นครปฐม – “ประธานกลุ่มศรีทวารวดี” เดินหน้าฟ้องศาลปกครองเล่นงานกรมศิลปากร และเทศบาลนครนครปฐม สร้างอาคารทับสถานที่พระราชวังปฐมนคร ซึ่งเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ครั้งทรงได้เข้ามาบูรณะองค์พระปฐมเจดีย์ โดยขอให้ศาลปกครองเพิกถอนคำสั่งที่กรมศิลปากรอนุญาตให้ทำการก่อสร้างอาคาร รวมทั้งให้เทศบาลนครนครปฐม ย้ายที่ทำการออกจากพื้นที่ประวัติศาสตร์พระราชวังปฐมนคร
วันนี้ (23 ก.ค.) เวลา 10.30 น.ที่ศาลปกครองถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายไพบูลย์ พวงสำลี ประธานกลุ่มศรีทวารวดี และนายไพศาล ปฐมพงษ์พันธุ์ ประชาสัมพันธ์กลุ่มศรีทวารวดี ได้เดินทางเข้ายื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง กรณีกรมศิลปากรอนุญาตให้เทศบาลนครนครปฐม ทำการก่อสร้างอาคารทับสถานที่พระราชวังปฐมนคร ซึ่งมีความสำคัญเป็นจุดเชื่อมโยงในการผลักดันองค์พระปฐมเจดีย์ สู่การเป็นมรดกโลก ตามคำฟ้องหมายเลขคดีดำที่ 1129/2551 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2551
โดย นายไพบูลย์ พวงสำลี ประธานกลุ่มศรีทวารวดี กล่าวว่า กลุ่มศรีทวารวดี เป็นกลุ่มการทำงานเกี่ยวกับเรื่องของการศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์ และโบราณคดี รวมทั้งการปกป้องประวัติศาสตร์ในจังหวัดนครปฐม ได้ทราบเรื่องของการทุบอาคารเทศบาลนครนครปฐม หลังเก่าที่ตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันออกขององค์พระปฐมเจดีย์ ซึ่งเป็นอาคาร 5 ชั้น พร้อมที่จอดรถใต้ดินเมื่อประมาณปี 2547 ซึ่งสถานที่ดังกล่าวได้รับทราบทางข้อมูลว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งของพระราชวังปฐมนคร ซึ่งเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ครั้งทรงได้เข้ามาบูรณะองค์พระปฐมเจดีย์
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ต่อมาราวเดือนเมษายน 2548 ทางเทศบาลนครนครปฐม โดย นายเสรินทร์ แก้วพิจิตร นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครปฐม ได้มีคำสั่งให้ทุบอาคารสำนักงานหลังเก่าทิ้งเพื่อจะสร้างอาคารหลังใหม่ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 177 ล้านบาท โดยทางกลุ่มศรีทวารวดี ได้นำเรื่องราวดังกล่าวเสนอให้หน่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าตรวจสอบและมีมติให้เก็บพื้นที่ดังกล่าวไว้
จากนั้น เทศบาลนครนครปฐม ได้ดำเนินการเปิดประมูลการก่อสร้าง ซึ่งเป็นขัดมติที่มีสั่งการ จากนั้นได้มีการนำเรื่องเข้าสู่กรรมาธิการศาสนา จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณาเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง เมื่อประมาณปี 2550 และได้มีมติให้เก็บพื้นที่ดังกล่าว และให้เทศบาลนครนครปฐมไปหาสถานที่ก่อสร้างในแห่งอื่น
หลังจากนั้น เทศบาลนครนครปฐม ได้มีการเปิดประมูลการก่อสร้างอีกครั้ง โดยกรมศิลปากรได้มีมติอนุญาตให้มีการก่อสร้างอาคารสำนักงานดังกล่าวอีกครั้ง ทางกลุ่มศรีทวารวดี เห็นว่ากรมศิลปากรและเทศบาลนครนครปฐม ไม่ปฏิบัติตามมติดังกล่าว จึงได้นำเรื่องเข้ายื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อให้กรมศิลปากร และเทศบาลนครนครปฐม ปฎิบัติตามมติดังกล่าว และให้เพิกถอนคำสั่งที่กรมศิลปากรอนุญาตให้ทำการก่อสร้างอาคาร รวมทั้งให้เทศบาลนครนครปฐม ย้ายที่ทำการออกจากพื้นที่ประวัติศาสตร์พระราชวังปฐมนคร
นายไพบูลย์ กล่าวต่ออีกว่า ทั้งนี้ องค์พระปฐมเจดีย์ ได้รับการเสนอชื่อเบื้องต้นเพื่อจะรอเสนอชื่อการเป็นมรดกโลก ซึ่งจังหวัดนครปฐม โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้มีการขับเคลื่อนมาโดนตลอด หากอนุญาตให้มีกานก่อสร้างอาคารแห่งนี้จะเป็นการทำลายประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับการสถาปนาองค์พระปฐมเจดีย์ ครั้งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 จะเป็นการเสียหายอย่างใหญ่หลวงทางด้านประวัติศาสตร์ ที่ควรยกย่องและภาคภูมิใจของคนในจังหวัดนครปฐม และเป็นทำลายแหล่งข้อมูลประวัติศาสตร์ที่สำคัญในการก่อกำเนิดพระพุทธศาสนาในประเทศไทย เพราะองค์ปฐมเจดีย์ถือเป็นเป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาพุทธที่ได้เข้ามาเผยแพร่เป็นครั้งแรกในดินแดนประเทศไทย ฉะนั้น จะทำให้ความสำคัญในการเสนอให้องค์พระปฐมเจดีย์เป็นมรดกโลก นั้นจะลดถอยลงไป
ด้าน นายไพศาล ปฐมพงษ์พันธุ์ ประชาสัมพันธ์กลุ่มศรีทวารวดี กล่าวว่า สำหรับเรื่องดังกล่าวถ้ามีการสงวนที่เอาไว้ และมีการก่อสร้างพระราชวังปฐมนครมาอีกครั้งจะเป็นแรงดึงดูดให้กับนักท้องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ในการท่องเที่ยว ส่วนในเรื่องด้านเศรษฐกิจก็จะมีการทำให้มีการตื่นตัวในเรื่องนี้ ซึ่งยังงงว่ากรมศิลปากรมีการอนุมัติให้มีการก่อสร้างอาคารสำนักงานมาทับสถานที่ที่เป็นพระราชวังของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้อย่างไร
“หากวันนี้หน่วยงานที่รับผิดชอบไม่ใส่ใจ หรือไม่ดำเนินการในการอนุรักษ์โบราณสถานก็จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำซากดังเช่นเหตุการณ์ที่มีการทวงสิทธิในปราสาทพระวิหาร ที่เกิดกระแสถกกันในช่วงนี้ และพระราชวังปฐมนคร นั้นเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวพันกับพระมหากษัตริย์ในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนามาจนถึงวันนี้” นายไพศาล กล่าว
