โดย : แมวลาย
แม้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับไต้หวันยังคงยืดเยื้อเป็นหนังชีวิต แต่ไต้หวันก็ถือเป็นอีกหนึ่งดินแดนที่มีเสน่ห์ชวนเที่ยวอยู่ไม่น้อย โดย“ไต้หวัน”เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ ห่างจากจีนแผ่นดินใหญ่ประมาณ 160 ก.ม.
เกาะไต้หวันนี้แต่เดิมมีชื่อว่าเกาะฟอร์โมซา (Formosa) เป็นภาษาโปรตุเกส เพราะชาวโปรตุเกสเคยเดินเรือมาที่เกาะนี้และชื่นชมเกาะแห่งนี้ว่า Ilha Formosa ซึ่งแปลว่า เกาะที่สวยงาม ในขณะที่เมืองหลวงไต้หวันอย่าง กรุง“ไทเป” นั้น ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญที่ชาวไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวกันไม่น้อย
ทั้งนี้ผู้ที่มาเยือนไทเปก็ต้องไม่พลาดที่จะไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวไต้หวันที่ “วัดหลงซาน” วัดที่เก่าแก่ที่สุดในไต้หวัน ซึ่งขึ้นชื่อว่าสวยงามที่สุดในไต้หวันด้วยเช่นกัน ภายในมีวิหารสามหลัง คือวิหารด้านหน้า วิหารกลางซึ่งเป็นวิหารหลัก และวิหารที่อยู่ทางด้านหลัง
ภายในวัดมีรายละเอียดของงานฝีมือที่งดงาม เช่นบริเวณเสาหินของวิหารที่แกะสลักเป็นมังกรพันรอบเสาดูสวยงามเสมือนจริง ส่วนด้านบนหลังคาก็มีลวดลายปูนปั้นยิบย่อยที่แสดงถึงฝีมือของช่าง โดยในแต่ละวันจะมีผู้คนมากมายทั้งนักท่องเที่ยวและชาวไต้หวันเองมาไหว้พระที่นี่อยู่เสมอๆ ส่วนใครที่ชอบแสงสีก็สามารถมาชมความงามของวัดหลงซานยามค่ำคืนก็ได้เช่นกัน
เหตุที่หลายคนเลือกมาชมวัดหลงซานในยามค่ำคืน ก็เพราะจะได้มาเดินตลาดกลางคืนชื่อว่าตลาดฮวาซื่อ (Huahsi Street Night Market) เป็นตลาดที่เต็มไปด้วยอาหารชนิดต่างๆ มีให้เลือกสารพัดทั้งแบบร้านค้าและตามรถเข็น จึงถือเป็นแหล่งกินแหล่งใหญ่ที่ให้บริการชาวเมืองและนักท่องเที่ยวอย่างเราๆให้อิ่มหนำสำราญก่อนเข้านอน และนอกจากอาหารหลากหลายชนิดแล้ว ก็ยังมีพวกขนม ของใช้ เสื้อผ้า ที่อาจหาซื้อเป็นของฝากได้ และมีแม้กระทั่งเซ็กซ์ช้อปด้วยเช่นกัน อันนี้ใครอยากแวะก็แวะได้ตามศรัทธา
พูดถึงตลาดกลางคืน นอกจากตลาดฮวาซื่อแล้ว ก็ยังมีตลาด Shihlin Night Market ที่ถือเป็นตลาดกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในไทเป มีร้านอาหารและรถเข็นขายอาหารมากกว่า ข้าวของขายกันมากกว่า แนะนำให้มาคนละวันกับตลาดฮวาซื่อ รับรองได้อิ่มท้องก่อนนอนหลับสบาย ได้ซื้อของฝากทางบ้านกันกระจาย
ไหนๆก็ว่ากันเรื่องแหล่งช้อปปิ้งซื้อของแล้ว ก็ขอแนะนำอีกสถานที่หนึ่งที่มีบรรยากาศคล้ายสยามสแควร์บ้านเรา ที่ “ซีเหมินติง” แหล่งรวมวัยรุ่นและคนวัยทำงานที่มาเดินเล่น มาช้อปปิ้ง มาดูภาพยนตร์ เพราะที่นี่มีโรงภาพยนตร์อยู่หลายโรงด้วยกัน และที่ขาดไม่ได้ก็คือบรรดารถเข็นขายอาหาร ที่อาจจะต้องรีบซื้อรีบจ่ายเงิน เพราะหากเทศกิจไต้หวันมาแม่ค้าพ่อค้าอาจจะวิ่งหนีหายไป
