xs
xsm
sm
md
lg

“กุ้ยหลิน”สวรรค์บนดิน ไตรภาค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : เหล็งฮู้ชง
ทิวทัศน์ตัวเมืองกุ้ยหลินเมื่อมองจากยอดเขาสลายคลื่น
“สวรรค์” ตามความรับรู้ของคนทั่วไปย่อมอยู่บนชั้นฟ้า แต่หากสถานที่ใดงามวิจิตรเกินเปรียบเปรย ก็อาจได้รับการยกย่องให้เป็นดังสวรรค์บนดินได้อย่างไม่ยากเย็น

ในเมืองจีนนับแต่ครั้งโบราณนานมา หนึ่งในสถานที่ที่ได้รับยกย่องให้เป็น“สวรรค์บนพื้นดิน” หรือ“ซื่อไหว้เถ้าหยวน”นั้นก็คือ “กุ้ยหลิน” ที่ปัจจุบันคือเมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของมณฑลกวางสีหรือกว่างซี(กวางสีเป็นเขตปกครองตนเอง) ซึ่งจากเมืองไทยมีสายการบิน“บางกอกแอร์เวย์ส” บินตรงจากกรุงเทพฯสู่เมืองนี้
นั่งกระเช้าขึ้นยอดเขาเหยาซานชมวิวเมืองกุ้ยหลิน
กุ้ยหลิน ถือเป็นดินแดนแห่งสายน้ำและขุนเขา มีแม่น้ำหลี(หลีเจียง)ที่ใสแจ๋วราวกระจกเป็นเส้นเลือดหลัก มีภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตากว่า 27,000 ยอด เป็นจุดเด่นสำคัญของเมือง ถึงขนาดมีสำนวนจีนโบราณว่า
 
“...เที่ยวปักกิ่ง ชมเฉียงโถว(กำแพงเมืองจีน)-เที่ยวซีอาน ชมเฝินโถว(สุสานจิ๋นซี)-เที่ยวเซี่ยงไฮ้ ชมเหรินโถว(คน)-เที่ยวหางโจว ชมยาโถว(สาวงาม) และ...เที่ยวกุ้ยหลิน ชมซานโถว(ภูเขา)...”

นอกจากนี้จิตกรโบราณยังกล่าวว่า
 
“จิตรกรคนใดถ้าไม่เคยมาเยือนกุ้ยหลิน จิตรกรคนนั้นมิอาจวาดภาพภูเขาที่สวยงามได้”

สำหรับผมมิใช่จิตรกรแต่เป็นนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง การไปกุ้ยหลินครั้งนี้จึงมิได้เดินทางไปเพื่อวาดภาพขุนเขา หากแต่เป็นการเดินทางไปเพื่อเที่ยวชมสิ่งน่าสนใจอันหลากหลายของเมืองนี้ ซึ่งก็มีคุณโฆษิต เดชวาทิน แห่งเมอรรี่แลนด์ทัวร์และไกด์ชาวจีนอย่างคุณมาวิน(คุณหยาง)มาเป็นไกด์นำเที่ยวให้ข้อมูลสารพัดสารพันในทริปนี้
ทิวทัศน์ขุนเขาเมื่อมองจากยอดเขาเหยาซาน
อนึ่งการเที่ยวกุ้ยหลินครั้งนี้ ผมแบ่งโปรแกรมออกเป็น 2 ทริปด้วยกัน คือเที่ยวในเขตกุ้ยหลิน และเที่ยวเมืองหยางซั่ว เมืองไฮไลท์ทางการท่องเที่ยวของกุ้ยหลิน ซึ่งผมขอเปิดด้วยเรื่องราวการเที่ยวในเขตเมืองก่อน โดยผมได้กิจกรรมท่องเที่ยวออกเป็นไตรภาค คือ ภาคเช้า บ่าย และค่ำ ว่าแล้วก็อย่ารีรอไปตะลุยเขตกุ้ยหลินกันแบบไตรภาคกันเลยดีกว่า

