โดย : ปิ่น บุตรี
“...สาบานว่าไม่เสียใจ เสียใครไม่เท่าเสียเธอ จะยอมให้ใครมาทำร้ายเธอเป็นไปได้ไง รักเธอประเทศไทย”
เพลง“รักเธอประเทศไทย” : หรั่ง ร็อคเคสตร้า
ประเทศไทย I Love You
ผมเป็นคนไทย รักประเทศไทย รักพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย รักคนไทย แต่ไม่รักคนไทยบางคน โดยเฉพาะพวกทำร้าย ทำลายชาติ
เมืองไทยของเรานั้นมีดีทางการท่องเที่ยวในระดับต้นๆของเอเชีย ทั้ง ธรรมชาติ ป่าเขาลำเนาไพร หาดทรายชายทะเล ศิลปวัฒนธรรม วัดวาอาราม และเทศกาลประเพณีอันดีงาม โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ที่โด่งดังไปทั่วโลก
แต่สงกรานต์ปีนี้ กลับเป็นสงกรานต์ที่เศร้า ห่อเหี่ยว รันทด หดหู่ที่สุดในชีวิตของผม
สงกรานต์ปีนี้กลายเป็นสงกรานต์เลือดที่ไม่น่าเชื่อว่านี่มันจะเกิดขึ้นในเมืองไทย ดินแดนแห่งรอยยิ้ม ผู้คนมีน้ำใจอันเป็นที่โจษจันไปทั่วโลก
ไม่น่าเชื่อว่านี่มันจะเกิดขึ้นในวันสงกรานต์ วันปีใหม่ไทยที่คนไทยควรมีความสุขกับการเล่นน้ำ สุขกับการอยู่กับครอบครัว สุขกับการเดินทางท่องเที่ยว สุขกับการพักผ่อนในวันหยุดยาว
ไม่น่าเชื่อว่านี่มันจะเกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงที่ในช่วงสงกรานต์ กลายเป็นเมืองอันตรายไปแล้ว
แต่ทั้งหลายทั้งปวงที่มันก็เกิดขึ้น มูลเหตุก็เนื่องมาจากนักโทษชายไอ้หน้าเหลี่ยมเพียงคนเดียว
Bangkok (แดง) Dangerous
สงกรานต์ปีนี้ผมวางแผนไว้ว่าจะไม่ไปเที่ยวต่างจังหวัด เพราะที่ผ่านมาออกต่างจังหวัดบ่อย พอถึงปีใหม่ไทย ขอเที่ยวกรุงเทพฯบ้าง
แล้วแผนการเที่ยวกทม.ก็ถูกโปรแกรมขึ้นคร่าวๆ เริ่มตั้งแต่วันศุกร์เมา เสาร์นอน อาทิตย์ถอน วันจันทร์นัดกับสาวไปเล่นสงกรานต์ถนนข้าวสาร อังคารจัดห้อง วันพุธพักผ่อน พฤหัสกลับไปใช้ชีวิตทำงานตามปกติ
แต่วันที่ 8 เม.ย.ผมเริ่มรู้สึกถึงสัญญาณแหม่งๆ เมื่อม็อบเสื้อแดงประกาศชุมนุมใหญ่แบบแตกหัก แต่กลับมีข่าวครอบครัวนักโทษชายทักษิณเดินทางออกไปเมืองนอกกันหมด
หลังจากนั้น วันที่ 9 เม.ย. ม็อบเสื้อแดงก็แสดงความจัญไรออกมาด้วยการไปยึดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิปิดถนนโดยรอบ และปิดถนนอีกหลายเส้น
วันนั้นการจราจรในกรุงเทพฯเป็นอัมพาต เท่านั้นยังไม่พอการปิดถนนของม็อบเสื้อแดงยังสร้างความเดือดร้อนต่อโรงพยาบาลหลายโรงในแถบนั้น