เปลี่ยนจากช้อปปิ้งมาเป็นเดินเที่ยวกันต่อดีกว่า หากว่ามาที่ไทเปแล้วต้องไม่พลาดชมสิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวไต้หวัน นั่นก็คือ “ตึกไทเป 101” ตึกที่เคยเป็น “ตึกที่สูงที่สุดในโลก” อยู่ช่วงหนึ่ง แต่เพิ่งมาถูกล้มแชมป์เมื่อไม่นานมานี้เพราะถูกตึกเบิร์จดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่สร้างขึ้นได้สูงกว่าชิงอันดับหนึ่งไป
สำหรับตึกไทเป 101 นี้มีความสูง 509.2 เมตร มีจำนวนชั้นทั้งหมด 101 ชั้น การสร้างตัวอาคารนั้นใช้เทคโนโลยีลดอันตรายจากแรงลม หรือระบบแดมเปอร์รวม (Mass Damper) และมีการตกแต่งตัวตึกด้วยรูปหัวมังกรที่มุมอาคารทั้ง 4 ด้านทุกปล้องตามความเชื่อในเรื่องฮวงจุ้ยของชาวจีนอีกด้วย
ภายในตึกไทเป 101 นั้นก็เป็นทั้งศูนย์การค้า มีสินค้าแบรนด์เนมทั้งหลายขายอยู่หลายร้าน และยังมีสะพานลอยสำหรับเดินจากอาคารไทเป 101 ไปโรงแรมและห้างที่อยู่บริเวณนั้นได้อีกแล้ง นอกจากนั้นแล้วก็ยังเป็นสำนักงาน เป็นภัตตาคาร และที่สำคัญยังเป็นจุดชมวิวเมืองไทเปได้กว้างไกลทั้งสี่ทิศ สามารถขึ้นมาชมได้ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน
อีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อได้มาที่ไทเปก็คือ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของไต้หวัน หรือ “The National Palace Museum” หรือที่เรียกกันว่าพิพิธภัณฑ์กู้กง ซึ่งเป็นที่เก็บรวบรวมของโบราณกว่า 7 แสนชิ้น ที่เจียง ไค เช็คขนย้ายมาจากพระราชวังกู้กงในประเทศจีน ตอนช่วงที่จีนกำลังทำสงครามกับญี่ปุ่น
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รับยกย่องว่าเป็น 1 ใน 4 สุดยอดพิพิธภัณฑ์ของโลก ว่ากันว่า ข้าวของในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีมากมาย นำมาสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันแสดงเป็นสิบปียังไม่ซ้ำกัน ข้าวของที่นำมาจัดแสดงนั้นก็เป็นโบราณวัตถุที่แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของชาวจีน ไม่ว่าจะเป็นศิลปวัตถุของชาวจีนโบราณทุกๆราชวงศ์ของจีนย้อนหลังไปถึง 5,000 ปีก่อน และโบราณวัตถุที่เป็นบรอนซ์ หยก เซรามิก รวมไปถึงเอกสารเก่าแก่ และภาพวาดต่างๆ ด้วย
แต่สำหรับคนที่อยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเกาะไต้หวัน หรือเกาะฟอร์โมซา ก็ต้องมาที่ “พิพิธภัณฑ์ฟอร์โมซา” ที่อยู่ใกล้ๆกับพิพิธภัณฑ์กู้กง ที่นี่เราจะได้รู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม และความเป็นอยู่ของชนพื้นเมือง 11 เผ่าที่เกาะไต้หวันนี้
