ททท. ชวนเที่ยวงานมหกรรมท่องเที่ยวยิ่งใหญ่แห่งปี “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2552” จัดขึ้นในวันที่ 3 - 7 มิถุนายนนี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายในงานรวบรวมสินค้าท่องเที่ยวที่โดดเด่นมากมาย ทั้งแพกเกจทัวร์ โรงแรม สปา ในราคาพิเศษสุด สินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก อาหารอร่อยจากทั่วเมืองไทย ตื่นตากับการแสดงศิลปวัฒนธรรม และความบันเทิงมากมาย งานเดียวเที่ยวได้ครบ 3 - 7 มิถุนายนนี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ททท. กำหนดจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2552 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยนำเสนออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภาพรวม ด้วยการแนะนำแหล่งท่องเที่ยวใหม่ การท่องเที่ยวในหลายมิติ การเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมประเพณีที่มีเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น สะท้อนให้เห็นถึงประโยชน์ของการท่องเที่ยว รวมไปถึงการจัดแสดงทางด้านเทคโนโลยีด้านการตลาดท่องเที่ยว และนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ทั่วประเทศ แก่ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปที่เข้าชมงาน
ภายในงานพบกับกิจกรรมหลากหลายที่น่าสนใจ อาทิ การแสดงวัฒนธรรม ประเพณี หัตถกรรมงานฝีมือ วิถีชีวิต สินค้าที่มีชื่อเสียงภายในท้องถิ่น จากทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 5 พื้นที่ ได้แก่ ภาคเหนือ นำเสนอวิถีชีวิตของภาคเหนือ ในรูปแบบ ล้านนา ล้านป่า ล้านน้ำ ล้านศรัทธา ภาคใต้ นำเสนอมิติทางวัฒนธรรมของภาคใต้ ดินแดนแห่งสีสัน 3 วัฒนธรรม ระหว่าง ไทย จีน มุสลิม การจำลองสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปตุกีส มัสยิด พระธาตุเจดีย์สมัยศรีวิชัย ภาคกลาง นำเสนอบรรยากาศวิถีชีวิต และวัฒนธรรมไทยภาคกลางในอดีต ยุค พ.ศ. 2499 (โก๋หลังวัง) การจำลองบ้านทรงไทยภาคกลาง ตลาดน้ำ ถนนคนเดิน ห้องแถว โรงหนัง ห้องเรียน และสถานีรถไฟหัวหิน ภาคตะวันออก การจำลองสวนผลไม้ขึ้นชื่อ วิถีชุมชนชาวประมง ชายหาด ตลาดหนองมนตลาดบ้านแพ การล่องแก่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นำเสนอภายใต้แนวคิด “แหล่งเรียนรู้...อู่อารยธรรม” ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวทั้ง 4 ยุค ตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ยุคประวัติศาสตร์ และยุคปัจจุบัน สำหรับกิจกรรมบนเวทีกลางจะนำเสนอการแสดงทางวัฒนธรรมท้องถิ่นสลับกับความบันเทิงในรูปแบบต่าง ๆ ตั้งแต่เวลา 11.00 – 20.00 น. ทุกวัน เช่น มหกรรมนาฏศิลป์ไทย 4 ภาค วงดนตรีลูกทุ่งไทย ผลงานความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปวัฒนธรรม ฯลฯ
และเพื่อตอบสนองความต้องการในการเดินทางท่องเที่ยวที่หลากหลายเหมาะกับทุกกลุ่มเป้าหมาย ททท. ยังได้จัดโซนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและผจญภัย ตามแนวคิด “มหัศจรรย์ ท่อง 2 น้ำ 3 ป่า” โดยจำลองหน้าผาน้ำตก ขนาดสูง 5 เมตร ทางเดินศึกษาป่าชายเลน ป่าเบญจพรรณ และป่าดงดิบ ซึ่งจะได้สัมผัสกลิ่นอายของละอองหมอกแห่งป่าเมฆ การจำลองบรรยากาศการดูนก ดูดาว สาธิตการปีนหน้าผาจำลอง การพายเรือคายัค เพลย์โบ๊ท เส้นทางขี่จักรยาน ฯลฯ โซนการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ มีการจัดแสดงความรู้ ภูมิปัญญาเพื่อสุขภาพ สุขภาพกับการเดินทางท่องเที่ยว และนวัตกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โซนการบริการสินค้ามาตรฐาน เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวที่เข้าชมงานในระบบ Interactive Multimedia ที่สามารถยกระดับและส่งเสริมการท่องเที่ยวในแบบยั่งยืน ใน Theme “The 7 sense of journey” หรือ “เที่ยวเมืองไทยอย่างมีมาตรฐาน สนุกสนานไปถึงหัวใจ” นอกจากนี้ ยังมีบริเวณการแสดงผลงานของ ททท. วิวัฒนาการและเทคโนโลยีและสารสนเทศของอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว การสาธิตให้บริการข้อมูลข่าวสารของ Call Center 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย ให้ชมและตอบคำถามให้กับนักท่องเที่ยวที่มาในงาน สายด่วนเพื่อการท่องเที่ยว จากนั้น ผู้เข้าชมงานสามารถอิ่มอร่อยกับโซนจำหน่ายอาหาร 4 ภาค (ภาคตะวันออกร่วมกับภาคกลาง) ที่คัดสรรสุดยอดร้านอาหารขึ้นชื่อจากทั่วประเทศ กว่า 50 ร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก หัตถกรรมพื้นบ้าน 5 ภูมิภาค และสินค้าโอทอประดับพรีเมี่ยม