วันนั้นม็อบเสื้อแดงบอกเป็นการยกระดับการชุมนุม แต่ในความเป็นจริง นี่คือการยกระดับความไม่พอใจของคนในกทม.ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำครั้งนี้ให้เพิ่มมากขึ้น
ผู้คนก่นดา สาปส่ง กันทั้งบ้านทั้งเมือง ที่โดนใจและโจษจันกันมากก็เห็นจะเป็นการที่พวกเสื้อแดงพยายามจะไปปิดถนนแถวสาทร โดยมีตำรวจยืนโบกรถให้ จนคนแถวนั้นโห่ไล่ ขว้าง ปาของใส่ ทำให้เสื้อแดงต้องหลบลี้หนีหายไปในที่สุด
เรียกได้ว่าม็อบเสื้อแดงเสียแนวร่วมคนกรุงเทพฯไปไม่น้อย แต่เสื้อแดงยังคงฮึกเหิมเดินหน้าไม่หยุด ประกาศยกระดับการชุมนุมอีกครั้งด้วยการไปป่วนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนบวก 3 บวก 6
วันแรกป่วนพอเป็นพิธี แต่วันที่สอง(11 เม.ย.)ป่วนหนัก แถมยังเป็นวันที่ตำรวจ ทหาร ใส่เกียร์ว่าง ในขณะที่รัฐบาลก็บ้อท่า หน่อมแน้ม จนทำให้การประชุมอาเซียนล่ม และการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในพัทยา ก่อนจะยกเลิกในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
เหตุป่วนครั้งนี้ ทำภาพลักษณ์ประเทศชาติป่นปี้ การลงทุน การท่องเที่ยวย่อยยับ สร้างความเสียหายให้เมืองไทยอย่างใหญ่หลวง แถมยังสร้างความเสียหายให้กับประเทศในกลุ่มอาเซียนและประเทศที่เข้าร่วมประชุมอีกด้วย
นับเป็นการยกระดับการประท้วง(อีกครั้ง)ที่น่าสมเพชเป็นอย่างยิ่ง จนสื่อจำนวนหนึ่งยกระดับม็อบเสื้อแดงให้เป็น ม็อบแดงถ่อย เถื่อน ม็อบแดงจัญไร ม็อบแดงอับปรีย์ และม็อบหางแดง (คำเรียกขานเหล่านี้ขอให้แยกกันระหว่างผู้ที่ไปชุมนุมด้วยความเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจกับ ผู้ก่อความวุ่นวาย ความรุนแรง ป่วนบ้าน ป่วนเมือง)
แต่...อนิจจา งานนี้นักโทษชายทักษิณกลับวีดีโอลิงค์ บอกว่านี่คือชัยชนะของมวลชนม็อบเสื้อแดง เผยธาตุแท้ของนักโทษชายทักษิณขึ้นมาอีกระดับหนึ่งว่า เขาจับเอาประเทศชาติเป็นเดิมพันเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น
ในขณะที่นายกฯอภิสิทธิ์ประกาศกร้าวว่า “บนความเสียหายของประเทศชาติ ไม่ว่าใครประกาศชัยชนะ ผมถือว่ากลุ่มคนนั้น เป็นศัตรูของประเทศไทย”
คำตอบชัดเจน แจ่มชัด แต่เสื้อแดงไม่หยุด !!!