ที่ National Taiwan Democracy Memorial Hall ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะเวียนมา แต่เดิมนั้นสถานที่นี้ใช้ชื่อว่าอนุสรณ์สถานเจียง ไคเช็ค (Chiang Kai-Sheck Memorial Hall) แต่เพิ่งถูกเปลี่ยนชื่อเมื่อเร็วๆ นี้ก็ด้วยสาเหตุทางการเมือง แต่ก่อนจะเข้าไปชมด้านในนั้น มารู้จักกับเจียง ไคเช็ค กันก่อนดีกว่า
เจียง ไคเช็คเป็นผู้ก่อตั้งไต้หวัน เป็นหัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋ง โดยหลังจาก ดร.ซุน ยัตเซน (Sun Yat-sen) เสียชีวิต เขาเป็นผู้นำพรรคก๊กมินตั๋งก้าวขึ้นเป็นผู้นำรัฐบาลแห่งชาติของประเทศ สาธารณรัฐจีน (Republic of China-ROC) แต่หลังจากนั้นก็เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น พรรคก๊กมินตั๋งพ่ายแพ้ต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนของ เหมา เจ๋อตุง เจียง ไคเช็คจึงต้องหนีไปตั้งรัฐบาลแห่งชาติและสาธารณรัฐจีน ที่เกาะไต้หวัน และขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนแรกของไต้หวันนั่นเอง
ซุ้มประตูทางเข้าอนุสรณ์สถานนี้ดูใหญ่โตอลังการมาก ด้านหน้าอาคารมีสวนดอกไม้เล็กๆ สวยงาม ตัวอาคารเป็นหินอ่อนทั้งหลัง มีลักษณะการก่อสร้างคล้ายวิหารเทียนถานที่ปักกิ่ง ทางด้านข้างของอาคารใหญ่เป็นหอแสดงดนตรี และโรงละครแห่งชาติ ส่วนภายในอนุสรณ์สถานมีรูปปั้นของเจียง ไคเช็คขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางอาคาร และมีส่วนจัดแสดงประวัติของเขาไว้ด้วย
ที่ไทเปยังมีอนุสรณ์สถานสำคัญอีกแห่งหนึ่ง คืออนุสรณ์สถาน ดร.ซุน ยัตเซน (National Dr. Sun Yat-sen Memorial Hall) ดร.ซุน ยัตเซน เป็นผู้นำการปฏิวัติ โค่นล้มการปกครองของราชวงศ์ชิง ทำให้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชที่ปกครองจีนเป็นเวลาหลายพันปียุติลงในที่สุด นอกจากนั้นเขายังเป็นผู้ที่มีจิตใจรักชาติ และทุ่มเทสมองและจิตใจเพื่อต้องการสร้างจีนให้เป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรือง จึงได้รับฉายาว่าเป็น “บิดาแห่งสาธารณรัฐจีน”
ภายในอนุสรณ์สถานนี้จัดแสดงประวัติของ ดร.ซุน ยัตเซน รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้เสื้อผ้าของท่านยามมีชีวิต และมีรูปปั้นขนาดใหญ่ของ ดร.ซุน ยัตเซนเป็นสิ่งที่โดดเด่นอยู่ภายใน และบริเวณรูปปั้นนี้ยังมีทหารยืนเฝ้าอยู่ด้วย และจะมีการเปลี่ยนเวรยามกันทุกชั่วโมง นักท่องเที่ยวมักจะมายืนมุงดูกันเสมอๆ นอกจากนั้นแล้ว สวนเล็กๆ ที่อยู่ภายนอกอาคารก็ยังมีรูปปั้นของ ดร.ซุน ยัตเซ็น ในอิริยาบถต่างๆตั้งไว้ด้วย
