xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจ “ตม.-ท่องเที่ยว” ย้ำอู่ตะเภาปลอดภัย เชื่อไม่มีมือมืดดอดก่อเหตุแน่

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)
ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง-ตำรวจท่องเที่ยว พร้อมดูแลนักท่องเที่ยว และระบายผู้โดยสารที่ตกค้างเต็มที่ โวได้เตรียมกำลังเพียงพอไว้บริการทุกสนามบินที่เปิดให้บริการ ย้ำความมั่นคงปลอดภัยยัง 100 เปอร์เซ็นต์ เชื่อพวกทำผิดกฎหมาย ก่อการร้ายคงไม่ใช้โอกาสนี้เข้าแทรกแซงสร้างความวุ่นวายแน่นอน

วันนี้ (28 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 15.30 น. พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อรรถกฤษ์ ธารีฉัตร ผบก.ทท. ร่วมกันแถลงข่าวมาตรการดูแลนักท่องเที่ยวหลังกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง

พล.ต.ท.ชัชวาลย์ กล่าวว่า หลังจากที่มีการปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง ทำให้มีปัญหาเรื่องการเดินทางเข้าออกประเทศไทย ส่วนของสตม.ที่ทำงานที่ท่าอากาศยานแห่งชาติ (ทอช.) ก็ทำงานปกติถึงแม้เข้าไปทำงานไม่ได้เพราะผู้โดยสารไม่สามารถเดินทางเข้าออกได้ แต่ตำรวจที่เข้าเวรก็สเตนบายอยู่ไม่ได้กลับบ้านไม่ทำอะไรเลย ตำรวจที่จัดไว้ก็ยังอยู่ตามผลัด แต่เป็นกำลังที่เตรียมการไว้ ถ้าต้องการกำลังตรงจุดนี้เราก็พร้อมที่จะไปทำงานทันที

พล.ต.ท.ชัชวาลย์ กล่าวต่อว่า จะเห็นว่ามีสนามบินอู่ตะเภาเปิดใช้เดินทางเข้าออก บางสายไปขึ้นไปลงที่นั้นส่วนที่อื่นๆ ที่เป็นสนามบินนานาชาติเปิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ ซึ่งมีการทำงานตามปกติ สายการบินที่บินตรงก็ยังบินอยู่ตามปกติ ซึ่งทุกที่มีตำรวจตม.คอยตรวจหนังสือเดินทางทั้งเข้าและออก ส่วนสนามบินอื่นที่เป็นสนามบินนานาชาติแต่ไม่ได้เปิดใช้ เราก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.ประจำอยู่ เช่นจะเปิดใช้สนามบินที่ จ.นครราชสีมา เราก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.ที่บริเวณนั้นสามารถนำกำลังไปทำงานที่สนามบินได้ สนามบินไหนที่จะเปิดเป็นสนามบินนานาชาติ หรือเป็นอยู่แล้วแต่ไม่ค่อยมีเที่ยวบินไปลงเราก็พร้อมที่จะใช้เปิดขึ้นลงของเที่ยวบินและเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.ไปทำงานทุกที่

พล.ต.ท.ชัชวาลย์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของสนามบินอู่ตะเภาเราใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตม.ที่มาบตะพุด พัทยา ศรีราชา เป็นด่านตม.ใกล้เคียงไปทำหน้าที่ตรวจหนังสือเดินทางเข้าออกของผู้โดยสาร กำลังดูว่าปริมาณของนักท่องเที่ยวมากน้อยแค่ไหน หากว่ามากแล้วกำลังเจ้าหน้าที่ ตม.ไม่เพียงพอ ซึ่งก็จะนำกำลังของ ทอช.เคลื่อนกำลังไปปฏิบัติงานได้ทันที โดยสามารถไปทำงานในสนามบินทุกที่ตลอด 24 ชม.เพื่ออำนวยความสะดวกตรวจหนังสือเดินทาง นอกจากนั้นยังมีด่านทางบกสามารถเดินทางออกไปยังประเทศข้างเคียงได้ เช่นไปประเทศมาเลเซีย ก็ไปด่าน ตม.ที่ข้ามไปประเทศมาเลเซียแล้วไปขึ้นสนามบินของประเทศมาเลเซียได้

ผบช.สตม.กล่าวอีกว่า อีกกรณีคือ การขอวีซ่าที่สนามบินสำหรับบางประเทศที่มีข้อตกลงก็สามารถเดินทางมาได้อย่างปกติยังสามารถทำวีซ่าให้ได้ตรงจุดที่สนามบินลง การตรวจหนังสือเดินทางก็ปกติแต่อาจจะไม่ 100 เปอร์เซ็นต์เหมือนปกติ เพราะช่องตรวจในสนามบินแต่ละที่กว้างแคบต่างกัน ถ้าพื้นที่กว้างก็บริการเต็มที่ แต่พื้นที่แคบก็ตั้งช่องได้น้อยอาจจะช้าลง การตรวจหนังสือเดินทางอย่างขาออกนักท่องเที่ยวบางคนอาจจะวีซ่าขาดเพราะเดินทางไม่ตรงตามที่กำหนดอยู่เกินที่ระบุในวีซ่า จากกรณีของกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ใช้กรณีอื่น ตามกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองสามารถใช้ดุลพินิจงดเว้นการเปรียบเทียบปรับ