เช้าวันที่ 12 เม.ย. หลังตำรวจเข้าจับกุมตัวอริสมันต์ผู้นำม็อบบุกป่วนอาเซียน แกนนำม็อบที่ทำเนียบได้พยายามปลุกเร้า ปลุกระดม บิดเบือนข่าวสารตลอด เพื่อให้ม็อบก่อความรุนแรง จนรัฐบาลต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในกทม. เพื่อป้องกันเหตุ
หลังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ม็อบเสื้อแดงสำแดงความถ่อยทันทีด้วยการทุบรถนายกฯพังยับเยิน ทำร้ายเลขาฯนายก ทำร้ายผู้ติดตามนายกฯ เป็นภาพปรากฏไปทั่ว
จากนั้นก็เริ่มทยอยไปปิดถนนสายต่างๆ พร้อมเริ่มทำการป่วนบ้านป่วนเมืองไปทั่ว จนเช้ามืดวันรุ่งขึ้น ทหารเริ่มเข้าสลายม็อบที่สามเหลี่ยมดินแดงเป็นจุดแรก สร้างความแค้นในกับพวกเสื้อแดง ถึงขนาดไปนำรถแก๊ส(ของบริษัทที่มีประธาน บริษัทชื่อ ชัยสิทธิ์ ชินวัตร) มาปิดล้อมแฟลตดินแดง เรียกว่าเอาให้มันตายตกไปตามกัน โดยที่ชาวบ้านแถวนั้นไม่รู้อิโหน่อิเหน่
จากนั้นทั้งวันพวกเสื้อแดงได้ยกระดับความรุนแรงขึ้นอีกขั้น จากม็อบเป็นกองโจร ทำการก่อการจลาจล เผารถ เผาบ้าน เผาเมือง ในหลายจุดทั่วกรุงฯ บางจุดถึงขั้นก่อวินาศกรรมกันเลยทีเดียว(อย่างที่แฟลตดินแดง)
งานนี้ ชาวบ้านทนที่ได้รับความเดือดร้อนทนไม่ได้ ต้องออกมาต่อต้านปกป้องชุมชนของตัวเองจนเกิดการปะทะกัน แล้วเสื้อแดงก็เอาปืนไปไล่ยิงชาวบ้านที่นางเลิ้งเสียชีวิตไป 2 ศพ สร้างความเศร้าใจแก่ผู้ที่รู้ข่าวนี้เป็นอย่างยิ่ง
วันนั้นงานสงกรานต์ถนนข้าวสารที่โด่งดังไปทั่วโลกต้องยกเลิกกลางคัน เพราะม็อบเสื้อแดงไปเผารถเมล์ที่ผ่านฟ้าและก่อการจลาจลในกรุงเทพฯอีกหลายจุด จนกรุงเทพฯในวันสงกรานต์เกิดมิคสัญญี กลายเมืองอันตรายในสายตาชาวโลก
สำหรับเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็มีมูลเหตุเนื่องมาจากนักโทษชายคนเดียว ที่จับเอาประชาชนคนไทยเป็นประกัน
นับว่านักโทษชายคนนั้นเป็นตัวอันตรายต่อประเทศไทยและสถาบันเป็นอย่างยิ่ง
ประเทศไทย ICU
หลังเกิดเหตุ ขนาดทำสงกรานต์กลายเป็นสงกรานต์เลือด สงกรานต์เริงไฟ ประเทศไทยจากเดิมที่ป่วยด้วยพิษเศรษฐกิจ การเมือง
มาวันนี้ได้ถูกนักโทษชายวางแผนออกแบบระดมให้พวกเสื้อแดงป่วนประเทศจนเมืองไทยอยู่ในอาการโคม่า ดุจดังคนไข้เข้าไอซียู
