ศูนย์ข่าวศรีราชา - อดีต ผอ.อพท.เตรียมยื่นฟ้องศาลปกครองเอาผิดบอร์ดบริหาร หลังไม่ได้รับความเป็นธรรมจนถูกปลดจากตำแหน่ง รับทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตไม่คอร์รัปชันมาตลอด จึงเป็นชนวนเหตุให้ถูกถีบจนตกเก้าอี้ เผยทำงานเพื่อประเทศชาติมาไม่มีด่างพร้อย แต่เหตุที่ต้องฟ้องร้อง เพื่อเป็นบรรทัดฐานของสังคม แห่งความถูกต้องที่ไม่ตกอยู่ภายใต้อำนาจมืด
“ผู้จัดการออนไลน์” โทรศัพท์สัมภาษณ์ นายวรสิทธิ์ โรจนพานิช อดีตผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท.หลังจากถูกคณะกรรมการบริหาร อพท.ประเมินผลการปฏิบัติงานในรอบ 6 เดือน ว่า ไม่ผ่านการประเมินผลเนื่องจากทำงานไม่ได้ประสิทธิภาพ และไม่เข้าตาบอร์ดบริหารของ อพท.จนทำให้ นายวรสิทธิ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งดังกล่าวในที่สุด
นายวรสิทธิ์ ให้รายละเอียดว่า สาเหตุที่ต้องถูกบอร์ดบริหารของ อพท.ให้หลุดพ้นจากตำแหน่งนั้น น่าจะมาจากแนวความคิดด้านการทำงานไม่ตรงกัน เพราะที่ผ่านมาตนทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตมาโดยตลอด และไม่มีการคอร์รัปชั่นใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งตามสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์และผู้ปฏิบัติหน้าที่บนพื้นฐานของความถูกต้องมาโดยตลอด จำเป็นต้องยื่นอุทธรณ์ทั้งต่อประธานผู้บริหารของบอร์ด และ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ซึ่งดูแล อพท.อยู่ตามขั้นตอน
จากนั้นจะฟ้องร้อง อพท.ต่อศาลปกครอง เพราะตามสิทธิสามารถฟ้องร้องได้ในการประเมินตามสัญญาจ้างเพราะคิดว่าเป็นเรื่องไม่น่าจะถูกต้อง เพราะที่ผ่านมาจากการทำงานระดับผุ้บริหารจังหวัดมาอย่างยาวนาน จนได้รับตำแหน่งผู้ว่าราชการมาแล้วตนเองไม่เคยทำงานจนตำแหน่งหน้าที่ด่างพร้อยจากการคอร์รัปชัน มิหนำซ้ำ ยังค่อนข้างจะประสบความสำเร็จจากการเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เพราะเป็นที่รักใคร่ของประชาชน และมีผลงานพัฒนาจังหวัดมาอย่างต่อเนื่อง จนได้คะแนนการประเมินผู้ว่าฯ CEO อยู่ในระดับต้นๆ ของประเทศ
นายวรสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม อยากให้เกิดความถูกต้อง และความเป็นธรรมทางสังคม ทั้งนี้ เพื่อเป็นบรรทัดฐานในระบบการทำงานของข้าราชการไทย ขณะนี้ได้แจ้งความในคดีอาญากับทางตำรวจกองปราบ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จนผู้หนึ่งผู้ใดได้รับความเสียหาย เพราะบอร์ดบริหาร อพท.นับว่า เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยเช่นกัน ซึ่งผิดกับพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กร หรือหน่วยงานของรัฐปฏิบัติหน้าทีี่โดยมิชอบ พ.ศ.2502 ตามมาตรา 11
“ทางบอร์ดบริหาร อพท.ไม่ชี้แจงรายละเอียด ที่ผ่านมา ผมได้ทำงานจนองค์กรมีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี แต่ตัวบอร์ดกลับมองว่าทำงานมีปัญหา บอร์ดบริหาร อพท.ชุดนี้จะให้ความสำคัญด้านการทำงานในส่วนของโครงสร้างและโครงการเมกะโปรเจกต์ มากเกินไป โดยระยะหลังมีการผลักดันพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและเมืองพัทยา เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ในเรื่องการท่องเที่ยว ทั้งที่จริงแล้วความหมายของคำว่าพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนนั้น ต้องให้ความสำคัญในเรื่องของการอนุรักษ์ธรรมชาติในสถานที่นั้นๆ จะละทิ้งธรรมชาติไม่ได้ ที่สำคัญต้องรับฟังเสียงของประชาชน โดยชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วม หากประชาชนหรือชาวบ้านไม่มีส่วนร่วมก็จะเป็นความยั่งยืนไม่ได้” อดีตผู้อำนวยการ อพท.กล่าว
นอกจากนี้ ตามที่เคยมีข่าว อพท.ผลักดันโครงการเมกะโปรเจกต์ผลักดันให้จังหวัดภูเก็ตและเมืองพัทยาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษในเรื่องการท่องเที่ยวนั้น เป็นแนวความคิดของคณะผู้บริหารบอร์ด อพท. โดยตนเองไม่ได้เป็นต้นคิดริเริ่มแต่อย่างใด
ที่ผ่านมา ก่อนที่ อพท.จะผลักดันเกาะช้างเป็นพื้นที่พิเศษนั้น ตนซึ่งเข้ามาบริหารดูแลจังหวัดตราดอยู่ในขณะนั้น ได้ร่วมกับชาวบ้านบุกเบิกและพัฒนาจนเกาะช้างเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวอยู่ก่อน ซึ่งในชีวิตตนเองที่รับราชการทำงานเพื่อประเทศชาติมาตลอดชีวิตทำงานด้วยความตั้งใจจริงไม่หวังผลประโยชน์แอบแฝงอย่างที่หลายๆ คนคิดกัน การออกมาดำเนินการเช่นนี้ก็เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง และวงศ์ตระกูล เพราะคิดว่าการกระทำของบอร์ดบริหาร อพท.เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
