ดร.วราวุธ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซากดึกดำบรรพ์และพิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี ที่ปรึกษาด้านวิชาการศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ.2551 แล้ว เพื่ออนุรักษ์และบริหารจัดการซากดึกดำบรรพ์ให้ถูกต้อง เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้ลักลอบขุดค้นและทำการค้าขายซากดึกดำบรรพ์อย่างมาก ทำให้สูญเสียมรดกของแผ่นดิน
ทั้งนี้ พ.ร.บ.ดังกล่าว ระบุว่า ผู้ที่พบแหล่งหรือซากดึกดำบรรพ์ต้องแจ้งกรมทรัพยากรธรณีภายใน 7 วัน เพื่อกันขอบเขตสำหรับป้องกันการบุกรุกหรือทำลาย หากซากดึกดำบรรพ์ที่พบหายาก จะทำการขึ้นทะเบียน เพื่อใช้เป็นแหล่งอ้างอิงและศึกษาวิจัยต่อไป นอกจากนี้ ยังห้ามนำซากดึกดำบรรพ์ออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่มีใบอนุญาต หากมีผู้ฝ่าฝืนนำซากดึกดำบรรพ์ที่ขึ้นทะเบียนมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 700,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนกรณีซากดึกดำบรรพ์ที่ไม่ต้องขึ้นทะเบียนมีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท สำหรับผู้ที่ถือครองซากดึกดำบรรพ์ก่อนที่ พ.ร.บ.ประกาศใช้ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีรับทราบภายใน 1 ปี คือ ภายในวันที่ 9 สิงหาคม 2552 เพื่อตรวจสอบและทำการขึ้นทะเบียน หากตรวจสอบพบว่าเป็นซากดึกดำบรรพ์พบได้ปานกลางหรือพบได้ง่ายอนุญาตให้เจ้าของถือครองไว้ได้ แต่ถ้าเป็นซากดึกดำบรรพ์หายาก จะกำหนดให้เป็นทรัพยากรแผ่นดิน เจ้าของต้องส่งมอบคืนให้แก่กรมทรัพยากรธรณีภายใน 15 วัน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางกรมทรัพยากรธรณีมีข้อมูลของผู้ที่ครอบครองซากดึกดำบรรพ์ หากพ้นเวลาที่กำหนดแล้วยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีจะเข้าตรวจสอบและดำเนินการตามข้อกฎหมายทันที ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อขอรับหนังสือ พ.ร.บ.คุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ. 2551 ได้ที่กรมทรัพยากรธรณี หรือ www.dmr.go.th
ทั้งนี้ พ.ร.บ.ดังกล่าว ระบุว่า ผู้ที่พบแหล่งหรือซากดึกดำบรรพ์ต้องแจ้งกรมทรัพยากรธรณีภายใน 7 วัน เพื่อกันขอบเขตสำหรับป้องกันการบุกรุกหรือทำลาย หากซากดึกดำบรรพ์ที่พบหายาก จะทำการขึ้นทะเบียน เพื่อใช้เป็นแหล่งอ้างอิงและศึกษาวิจัยต่อไป นอกจากนี้ ยังห้ามนำซากดึกดำบรรพ์ออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่มีใบอนุญาต หากมีผู้ฝ่าฝืนนำซากดึกดำบรรพ์ที่ขึ้นทะเบียนมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 700,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนกรณีซากดึกดำบรรพ์ที่ไม่ต้องขึ้นทะเบียนมีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท สำหรับผู้ที่ถือครองซากดึกดำบรรพ์ก่อนที่ พ.ร.บ.ประกาศใช้ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีรับทราบภายใน 1 ปี คือ ภายในวันที่ 9 สิงหาคม 2552 เพื่อตรวจสอบและทำการขึ้นทะเบียน หากตรวจสอบพบว่าเป็นซากดึกดำบรรพ์พบได้ปานกลางหรือพบได้ง่ายอนุญาตให้เจ้าของถือครองไว้ได้ แต่ถ้าเป็นซากดึกดำบรรพ์หายาก จะกำหนดให้เป็นทรัพยากรแผ่นดิน เจ้าของต้องส่งมอบคืนให้แก่กรมทรัพยากรธรณีภายใน 15 วัน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางกรมทรัพยากรธรณีมีข้อมูลของผู้ที่ครอบครองซากดึกดำบรรพ์ หากพ้นเวลาที่กำหนดแล้วยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีจะเข้าตรวจสอบและดำเนินการตามข้อกฎหมายทันที ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อขอรับหนังสือ พ.ร.บ.คุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ. 2551 ได้ที่กรมทรัพยากรธรณี หรือ www.dmr.go.th