แต่ถึงยังไงประเทศไทยที่ผมรัก ก็ยังมีความหวัง มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ถ้าประชาชนคนไทยไม่ท้อ ไม่หมดกำลังใจ รู้รักสามัคคี ช่วยกัน ฟื้นประเทศไทย ช่วยกันปกป้อง ส่งเสริม ผลักดันให้คนดีให้ขึ้นปกครองบ้านเมือง และช่วยกันสกัดกั้นไม่ให้คนชั่วช้า ไม่ให้ใครบางคนมาทำร้ายทำลายประเทศไทย แล้ววันนั้นประเทศไทยก็จะกลับมาน่าอยู่เหมือนเดิม แม้อาจจะต้องใช้เวลาบ้างก็ตาม
“...สาบานว่าไม่เสียใจ เสียใครไม่เท่าเสียเธอ จะยอมให้ใครมาทำร้ายเธอเป็นไปได้ไง รักเธอประเทศไทย”
เพลง“รักเธอประเทศไทย” : หรั่ง ร็อคเคสตร้า
ประเทศไทย I Love You
ผมเป็นคนไทย รักประเทศไทย รักพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย รักคนไทย แต่ไม่รักคนไทยบางคน โดยเฉพาะพวกทำร้าย ทำลายชาติ
เมืองไทยของเรานั้นมีดีทางการท่องเที่ยวในระดับต้นๆของเอเชีย ทั้ง ธรรมชาติ ป่าเขาลำเนาไพร หาดทรายชายทะเล ศิลปวัฒนธรรม วัดวาอาราม และเทศกาลประเพณีอันดีงาม โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ที่โด่งดังไปทั่วโลก
แต่สงกรานต์ปีนี้ กลับเป็นสงกรานต์ที่เศร้า ห่อเหี่ยว รันทด หดหู่ที่สุดในชีวิตของผม
สงกรานต์ปีนี้กลายเป็นสงกรานต์เลือดที่ไม่น่าเชื่อว่านี่มันจะเกิดขึ้นในเมืองไทย ดินแดนแห่งรอยยิ้ม ผู้คนมีน้ำใจอันเป็นที่โจษจันไปทั่วโลก
ไม่น่าเชื่อว่านี่มันจะเกิดขึ้นในวันสงกรานต์ วันปีใหม่ไทยที่คนไทยควรมีความสุขกับการเล่นน้ำ สุขกับการอยู่กับครอบครัว สุขกับการเดินทางท่องเที่ยว สุขกับการพักผ่อนในวันหยุดยาว
ไม่น่าเชื่อว่านี่มันจะเกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงที่ในช่วงสงกรานต์ กลายเป็นเมืองอันตรายไปแล้ว
แต่ทั้งหลายทั้งปวงที่มันก็เกิดขึ้น มูลเหตุก็เนื่องมาจากนักโทษชายไอ้หน้าเหลี่ยมเพียงคนเดียว
Bangkok (แดง) Dangerous
สงกรานต์ปีนี้ผมวางแผนไว้ว่าจะไม่ไปเที่ยวต่างจังหวัด เพราะที่ผ่านมาออกต่างจังหวัดบ่อย พอถึงปีใหม่ไทย ขอเที่ยวกรุงเทพฯบ้าง
แล้วแผนการเที่ยวกทม.ก็ถูกโปรแกรมขึ้นคร่าวๆ เริ่มตั้งแต่วันศุกร์เมา เสาร์นอน อาทิตย์ถอน วันจันทร์นัดกับสาวไปเล่นสงกรานต์ถนนข้าวสาร อังคารจัดห้อง วันพุธพักผ่อน พฤหัสกลับไปใช้ชีวิตทำงานตามปกติ
แต่วันที่ 8 เม.ย.ผมเริ่มรู้สึกถึงสัญญาณแหม่งๆ เมื่อม็อบเสื้อแดงประกาศชุมนุมใหญ่แบบแตกหัก แต่กลับมีข่าวครอบครัวนักโทษชายทักษิณเดินทางออกไปเมืองนอกกันหมด
หลังจากนั้น วันที่ 9 เม.ย. ม็อบเสื้อแดงก็แสดงความจัญไรออกมาด้วยการไปยึดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิปิดถนนโดยรอบ และปิดถนนอีกหลายเส้น