ภาคเช้า

กุ้ยหลิน เป็นเมืองที่มีอากาศดีมากเมืองหนึ่ง ยิ่งตื่นขึ้นมาเช้าๆสูดโอโซนก็ยิ่งสดชื่นเป็นเงาตามตัว สำหรับเช้านี้ไกด์มาวิน พาผมและคณะขึ้นยอดเขา“เหยาซาน”ภูเขาดินที่สูงที่สุดในกุ้ยหลิน สูง 909.31 เมตร (ภูเขาส่วนใหญ่ในกุ้นหลินเป็นภูเขาหินปูน)
สีสันหินงอกหินย้อยภายในถ้ำขลุ่ยอ้อ
พวกเราใช้วิธีการนั่งกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขาที่ยามมองลงมายังเบื้องล่างแล้ว สูงและเสียวเอาเรื่อง หนึ่งกระเช้านั่งได้ 2 คน พอขึ้นไปแล้วกระเช้าค่อยเลื่อนเอื่อยๆจากพื้นล่างไปจนถึงบนยอดเขา อันเป็นจุดชมวิวที่หากวันไหนฟ้าเปิดจะมองเห็นตัวเมืองกุ้นหลินท่ามกลางทะเลภูเขานับพันลูกได้เป็นอย่างดี แต่วันที่ผมขึ้นไปฟ้าปิด หมอกลงจัด จึงเห็นเพียงเงาร่างของขุนเขาน้อยใหญ่ท่ามกลางสายหมอกที่ดูแล้วสวยงามไปอีกแบบ

บนยอดเขาเหยาซานแม้คณะเรามีเวลาไม่มากนัก แต่ว่าหลังจากชมวิวกันพอหอมปากหอมคอแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับทัวร์ไทยนั่นก็คือ หากมีของขายที่ไหน พี่ไทยก็สามารถช้อปได้ตลอดอย่างไม่เกรงกลัวเงินในกระเป๋า ซึ่งงานนี้สินค้าขายดีเห็นจะหนีไม่พ้น ตุ๊กตาแพนด้าสวมมือ ที่น่ารักน่าเอ็นดู หากสวมใส่มือแล้ว ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว มันจะดูเหมือนเจ้าแพนด้าตุ๊กตากลายเป็นมีชีวิตขึ้นมาในบัดดล
วังบาดาล ไฮไลท์ในถ้ำขลุ่ยอ้อ
จากยอดเขาเหยาซาน ผมนั่งกระเช้ากลับลงสู่พื้นล่าง ในขณะที่พี่บางคนในทริปเลิกที่จะลองใช้บริการบังคับเลื่อนแบบเร็วบรื๋อลงมา นับเป็นการลงเขาที่ท้าทายไปอีกแบบ

จากนั้นมาวินพากลับเข้าเมืองกุ้ยหลินเพื่อไปเที่ยวยัง“ถ้ำขลุ่ยอ้อ”สถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ ที่ภายในงดงามไปด้วยหินงอกหินย้อย ประติมากรรมธรรมชาติหลากหลายรูปแบบ ยิ่งชาวจีนเก่งในเรื่องประดับไฟถ้ำอยู่แล้วยิ่งถ้ำให้ถ้ำขลุ่ยอ้อดูวิจิตรเพริศแพร้วมากขึ้นไปอีก

แม้อากาศข้างนอกจะหนาวระยับ แต่อากาศภายในถ้ำกลับอุ่นสบาย ในนั้นมีหินงอกหินย้อยในหลากหลายลักษณะ อาทิ เป็นปุ่ม เป็นหยด เป็นเสา เป็นแผ่น เป็นริ้ว หินงอกหินย้อยหลายจุดมีลักษณะพิเศษเป็นรูปร่างรูปทรงต่างๆให้จินตนาการกัน ไม่ว่าจะเป็น รูปเจ้าแม่กวนอิม(ที่มีให้ชมหลายจุด) เห้งเจีย สิงโต ตุ๊กแก ตาแป๊ะ มนุษย์หิมะ ปลาทอง กบ ม่านละคร ผู้เฒ่าเล่นหมากรุก ฯลฯ

ส่วนที่ถือเป็นไฮไลท์ของความงามชั้นเทพก็คือ “วังบาดาล”ที่เป็นหินงอกหินย้อย ทอดเงาตกสะท้อนลงในวังน้ำกลางโถงถ้ำขนาดใหญ่ ใต้แสงสีไฟประดับงามวิจิตรจับใจยากลืมเลือน
หินลองดาบที่เขาสลายคลื่น
ภาคบ่าย

การเที่ยวกุ้ยหลินยังดำเนินต่อไป สำหรับภาคบ่ายมาวินพาผมตะลุยต่อที่ “เขาสลายคลื่น” (ฝูโปซาน)ที่ว่ากันว่าไม่ว่าคลื่นลมโหมกระหน่ำมาเท่าใด เมื่อมาเจอเขาลูกนี้รับรองคลื่นมลายหายสิ้น ส่วนคลื่นมือถือเขาลูกนี้จะสลายได้หรือเปล่า งานนี้ใครกังขาคงต้องไปถามชาวกุ้ยหลินเอาเอง

