษ์พระราชวังปฐมนคร ซึ่งตั้งอยู่ใต้ผิวดิน ทางด้านทิศตะวันออก ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานเทศบาลนครนครปฐม ซึงอาคารหลังเดิมได้ถูกทุบทิ้งเพื่อรอเตรียมการก่อสร้างอาคารหลังใหม่มูลค่ากว่า 180 ล้านบาท ซึ่งพบมีประชาชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา ได้ให้ความสนใจเพิ่มขึ้น โดยมีข้าราชการส่วนหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นว่าสมควรจะอนุรักษ์สถานที่ที่เป็นพระราชวังประวัติศาสตร์ เอาไว้ แต่จนถึงวันนี้ยังไม่พบว่ามี ผู้หลักผู้ใหญ่ หรือแม้แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ออกมาแสดงความคิดเห็น เพื่อให้ประชาชนที่ยังข้องใจในเรื่องดังกล่าวได้ทราบข้อเท็จจริงอย่างชัดเจนแต่อย่างใด

กำลังโหลดความคิดเห็น