วันนั้นการจราจรในกรุงเทพฯเป็นอัมพาต เท่านั้นยังไม่พอการปิดถนนของม็อบเสื้อแดงยังสร้างความเดือดร้อนต่อโรงพยาบาลหลายโรงในแถบนั้น
วันนั้นม็อบเสื้อแดงบอกเป็นการยกระดับการชุมนุม แต่ในความเป็นจริง นี่คือการยกระดับความไม่พอใจของคนในกทม.ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำครั้งนี้ให้เพิ่มมากขึ้น
ผู้คนก่นดา สาปส่ง กันทั้งบ้านทั้งเมือง ที่โดนใจและโจษจันกันมากก็เห็นจะเป็นการที่พวกเสื้อแดงพยายามจะไปปิดถนนแถวสาทร โดยมีตำรวจยืนโบกรถให้ จนคนแถวนั้นโห่ไล่ ขว้าง ปาของใส่ ทำให้เสื้อแดงต้องหลบลี้หนีหายไปในที่สุด
เรียกได้ว่าม็อบเสื้อแดงเสียแนวร่วมคนกรุงเทพฯไปไม่น้อย แต่เสื้อแดงยังคงฮึกเหิมเดินหน้าไม่หยุด ประกาศยกระดับการชุมนุมอีกครั้งด้วยการไปป่วนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนบวก 3 บวก 6
วันแรกป่วนพอเป็นพิธี แต่วันที่สอง(11 เม.ย.)ป่วนหนัก แถมยังเป็นวันที่ตำรวจ ทหาร ใส่เกียร์ว่าง ในขณะที่รัฐบาลก็บ้อท่า หน่อมแน้ม จนทำให้การประชุมอาเซียนล่ม และการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในพัทยา ก่อนจะยกเลิกในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
เหตุป่วนครั้งนี้ ทำภาพลักษณ์ประเทศชาติป่นปี้ การลงทุน การท่องเที่ยวย่อยยับ สร้างความเสียหายให้เมืองไทยอย่างใหญ่หลวง แถมยังสร้างความเสียหายให้กับประเทศในกลุ่มอาเซียนและประเทศที่เข้าร่วมประชุมอีกด้วย
นับเป็นการยกระดับการประท้วง(อีกครั้ง)ที่น่าสมเพชเป็นอย่างยิ่ง จนสื่อจำนวนหนึ่งยกระดับม็อบเสื้อแดงให้เป็น ม็อบแดงถ่อย เถื่อน ม็อบแดงจัญไร ม็อบแดงอับปรีย์ และม็อบหางแดง (คำเรียกขานเหล่านี้ขอให้แยกกันระหว่างผู้ที่ไปชุมนุมด้วยความเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจกับ ผู้ก่อความวุ่นวาย ความรุนแรง ป่วนบ้าน ป่วนเมือง)
แต่...อนิจจา งานนี้นักโทษชายทักษิณกลับวีดีโอลิงค์ บอกว่านี่คือชัยชนะของมวลชนม็อบเสื้อแดง เผยธาตุแท้ของนักโทษชายทักษิณขึ้นมาอีกระดับหนึ่งว่า เขาจับเอาประเทศชาติเป็นเดิมพันเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น
ในขณะที่นายกฯอภิสิทธิ์ประกาศกร้าวว่า “บนความเสียหายของประเทศชาติ ไม่ว่าใครประกาศชัยชนะ ผมถือว่ากลุ่มคนนั้น เป็นศัตรูของประเทศไทย”
คำตอบชัดเจน แจ่มชัด แต่เสื้อแดงไม่หยุด !!!