เขาสลายคลื่น ตั้งเด่นอยู่ริมแม่น้ำหลี หน้าขุนเขามีรูปปั้นนายพลฝูโปนักรบอันเกรียงไกรของกุ้ยหลิน ในท่วงท่าขี่ม้า ง้างคันธนู ดูขึงขัง ส่วนในพื้นที่เขาสลายคลื่นนั้นมีไฮไลท์อยู่ที่ “ถ้ำคืนไข่มุก”ที่เชื่อว่าในอดีตเคยมีมังกรอาศัยอยู่
เขารูปอูฐที่สวน 7 ดาว
ถ้ำคืนไข่มุก ภายในนอกจากจะมีรูปแกะสลักพระพุทธรูปที่ผนังถ้ำแล้ว ตามซอกต่างๆของถ้ำก็มีแหล่งดูดเงินนักท่องเที่ยวอยู่เป็นจุดๆ ส่วนทางด้านริมฝั่งน้ำด้านหนึ่งก็โดดเด่นไปด้วย“หินลองดาบ” ที่ตอนแลกผมได้ยินชื่อ นึกว่าหินลองดาบเป็นแนวเดียวกับหินลับมีด แต่ที่ไหนได้นี่คือหินมีตำนานคร้าบพี่น้อง

โดยตำนานเล่าว่ายอดขุนพลของจีนได้แสดงบารมีให้นักรบเวียดนามดู โดยใช้ดาบเดียวฟันฉับ!!!เข้าที่เสาหินแห่งนี้ ผลปรากฏว่า ดาบหัก!!! เอ้ย!!! ไม่ใช่ เสาหินขาดสะบั้นในดาบเดียว ปัจจุบันหินลองดาบทิ้งรอยอดีตไว้เป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตกับจุดลูบคลำเพื่อความโชคดี ที่นักท่องเที่ยวคลำกันจนมันเลื่อมทีเดียว

อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจของเขาสลายคลื่นก็คือ ยอดเขาที่ต้องเดินกันเหนื่อยลิ้นห้อยทีเดียวกว่าจะถึงยอด บนนั้นเมื่อขึ้นไปจะสามารถมองเห็นวิวตัวเมืองกุ้ยหลินท่ามกลางขุนเขาแวดล้อมได้รอบด้าน

จากเขาสลายคลื่น ไม่ไกลกันนักเป็นสวน 7 ดาว สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในกุ้ยหลิน มียอดเขา 7 ยอด ภายในมีจุดชวนชมอย่าง เขารูปอูฐ วัด ถ้ำ ป่าศิลาจารึก และสวนสัตว์ ที่น่าเสียดายว่า“เหมยเหม่ย” หมีแพนด้า อายุยืนที่สุดของจีนในสวนสัตว์แห่งนี้ได้ลาโลกไปเมื่อไม่กี่ปีมานี้
เขางวงช้าง สัญลักษณ์เมืองกุ้ยหลิน
ที่สวน 7 ดาว คณะเราใช้เวลาเที่ยวไม่นาน เพราะว่ามีจุดท่องเที่ยวไฮไลท์อย่าง“เขางวงช้าง” (เซี่ยงปี๋ซาน)คอยท่าอยู่

เขางวงช้าง เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนไปไม่ได้ขาด โดยเฉพาะช่วงเย็นๆนี่คนเยอะเป็นพิเศษ สำหรับเขาลูกนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกุ้ยหลิน ที่เมื่อใช้จินตนาการมองในมุมมหาชนก็จะเห็นเป็นรูปช้างโน้มงวงลงดูดน้ำในแม่น้ำหลี ซึ่งนับเป็นเขารูปร่างประหลาดที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
เจดีย์เงิน-เจดีย์ทอง
ภาคค่ำ

หลังอาหารเย็น ภารกิจการเที่ยวมาถึงโค้งสุดท้ายกับการล่องเรือชม 4 ทะเลสาบ 2 แม่น้ำ ชม 18 สะพาน ที่รัฐบาลจีนทุ่มงบสร้างกิจกรรมนี้ขึ้นมา ซึ่งก็ได้ผลเพราะในในเส้นทางล่องเรือประมาณชั่วโมงกว่านั้น เรือจะพาล่องลำน้ำและทะเลสาบชมทิวทัศน์ 2 ข้างทางยามราตรี ที่น่าสนใจไปด้วย สถาปัตยกรรมทั้งแบบโบราณและแบบโมเดิร์น สะพานหลากหลายรูปแบบ แสงสีไฟประดับข้างทาง และสิ่งชวนชมอันโดดเด่นอย่างเจดีย์เงิน-เจดีย์ทอง ที่เป็นเจดีย์คู่รูปทรงสมส่วนประดับไฟสวยงาม ซึ่งผมเห็นแล้วอดนึกถึงถั่วลิสงอบถุงยี่ห้อหนึ่งในบ้านเราไม่ได้