“ผู้จัดการออนไลน์” โทรศัพท์สัมภาษณ์ นายวรสิทธิ์ โรจนพานิช อดีตผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท.หลังจากถูกคณะกรรมการบริหาร อพท.ประเมินผลการปฏิบัติงานในรอบ 6 เดือน ว่า ไม่ผ่านการประเมินผลเนื่องจากทำงานไม่ได้ประสิทธิภาพ และไม่เข้าตาบอร์ดบริหารของ อพท.จนทำให้ นายวรสิทธิ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งดังกล่าวในที่สุด
นายวรสิทธิ์ ให้รายละเอียดว่า สาเหตุที่ต้องถูกบอร์ดบริหารของ อพท.ให้หลุดพ้นจากตำแหน่งนั้น น่าจะมาจากแนวความคิดด้านการทำงานไม่ตรงกัน เพราะที่ผ่านมาตนทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตมาโดยตลอด และไม่มีการคอร์รัปชั่นใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งตามสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์และผู้ปฏิบัติหน้าที่บนพื้นฐานของความถูกต้องมาโดยตลอด จำเป็นต้องยื่นอุทธรณ์ทั้งต่อประธานผู้บริหารของบอร์ด และ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ซึ่งดูแล อพท.อยู่ตามขั้นตอน
จากนั้นจะฟ้องร้อง อพท.ต่อศาลปกครอง เพราะตามสิทธิสามารถฟ้องร้องได้ในการประเมินตามสัญญาจ้างเพราะคิดว่าเป็นเรื่องไม่น่าจะถูกต้อง เพราะที่ผ่านมาจากการทำงานระดับผุ้บริหารจังหวัดมาอย่างยาวนาน จนได้รับตำแหน่งผู้ว่าราชการมาแล้วตนเองไม่เคยทำงานจนตำแหน่งหน้าที่ด่างพร้อยจากการคอร์รัปชัน มิหนำซ้ำ ยังค่อนข้างจะประสบความสำเร็จจากการเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เพราะเป็นที่รักใคร่ของประชาชน และมีผลงานพัฒนาจังหวัดมาอย่างต่อเนื่อง จนได้คะแนนการประเมินผู้ว่าฯ CEO อยู่ในระดับต้นๆ ของประเทศ
นายวรสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม อยากให้เกิดความถูกต้อง และความเป็นธรรมทางสังคม ทั้งนี้ เพื่อเป็นบรรทัดฐานในระบบการทำงานของข้าราชการไทย ขณะนี้ได้แจ้งความในคดีอาญากับทางตำรวจกองปราบ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จนผู้หนึ่งผู้ใดได้รับความเสียหาย เพราะบอร์ดบริหาร อพท.นับว่า เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยเช่นกัน ซึ่งผิดกับพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กร หรือหน่วยงานของรัฐปฏิบัติหน้าทีี่โดยมิชอบ พ.ศ.2502 ตามมาตรา 11
“ทางบอร์ดบริหาร อพท.ไม่ชี้แจงรายละเอียด ที่ผ่านมา ผมได้ทำงานจนองค์กรมีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี แต่ตัวบอร์ดกลับมองว่าทำงานมีปัญหา บอร์ดบริหาร อพท.ชุดนี้จะให้ความสำคัญด้านการทำงานในส่วนของโครงสร้างและโครงการเมกะโปรเจกต์ มากเกินไป โดยระยะหลังมีการผลักดันพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและเมืองพัทยา เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ในเรื่องการท่องเที่ยว ทั้งที่จริงแล้วความหมายของคำว่าพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนนั้น ต้องให้ความสำคัญในเรื่องของการอนุรักษ์ธรรมชาติในสถานที่นั้นๆ จะละทิ้งธรรมชาติไม่ได้ ที่สำคัญต้องรับฟังเสียงของประชาชน โดยชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วม หากประชาชนหรือชาวบ้านไม่มีส่วนร่วมก็จะเป็นความยั่งยืนไม่ได้” อดีตผู้อำนวยการ อพท.กล่าว
นอกจากนี้ ตามที่เคยมีข่าว อพท.ผลักดันโครงการเมกะโปรเจกต์ผลักดันให้จังหวัดภูเก็ตและเมืองพัทยาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษในเรื่องการท่องเที่ยวนั้น เป็นแนวความคิดของคณะผู้บริหารบอร์ด อพท. โดยตนเองไม่ได้เป็นต้นคิดริเริ่มแต่อย่างใด
ที่ผ่านมา ก่อนที่ อพท.จะผลักดันเกาะช้างเป็นพื้นที่พิเศษนั้น ตนซึ่งเข้ามาบริหารดูแลจังหวัดตราดอยู่ในขณะนั้น ได้ร่วมกับชาวบ้านบุกเบิกและพัฒนาจนเกาะช้างเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวอยู่ก่อน ซึ่งในชีวิตตนเองที่รับราชการทำงานเพื่อประเทศชาติมาตลอดชีวิตทำงานด้วยความตั้งใจจริงไม่หวังผลประโยชน์แอบแฝงอย่างที่หลายๆ คนคิดกัน การออกมาดำเนินการเช่นนี้ก็เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง และวงศ์ตระกูล เพราะคิดว่าการกระทำของบอร์ดบริหาร อพท.เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