“ผู้โดยสารที่เดินทางไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้ว่า วีซ่าขาดจะต้องถูกจับ ถูกปรับ จะเดินทางได้หรือไม่ จะถูกกักตัวหรือไม่ ไม่ต้องกังวลในสิ่งเหล่านี้ เจ้าหน้าที่ ตม.สามารถดูแลเรื่องเหล่านี้ให้ได้ตามดุลยพินิจของกฎหมาย สามารถเดินทางกลับประเทศได้ ไม่ต้องกังวล เราได้มีการประชุมหัวหน้าศูนย์ตรวจคนเข้าเมืองทำความเข้าใจเรียบร้อยแล้วเจ้าหน้าที่เข้าใจตรงกัน เราพร้อมปฎิบัติการทุกรูปแบบ ทุกสนามบินที่ได้รับแจ้งว่าจะมีเที่ยวบินไปลง แต่อาจจะคลุกคลักบ้างหากมีการแจ้งกระทันหัน อาจจะไม่รวดเร็วเท่าที่ควร แต่ที่ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา เจ้าหน้าที่พร้อมตลอดเวลา และหากสนามบินไหนจะเปิดให้บริการอีกเราก็พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ไปปฏิบัติงานทันทีไม่มีปัญหาอะไร” ผบช.สตม.กล่าว

ผบช.สตม.กล่าวต่อไปว่า การทำงานอาจจะมีปัญหาเรื่องอุปกรณ์บ้างที่ไม่รวดเร็ว และทันสมัยเท่าที่สนามบินดอนเมือง และสุวรรณภูมิเพราะเน้นการทำงานโดยใช้คนตรวจเป็นหลัก เครื่องมืออุปกรณ์ยังไม่เต็มที่ เพราะเป็นการทำงานเฉพาะหน้า แต่หากว่ามีการใช้สนามบินอื่นสำรองเป็นเวลานานก็ต้องจะมีการขนย้ายอุปกรณ์การทำงานเข้าไป อย่างไรก็ตามขอย้ำว่าเรื่องของความมั่นคงยัง 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม และเชื่อว่าพวกที่ทำผิดกฎหมาย ก่อการร้ายคงไม่ใช้โอกาสนี้เข้ามาเพราะคนเข้าออกน้อย ซึ่งเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลเรื่องของความมั่นคงกับเรื่องของการบริการ

ด้าน พล.ต.ต.อรรถกฤษ์ กล่าวว่า ทางตำรวจท่องเที่ยวมีคอลเซ็นเตอร์ 1155 จำนวน 10 คู่สาย คอยบริการนักท่องเที่ยว ซึ่งในวันที่มีการปิดสนามบิน มีนักท่องเที่ยวโทรมาเป็นจำนวนมากโทรมาถามว่า สนามบินจะเปิดเมื่อไหร่ แล้วเขาจะไปอยู่ที่ไหน เขาจะออกจากสนามบินอย่างไร สายการบินไหนยังให้บริการอยู่ ก็มีการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวออกมาจากสนามบินจนไม่มีเหลืออยู่แล้ว ปัญหาต่อมาคือการผิดแผนของนักท่องเที่ยวทำให้เขาประสบปัญหาเรื่องปากท้องและความเป็นอยู่ เรื่องค่าใช้จ่าย ค่าที่พัก เราได้ออกคำสั่งไปยังสถานีตำรวจท่องเที่ยวกว่า 50 สถานีทำการสำรวจและให้การบริการข่าวสาร ซึ่งปัญหาเบื้องต้นเรื่องที่พักอาหาร ผู้ประกอบการต่างๆ วัดวาอาราม พร้อมที่จะช่วยเหลือนักท้องเที่ยว นับเป็นเรื่องที่ดี

พล.ต.ต.อรรถกฤษ์ กล่าวด้วยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวได้มีการเรียกประชุมเพื่อดูแลนักท่องเที่ยวพานักท่องเที่ยวกลับบ้าน ทางตำรวจท่องเที่ยวและผู้ประกอบการได้ดูแลนักท่องเที่ยวให้เกิดความปลอดภัยจนกว่าเขาจะได้กลับบ้าน และจัดเตรียมข้อมูลเที่ยวบิน สายการบิน ที่พักอาศัยไว้ให้นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาสอบถามข้อมูล ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ปิดสนามบินมีนักท่องเที่ยวโทรมาใช้บริการคอลเซ็นเตอร์ของตำรวจท่องเที่ยววันละ 2,000-2,500 สาย เพิ่มขึ้นจากวันปกติที่จะโทรมาวันละ 900-1,200 สาย
กำลังโหลดความคิดเห็น