ส่วนที่เรียกความฮือฮาได้ไม่น้อยก็เห็นจะเป็นช่วงเรือเข้าเขื่อนเปลี่ยนระดับน้ำ ที่เป็นการใช้เทคนิคพิเศษในการปรับระดับน้ำให้เท่ากัน ก่อนปล่อยเรือให้ลอยล่องสู่ท้องน้ำอีกครั้ง นับเป็นจุดขายที่เมืองกุ้ยหลินทำมาดูดเงินนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
ถนนคนเดินยามราตรี
หลังภารกิจเที่ยวตลอดวันเสร็จสิ้นลง ผมเลือกไปกิจกรรมปิดวันด้วยการเดินช้อปปิ้งบริเวณถนนคนเดิน แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่มากมายไปด้วยสินค้าสารพัดสารพันทั้งบนดินและใต้ดิน

การชื้อของที่นี่ นอกจากมีสตางค์แล้วยังต้องรู้จักต่อรองราคาด้วย เพราะบรรดาแม่ค้าพ่อขาย พี่แกเล่นบอกราคาผ่านกันสูงเอาเรื่อง ซึ่งใครที่เจอะเจอสินค้าต้องตาแล้วอดใจไม่ไหว หากจะซื้อ ต้องต่อราคาให้ต่ำกว่าครึ่ง กว่าค่อน เพื่อจะได้ไม่กลายเป็น“เสียมตือ”ให้คนจีนฟัน(ราคา)เอาได้ง่ายๆ เพราะการท่องเที่ยวในยุคทุนนิยมนั้น “กำไร”คือเป้าหมายสูงสุด ที่เมืองท่องเที่ยวชื่อดังต่างๆทั่วโลกล้วนปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน ไม่มีข้อยกเว้นแม้กระทั่ง กุ้ยหลิน อดีตเมืองที่ได้ชื่อว่า“สวรรค์บนดิน”

*****************************************

กุ้ยหลิน เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของมณฑลกวางสี ประเทศจีน แต่เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับ 1 ของมณฑล ในช่วงหน้าหนาวเดือน ธ.ค.-ก.พ. จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 8 องศาเซลเซียส

นามกุ้ยหลินมีที่มาจากอดีตดินแดนนี้มีป่าต้น“กุ้ยฮวย”เยอะ ซึ่งคนกุ้ยหลินได้นำดอกของต้นกุ้ยฮวยมาตากแห้งอบพร้อมใบชา กลายเป็น “ชากุ้ยหลิน” ที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ดอกกุ้ยฮวยยังสามารถนำไปหมักเป็นสุราร่วมกับน้ำในแม่น้ำหลีเจียงและบ่มไว้ให้รสชาติกลมกล่อม กลายเป็นสุรา “กุ้ยฮวย” ที่ขึ้นชื่อ

ส่วนของกินในเมืองกุ้ยหลินจะมี “หมี่กุ้ยหลิน” ที่เป็นเส้นกลมคล้ายเส้นสปาเก็ตตี้ กินร่วมกับพวกเครื่องปรุงอย่าง หมู-ถั่วลิสง-ไข่ต้มชา ที่รสชาติอร่อยทีเดียว โดยอาหารกุ้ยหลินจะค่อนข้างมีรสชาติคล้ายอาหารไทย

ณ วันนี้ต้องถือว่าตัวเมืองกุ้ยหลินมีความพร้อมด้านการท่องเที่ยวในอันดับต้นๆของจีน มีโรงแรมตั้งแต่ 2-5 ดาว มีแหล่งช็อปปิ้งทั้งกลางวัน กลางคืน และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายทั้งในตัวเมือง และต่างเมือง

สำหรับช่วงนี้ถึง 28 ก.พ.51 สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ได้ออกแพ็กเกจพิเศษเที่ยวกุ้ยหลิน ซึ่งผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1771 หรือที่ฟ้าไทยฮอลิเดย์ส โทร 02-265-5769-74 หรือดูข้อมูลทางเว็บไซต์ที่ www.bangkokair.com

กำลังโหลดความคิดเห็น