ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ไกด์ภาษามลายู 1 ในคณะทำงานพันธมิตรสงขลาฯ เผย นักท่องเที่ยวมาเลเซีย พร้อมใจใส่เสื้อเหลืองเทิดพระเกียรติในหลวง และพร้อมใจกันกล่าวคำเทิดพระเกียรติ “Long live the king of Thailand” ขณะเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย
นางสาวอัยดา อูเจ๊ะ ไกด์ภาษามาลายู ของบริษัท อัยดาทัวร์ และ กู๊ดลัค ทัวร์ และนางสาวไลลา ธารีสืบ ซึ่งเป็นคณะทำงานของพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้นำคณะทัวร์จากประเทศมาเลเซีย 240 คน ซึ่งมีทั้งชาวมาเลเซีย เชื้อสายอินเดีย และเชื้อสายจีน เข้ามาท่องเที่ยวใน อ.หาดใหญ่ โดยทั้งหมดต่างพร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลือง โดยเสื้อดังกล่าวเป็นเสื้อที่ลูกทัวร์ร่วมกันจัดทำ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี
นางสาวอัยดา กล่าวว่า สาเหตุที่ลูกทัวร์ชาวมาเลเซีย พร้อมใจกันใส่เสื้อเหลือง เพราะทุกคนชื่นชมในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทย ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจดูแลพสกนิกรชาวไทยเป็นอย่างดีตลอดที่ทรงครองราชย์
“ดิฉันทำงานเป็นไกด์มา 14 ปี ทุกครั้งที่ออกทัวร์ จะพูดถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ลูกทัวร์ชาวต่างชาติได้รู้จัก และทุกคนก็ตั้งใจรับฟังและชื่นชมในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทย พระองค์นี้”
นางสาวอัยดา ยังกล่าวอีกว่า นอกจากทุกคนจะใส่เสื้อเหลืองอย่างพร้อมเพรียงกันแล้ว ในช่วงที่มีการถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก บริเวณหน้าโรงแรมลีกาเดนท์ พลาซ่า ซึ่งเป็นย่านดาวน์ทาวน์ ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเดินจับจ่ายซื้อของ ทุกคนต่างพร้อมใจกันกล่าวคำเทิดพระเกียรติว่า “Long live the king of Thailand” ซึ่งสร้างความสนใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก รวมทั้งมีสื่อมวลชนมาร่วมบันทึกภาพทำข่าวด้วย
สำหรับนางสาวอัยดา อูเจ๊ะ อายุ 33 ปี เป็นชาว จ.สตูล เริ่มต้นชีวิตทำงานเป็นไกด์ภาษามลายูที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นเวลา 14 ปี แม้ชีวิตสมรสจะไม่ได้ราบรื่น แต่เธอก็สามารถเป็นทั้งพ่อและแม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยการดูแลมีลูกวัย 12 และ 14 ปี ซึ่งปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย จึงเป็นอีกโอกาสหนึ่งที่ได้มีโอกาสเรียนรู้และซึมซับกับชีวิตความเป็นอยู่ และวัฒนธรรมของชาวมาเลเซียเป็นพิเศษ
นอกจากบทบาทหัวหน้าครอบครัวแล้ว เธอยังเป็นหนึ่งในคณะทำงานพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตยอีกด้วย โดยเริ่มต่อสู้ร่วมกับพันธมิตรมาตั้งแต่ครั้งแรกเมื่อปี 2549 เนื่องจากตอนนั้นเธอเคยทำธุรกิจหลายอย่าง อาทิ ร้านอาหาร ภัตตาคาร และทัวร์ หลายสาขาที่ อ.หาดใหญ่ แต่กิจการต้องมาสะดุดและพังครืนลงในที่สุด เพราะพิษเศรษฐกิจสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เหลือเพียงกิจการบริษัทนำเที่ยวที่คงเป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงปากท้องอยู่เท่านั้น นับจากนั้นมาจึงเป็นแรงผลักดันหลักที่หันมาติดตามเรื่องข่าวสารบ้านเมือง ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV มาตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา
การต่อสู้ครั้งนี้ อัยดา มีโอกาสได้เดินทางไปร่วมชุมนุมกับพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั่วประเทศ ที่สะพานมัฆวานนับครั้งไม่ถ้วน และวันที่ทัพพันธมิตรฯเคลื่อนไปยังหน้ากระทรวงการต่างประเทศ อัยดา ก็เป็นหนึ่งในตัวแทนของชาวมุสลิมในประเทศขึ้นกล่าวเป็นภาษามลายู ให้กับพี่น้องมุสลิมทั่วโลกได้รับรู้ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการประเทศของประเทศไทย ขายชาติ และระบอบทักษิณทำลายความมั่นคงของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย
นอกจากนี้นางสาวอัยดา ได้ขึ้นเวทีพันธมิตรฯที่ ลานประวัติศาสตร์ สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่มาบอกเล่าให้พี่น้องชาวหาดใหญ่ได้ฟังถึงประสบการณ์ที่ตนได้ขึ้นไปร่วมต่อสู้ที่สะพานมัฆวาน และความรู้สึกที่ได้เป็นตัวแทนของพี่น้องมุสลิมขึ้นกล่าวเป็นภาษามลายูที่หน้ากระทรวงการต่างประเทศ ในวันนั้นด้วย ความมุ่งมั่นของ อัยดา ที่อยากให้พี่น้องมุสลิมได้มาร่วมกู้ชาติ เธอจึงได้ทำเสื้อยืด เขียนคำว่า “มุสลิมรักชาติ” เพื่อกระตุ้นให้พี่น้องมุสลิมได้ออกมาร่วมกู้ชาติร่วมกับเธอมากขึ้นด้วย