นอกจากนี้ ททท. ยังได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการภาคเอกชน ชมรม สมาคม ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกว่า 350 ราย ร่วมจัดแสดงสินค้าและบริการ เพื่อให้ผู้เข้าชมงานสามารถเลือกซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยว โรงแรม ที่พัก สนามกอล์ฟ รถเช่า และกิจกรรมอื่นๆ ในราคาและโปรแกรมพิเศษสุด รวมถึงการจัดแสดงกิจกรรมจากหน่วยงานด้านท่องเที่ยว เช่น กระทรวงวัฒนธรรม สายการบิน ธนาคาร มูลนิธิโครงการหลวง ไปรษณีย์ ศูนย์ศิลปาชีพ เป็นต้น
และเพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้และนวัตกรรมทางการท่องเที่ยวที่ส่งผลต่อแนวโน้มของการท่องเที่ยวและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในยุคปัจจุบัน ททท. จึงได้จัดสัมมนา “เปิดมุมมอง ท่องเที่ยวไทย” ใช้ชื่อตอนว่า “ท่องเที่ยวสร้างสรรค์ ต่อยอด เพิ่มค่า หาจุดต่าง” มุ่งเน้นเรื่องแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์โดยวิทยากรที่มีชื่อเสียงในแวดวงท่องเที่ยว ภาพยนตร์ โฆษณา หนังสือ ธุรกิจ อาทิ ภาณุ อิงคะวัต, เพชร มาร์, เร แมคโดนัลด์, อิ๊ก ครัวอินดี้, นนนรีย์ นิมิบุตร ฯลฯ ในระหว่างวันที่ 6 - 7 มิถุนายน 2552 เวลา 09.30 – 17.00 น. ณ ห้องจูปิเตอร์ 4 - 5 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี
ทั้งนี้ททท. คาดว่าการจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยครั้งนี้ จะมีผู้เข้าร่วมชม ประมาณ 200,000 คน สร้างรายได้ในการซื้อขายโดยตรงเฉพาะ 5 วัน ภายในงานประมาณ 150 ล้านบาท และรายได้เพิ่มจากการเดินทางหลังงานอีกประมาณ 200 ล้านบาท
ในโอกาสเดียวกันนี้ ททท. ยังได้เป็นเจ้าภาพการจัดงานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวThailand Travel Mart Plus The Greater Mekong Subregion (TTM+) ในช่วงเวลาเดียวกับงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย เพื่อเป็นเวทีให้ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวไทยและจากประเทศกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ได้นำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่หลากหลายให้แก่ผู้ซื้อ (Buyer) ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวจากต่างประเทศทั่วโลก โดยเป็นการจัดงานในรูปแบบของการทำนัดหมายเจรจาธุรกิจ โอกาสนี้ ยังเปิดโอกาสให้ธุรกิจเอกชนขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) ได้มีโอกาสเสนอขายสินค้าท่องเที่ยว และแสดงศักยภาพของสินค้าทางการท่องเที่ยวของไทย โดยในปีนี้มี ผู้ขาย (Seller) เข้าร่วมงานจำนวน 405 หน่วยงาน และ Buyer ตอบรับเข้าร่วมงานจำนวน 360 ราย จาก 51 ประเทศ ซึ่ง Buyer ส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่เสนอขายรายการนำเที่ยวมายังประเทศไทย และประเทศในแถบลุ่มน้ำโขง อาทิ เยอรมนี รัสเซีย อังกฤษ ภูมิภาคอเมริกา โอเชียเนีย เอเชียตะวันออก ยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ แอฟริกาใต้ ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นการเจรจาธุรกิจแล้ว ททท. ยังเปิดโอกาสให้ Buyer เข้าร่วมสำรวจสินค้าภายในคูหาแสดงสินค้าและร่วมชมกิจกรรมภายในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยด้วย โดยในวันที่ 4-5 มิถุนายน เป็นวันเจรจาธุรกิจ (Trade Days) และในวันที่ 6-7 มิถุนายน เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม (Consumer Days)
ผู้สนใจเข้าร่วมชมงานได้ฟรี ในระหว่างวันที่ 3-7 มิถุนายน 2552 เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ททท.เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย โทร. 1672 หรือ www.tourismthailand.org สำหรับพิธีเปิดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2552 จะจัดขึ้นในวันที่ 3 มิถุนายน 2552 เวลา 15.30 น. ณ เวทีกลาง อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
