ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จับมือสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่และสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัยเตรียมจัดงาน Northern & Adventure Travel Mart 2009 ดึงผู้ซื้อ-ขาย เจรจาธุรกิจ พร้อมขายทัวร์ราคาพิเศษ หวังขยายตลาดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและผจญภัย 17 จังหวัดภาคเหนือ ดึงเม็ดเงินท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ พร้อมดันเชียงใหม่เป็นศูนย์กลาง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ และสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย แถลงข่าวการจัดงาน Northern & Adventure Travel Mart 2009 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-8 พ.ย.52 ที่สวนเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 เพื่อขยายตลาดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและผจญภัยในภาคเหนือ รวมทั้งส่งเสริมให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในด้านนี้ของภาคเหนือและประเทศไทย
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านการตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กระแสการท่องเที่ยวในปัจจุบันทั่วโลกได้มุ่งสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่ตระหนักถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและรักษาสภาพแวดล้อม ซึ่งการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Ecotourism) เป็นการท่องเที่ยวทางเลือกอย่างหนึ่งให้ให้การศึกษาความรู้ควบคู่ไปกับการพักผ่อน ตลอดจนช่วยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชน และกระตุ้นให้เกิดการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทั้งทางธรรมชาติ วัฒนธรรมและประเพณีไปพร้อมกันด้วย ซึ่ง ททท.ต้องการเผยแพร่การท่องเที่ยวในรูปแบบนี้ให้แพร่หลายยิ่งขึ้น จึงได้ร่วมมือสนับสนุนการจัดงาน Northern & Adventure Travel Mart 2009 ขึ้นมา
โดยการจัดงานที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6-8 พ.ย.52 นั้น จะมีการจัดกิจกรรม Trade Meet ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวด้านนิเวศและผจญภัยใน 17 จังหวัดภาคเหนือประมาณ 120 ราย ได้พบปะกับผู้ประกอบการจากกรุงเทพฯ และภูมิภาคอื่น รวมทั้งจากต่างประเทศ ประมาณ 150 ราย เพื่อเจรจาธุรกิจระหว่างกัน นอกจากนี้จะมีการเปิดให้ประชาชนที่สนใจซื้อแพ็คเก็จท่องเที่ยวในราคาพิเศษด้วย โดยในบริเวณงานจะมีการเปิดโอกาสให้ได้ทดลองกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศและผจญภัย เช่น จักรยานเสือภูเขา บอลลูน เครื่องร่อน บีบีกัน รถเอทีวี เรือแคนนู เป็นต้น
รองผู้ว่าการด้านการตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวด้วยว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นโอกาสดีของจังหวัดเชียงใหม่ในการที่จะได้แสดงศักยภาพการเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและผจญภัยของภาคเหนือ เนื่องจากมีสินค้าทางการท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ วัฒนธรรมและที่มนุษย์สร้างขึ้นหลายแห่งที่มีศักยภาพ ได้มาตรฐาน สามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้ พร้อมทั้งชี้ว่าจังหวัดในภาคเหนือทั้งหมดต่างมีจุดเด่นในการเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านนี้ที่แตกต่างกัน เช่น การล่องแก่ง การเดินป่า การท่องเที่ยวเชิงเกษตร เป็นต้น ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้จะช่วยประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นและกระจายนักท่องเที่ยวสู่แหล่งท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัดได้มากยิ่งขึ้น
ขณะที่นายเศรษฐพล จินดานนท์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เพื่อเผยแพร่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศเป็นที่รู้จักมากขึ้นเป็นการนำร่องครั้งแรกในภาคเหนือ เนื่องมีสินค้าทางการท่องเที่ยวด้านนี้อยู่แล้วทั้งป่าไม้ ภูเขาและแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ที่เป็นจุดขายมาช้านาน เพียงแต่ที่ผ่านมาได้มีการส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศโดยเฉพาะเท่านั้น ซึ่งการจัดงานครั้งนี้จะเท่ากับเป็นการพัฒนาตลาดให้รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มากขึ้น
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศ ระบุว่า ปัจจุบันกลุ่มนักท่องเที่ยวที่นิยมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย มีอยู่เป็นจำนวนมาก และล้วนเป็นกลุ่มที่ศักยภาพสูงในการใช้จ่ายเงินเพื่อการท่องเที่ยว เพราะการท่องเที่ยวด้านนี้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ดังนั้นหากมีการทำการตลาดที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว เชื่อว่าจะทำมีเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวเข้ามาหมุนเวียนในพื้นที่ภาคเหนือมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจภาพรวมในพื้นที่ด้วย