เช้าวันที่ 12 เม.ย. หลังตำรวจเข้าจับกุมตัวอริสมันต์ผู้นำม็อบบุกป่วนอาเซียน แกนนำม็อบที่ทำเนียบได้พยายามปลุกเร้า ปลุกระดม บิดเบือนข่าวสารตลอด เพื่อให้ม็อบก่อความรุนแรง จนรัฐบาลต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในกทม. เพื่อป้องกันเหตุ
หลังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ม็อบเสื้อแดงสำแดงความถ่อยทันทีด้วยการทุบรถนายกฯพังยับเยิน ทำร้ายเลขาฯนายก ทำร้ายผู้ติดตามนายกฯ เป็นภาพปรากฏไปทั่ว
จากนั้นก็เริ่มทยอยไปปิดถนนสายต่างๆ พร้อมเริ่มทำการป่วนบ้านป่วนเมืองไปทั่ว จนเช้ามืดวันรุ่งขึ้น ทหารเริ่มเข้าสลายม็อบที่สามเหลี่ยมดินแดงเป็นจุดแรก สร้างความแค้นในกับพวกเสื้อแดง ถึงขนาดไปนำรถแก๊ส(ของบริษัทที่มีประธาน บริษัทชื่อ ชัยสิทธิ์ ชินวัตร) มาปิดล้อมแฟลตดินแดง เรียกว่าเอาให้มันตายตกไปตามกัน โดยที่ชาวบ้านแถวนั้นไม่รู้อิโหน่อิเหน่
จากนั้นทั้งวันพวกเสื้อแดงได้ยกระดับความรุนแรงขึ้นอีกขั้น จากม็อบเป็นกองโจร ทำการก่อการจลาจล เผารถ เผาบ้าน เผาเมือง ในหลายจุดทั่วกรุงฯ บางจุดถึงขั้นก่อวินาศกรรมกันเลยทีเดียว(อย่างที่แฟลตดินแดง)
งานนี้ ชาวบ้านทนที่ได้รับความเดือดร้อนทนไม่ได้ ต้องออกมาต่อต้านปกป้องชุมชนของตัวเองจนเกิดการปะทะกัน แล้วเสื้อแดงก็เอาปืนไปไล่ยิงชาวบ้านที่นางเลิ้งเสียชีวิตไป 2 ศพ สร้างความเศร้าใจแก่ผู้ที่รู้ข่าวนี้เป็นอย่างยิ่ง
วันนั้นงานสงกรานต์ถนนข้าวสารที่โด่งดังไปทั่วโลกต้องยกเลิกกลางคัน เพราะม็อบเสื้อแดงไปเผารถเมล์ที่ผ่านฟ้าและก่อการจลาจลในกรุงเทพฯอีกหลายจุด จนกรุงเทพฯในวันสงกรานต์เกิดมิคสัญญี กลายเมืองอันตรายในสายตาชาวโลก
สำหรับเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็มีมูลเหตุเนื่องมาจากนักโทษชายคนเดียว ที่จับเอาประชาชนคนไทยเป็นประกัน
นับว่านักโทษชายคนนั้นเป็นตัวอันตรายต่อประเทศไทยและสถาบันเป็นอย่างยิ่ง
ประเทศไทย ICU
หลังเกิดเหตุ ขนาดทำสงกรานต์กลายเป็นสงกรานต์เลือด สงกรานต์เริงไฟ ประเทศไทยจากเดิมที่ป่วยด้วยพิษเศรษฐกิจ การเมือง
มาวันนี้ได้ถูกนักโทษชายวางแผนออกแบบระดมให้พวกเสื้อแดงป่วนประเทศจนเมืองไทยอยู่ในอาการโคม่า ดุจดังคนไข้เข้าไอซียู
แต่ถึงยังไงประเทศไทยที่ผมรัก ก็ยังมีความหวัง มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ถ้าประชาชนคนไทยไม่ท้อ ไม่หมดกำลังใจ รู้รักสามัคคี ช่วยกัน ฟื้นประเทศไทย ช่วยกันปกป้อง ส่งเสริม ผลักดันให้คนดีให้ขึ้นปกครองบ้านเมือง และช่วยกันสกัดกั้นไม่ให้คนชั่วช้า ไม่ให้ใครบางคนมาทำร้ายทำลายประเทศไทย แล้ววันนั้นประเทศไทยก็จะกลับมาน่าอยู่เหมือนเดิม แม้อาจจะต้องใช้เวลาบ้างก็ตาม