และเหล่านี้ก็คือสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองไทเป ไต้หวัน ที่รอให้คุณมาสัมผัสด้วยตนเอง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
การเดินทางไปเที่ยวที่ไต้หวันสามารถไปขอวีซ่าได้ที่ “สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย” (Taipei Economic and Cultural Office in Thailand) ที่ชั้น 20 เอ็มไพร์ทาวเวอร์ ถนนสาทรใต้ กรุงเทพฯ สอบถามค่าธรรมเนียมหรือรายละเอียดต่างๆ โทร.0-2670-0228, 0-2670-0200 ถึง 9
ส่วนการเดินทางไปยังไต้หวัน มีสายการบินหลายสายให้บริการ เช่น สายการบินไชน่าแอร์ไลน์ สายการบินไทย สายการบินอีวีเอแอร์ สายการบินฟาร์อีสเทิร์น สายการบินฟอร์โมซ่าแอร์ไลน์ ฯลฯ โดยจากเมืองไทยใช้เวลาบินประมาณสามชั่วโมงกว่าๆ
สกุลเงินของไต้หวันคือ ดอลลาร์ไต้หวัน (New Taiwan Dollar : NT$) โดย 1 ดอลลาร์ไต้หวัน = 0.85 บาท
แม้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับไต้หวันยังคงยืดเยื้อเป็นหนังชีวิต แต่ไต้หวันก็ถือเป็นอีกหนึ่งดินแดนที่มีเสน่ห์ชวนเที่ยวอยู่ไม่น้อย โดย“ไต้หวัน”เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ ห่างจากจีนแผ่นดินใหญ่ประมาณ 160 ก.ม.
เกาะไต้หวันนี้แต่เดิมมีชื่อว่าเกาะฟอร์โมซา (Formosa) เป็นภาษาโปรตุเกส เพราะชาวโปรตุเกสเคยเดินเรือมาที่เกาะนี้และชื่นชมเกาะแห่งนี้ว่า Ilha Formosa ซึ่งแปลว่า เกาะที่สวยงาม ในขณะที่เมืองหลวงไต้หวันอย่าง กรุง“ไทเป” นั้น ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญที่ชาวไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวกันไม่น้อย
ทั้งนี้ผู้ที่มาเยือนไทเปก็ต้องไม่พลาดที่จะไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวไต้หวันที่ “วัดหลงซาน” วัดที่เก่าแก่ที่สุดในไต้หวัน ซึ่งขึ้นชื่อว่าสวยงามที่สุดในไต้หวันด้วยเช่นกัน ภายในมีวิหารสามหลัง คือวิหารด้านหน้า วิหารกลางซึ่งเป็นวิหารหลัก และวิหารที่อยู่ทางด้านหลัง
ภายในวัดมีรายละเอียดของงานฝีมือที่งดงาม เช่นบริเวณเสาหินของวิหารที่แกะสลักเป็นมังกรพันรอบเสาดูสวยงามเสมือนจริง ส่วนด้านบนหลังคาก็มีลวดลายปูนปั้นยิบย่อยที่แสดงถึงฝีมือของช่าง โดยในแต่ละวันจะมีผู้คนมากมายทั้งนักท่องเที่ยวและชาวไต้หวันเองมาไหว้พระที่นี่อยู่เสมอๆ ส่วนใครที่ชอบแสงสีก็สามารถมาชมความงามของวัดหลงซานยามค่ำคืนก็ได้เช่นกัน
