“สนธิ” โต้ข่าวเครียดกลัวโดนเช็กบิล เผยชีวิตทุกวันนี้มีแต่ความสงบ มองเห็นทุกอย่างเป็นเรื่องสมมติ แต่ขยะแขยงการเมืองไทยจนไม่อยากอ่าน นสพ. ดูทีวี เย้ยกลับยุค “แม้ว” ครองเมืองเคยสู้มาแล้ว จะไปกลัวอะไรกับรัฐบาลที่มีแต่ความแตกแยกภายใน ทำนายไม่เกิน 3 เดือน รัฐบาล “หมัก 1” กัดกันเหมือนหมา พร้อมแฉนัก นสพ.ทำงานให้ทักษิณ
กรณี หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 6 ก.พ.2551 หน้า 11 นำเสนอบทวิเคราะห์ว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเตรียมกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้งเพราะกลัวถูกเช็กบิลจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยแกนนำพันธมิตรฯ ได้ประชุมกันเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งนายสนธิ ลิ้มทองกุล 1 ในแกนนำมีสีหน้าเคร่งเครียดเป็นอย่างมากนั้น
นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการและเอเอสทีวี ในฐานะอดีตแกนนำพันธมิตรฯ ได้โทรศัพท์เข้าไปแสดงความคิดเห็นในรายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” คืนวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า กิจวัตรประจำวันของตนนั้นจะตื่นแต่เช้า สวดมนต์แล้วเดินทางไปที่บ้านพระอาทิตย์ประมาณ 7 โมงกว่า แล้วไหว้องค์จตุคาม ไหว้พระ ตั้งสัจจะว่าจะขอถวายชีวิตทำงานเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จนกว่าชีวิตจะหาไม่ หลังจากนั้นก็ไหว้เจ้าของบ้าน ไหว้พ่อแม่ครูบาอาจารย์ แล้วนั่งดูอินเทอร์เน็ต เช็กอีเมล กินกาแฟ เอาหนังสือกำลังภายในมาอ่าน แล้วมีคนที่รู้จักมาร่วมวงคุยกันในเรื่องต่างๆ หลังจากนั้นตอนเที่ยงก็ชวนกันกินข่าวเที่ยง เฮฮากันไป
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ชีวิตของตนมีความสงบโดยที่ไม่ได้เคร่งเครียดกับอะไรแม้แต่นิดเดียว เพียงแต่ขยะแขยงกับการเมืองตอนนี้อย่างมาก เพราะเห็นแต่ความแตกแยก มีคนปล่อยข่าวว่าตนเป็นอัมพาตบ้าง เกี้ยเซียะกับ พ.ต.ท.ทักษิณบ้าง ก็อยากจะบอกว่าเมื่อก่อน พ.ต.ท.ทักษิณมี 377 เสียง ใช้ทั้งอำนาจมืด มาเฟีย ข่มขู่คุกคาม ทุกวิถีทาง ตนยังไม่กลัวเลย แต่วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณมีศัตรูเต็มเมือง มีรัฐบาลที่แตกแยกพร้อมหักหลังกันตลอดเวลาจะไปกลัวทำไม
“ที่ผมเงียบไปและเริ่มหยุดออกรายการยามเฝ้าแผ่นดินตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมปีที่แล้วก็เพื่อเตรียมตัวบวช หลังจากบวชแล้วสึกออกมาประมาณกลางเดือนธันวาคม จิตใจผมสงบมากกว่าเก่า เห็นทุกเรื่องเป็นอนิจจัง เห็นทุกอย่างเป็นเรื่องสมมติ พรรคพลังประชาชนกลับมา ผมก็เคยพูดมาก่อน และผมก็เป็นคนแรกที่ฉีกหน้ากาก พล.อ.สุรยุทธ์ ผมรู้สึกว่าของบางอย่างที่มันใช่ มันกลับไม่ใช่ ของบางอย่างที่มันไม่เปลี่ยนแปลง แต่มันก็เปลี่ยนแปลง บางคนที่คิดว่าเขาเป็นคนดี ก็เป็นของปลอม เรื่องพวกนี้ทำให้ผมปลงได้”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้นเป็นแค่ปรากฏการณ์หนึ่งของสังคมที่ไม่มีคุณค่าต่อการให้ความสนใจ ตนสนใจแต่ว่าอะไรทำให้คนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณเกิดขึ้นมา อะไรทำให้การเมืองไทยน่าขยะแขยง เหม็นเน่า มองแล้วจะอาเจียน ตนเห็นการให้สัมภาษณ์ เห็นหน้านักการเมืองแต่ละคน ทำให้เลิกอ่านหนังสือพิมพ์ เลิกดูทีวีไปแล้ว เพราะทุกอย่างตนทำนายถูกหมด และขอทำนายว่ารัฐบาลนี้จะกัดกันเหมือนหมาภายในไม่เกิน 3 เดือน จะแย่งกันทำมาหากิน แล้วก็เดินทางทางใครทางมัน ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณก็จะใช้นอมินีสายตรง เพื่อเคลียร์ตัวเองให้ได้
** เฉ่งนักหนังสือพิมพ์ลิ่วล้อ “แม้ว”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า มีนักหนังสือพิมพ์บางคนทำงานให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำไมตนจะไม่รู้ หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์นั้นบริหารโดยนายเผด็จ ภูรีปฏิภาณ หรือพญาไม้ เป็นมือเป็นเท้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ บินไปคุยกันที่ฮ่องกง และเป็นคนตั้งรัฐบาลชุดนี้ คอยประสานคนโน้นคนนี้แล้วก็ปล่อยข่าว
“คนพวกนี้สมัยที่พวกเราสู้กับทักษิณก็เหยียบเรือสองแคมเพื่อเอาประโยชน์เข้าตัว เดินสายพูดกับคนนั้นบ้างคนนี้บ้าง คิดว่าตัวเองแน่ แต่จริงๆ ไม่ได้แน่แม้แต่นิดเดียว เป็นพวกแก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน น่าเสียดายชีวิตที่ผ่านมา”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า อีกคนคือนายไพรวงศ์ เตชะณรงค์ ซึ่งเป็นคนกลุ่มเดียวกัน ตอนยึดอำนาจใหม่ๆ คนพวกนี้ก็ไปเกาะ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล เลขาธิการ คมช. ไปคอยให้คำปรึกษา แต่พอ คมช.เริ่มหมดอำนาจก็ไปเกาะ พ.ต.ท.ทักษิณ และทุกวันนี้ก็ไปเกาะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง คนพวกนี้ตนเคยรู้จักมานาน และจนวันนี้ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ถ้าถึงวันที่เขาใกล้จะตายแล้วเขาย้อนทบทวนดู เขาจะรู้สึกเสียดายความเป็นวิชาชีพที่ผ่านมา
“ถึงวันนี้ผมมีความสุขกับชีวิตของผม ถ้าผมตาย ผมจะตายอย่างมีความสุข เพราะผมเห็นสัจจะธรรมว่า คนเราหนีไม่พ้นกฎแห่งกรรม ผมเชื่อว่าไม่เกิน 90 วัน หรือภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ให้คอยดูก็แล้วกัน ให้จับตาดูรัฐบาลชุดนี้ เพราะกฎแห่งกรรมกำลังจะมาถึงแล้ว” นายสนธิกล่าว