เหตุที่หลายคนเลือกมาชมวัดหลงซานในยามค่ำคืน ก็เพราะจะได้มาเดินตลาดกลางคืนชื่อว่าตลาดฮวาซื่อ (Huahsi Street Night Market) เป็นตลาดที่เต็มไปด้วยอาหารชนิดต่างๆ มีให้เลือกสารพัดทั้งแบบร้านค้าและตามรถเข็น จึงถือเป็นแหล่งกินแหล่งใหญ่ที่ให้บริการชาวเมืองและนักท่องเที่ยวอย่างเราๆให้อิ่มหนำสำราญก่อนเข้านอน และนอกจากอาหารหลากหลายชนิดแล้ว ก็ยังมีพวกขนม ของใช้ เสื้อผ้า ที่อาจหาซื้อเป็นของฝากได้ และมีแม้กระทั่งเซ็กซ์ช้อปด้วยเช่นกัน อันนี้ใครอยากแวะก็แวะได้ตามศรัทธา
พูดถึงตลาดกลางคืน นอกจากตลาดฮวาซื่อแล้ว ก็ยังมีตลาด Shihlin Night Market ที่ถือเป็นตลาดกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในไทเป มีร้านอาหารและรถเข็นขายอาหารมากกว่า ข้าวของขายกันมากกว่า แนะนำให้มาคนละวันกับตลาดฮวาซื่อ รับรองได้อิ่มท้องก่อนนอนหลับสบาย ได้ซื้อของฝากทางบ้านกันกระจาย
ไหนๆก็ว่ากันเรื่องแหล่งช้อปปิ้งซื้อของแล้ว ก็ขอแนะนำอีกสถานที่หนึ่งที่มีบรรยากาศคล้ายสยามสแควร์บ้านเรา ที่ “ซีเหมินติง” แหล่งรวมวัยรุ่นและคนวัยทำงานที่มาเดินเล่น มาช้อปปิ้ง มาดูภาพยนตร์ เพราะที่นี่มีโรงภาพยนตร์อยู่หลายโรงด้วยกัน และที่ขาดไม่ได้ก็คือบรรดารถเข็นขายอาหาร ที่อาจจะต้องรีบซื้อรีบจ่ายเงิน เพราะหากเทศกิจไต้หวันมาแม่ค้าพ่อค้าอาจจะวิ่งหนีหายไป
เปลี่ยนจากช้อปปิ้งมาเป็นเดินเที่ยวกันต่อดีกว่า หากว่ามาที่ไทเปแล้วต้องไม่พลาดชมสิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวไต้หวัน นั่นก็คือ “ตึกไทเป 101” ตึกที่เคยเป็น “ตึกที่สูงที่สุดในโลก” อยู่ช่วงหนึ่ง แต่เพิ่งมาถูกล้มแชมป์เมื่อไม่นานมานี้เพราะถูกตึกเบิร์จดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่สร้างขึ้นได้สูงกว่าชิงอันดับหนึ่งไป
สำหรับตึกไทเป 101 นี้มีความสูง 509.2 เมตร มีจำนวนชั้นทั้งหมด 101 ชั้น การสร้างตัวอาคารนั้นใช้เทคโนโลยีลดอันตรายจากแรงลม หรือระบบแดมเปอร์รวม (Mass Damper) และมีการตกแต่งตัวตึกด้วยรูปหัวมังกรที่มุมอาคารทั้ง 4 ด้านทุกปล้องตามความเชื่อในเรื่องฮวงจุ้ยของชาวจีนอีกด้วย
ภายในตึกไทเป 101 นั้นก็เป็นทั้งศูนย์การค้า มีสินค้าแบรนด์เนมทั้งหลายขายอยู่หลายร้าน และยังมีสะพานลอยสำหรับเดินจากอาคารไทเป 101 ไปโรงแรมและห้างที่อยู่บริเวณนั้นได้อีกแล้ง นอกจากนั้นแล้วก็ยังเป็นสำนักงาน เป็นภัตตาคาร และที่สำคัญยังเป็นจุดชมวิวเมืองไทเปได้กว้างไกลทั้งสี่ทิศ สามารถขึ้นมาชมได้ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน
อีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อได้มาที่ไทเปก็คือ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของไต้หวัน หรือ “The National Palace Museum” หรือที่เรียกกันว่าพิพิธภัณฑ์กู้กง ซึ่งเป็นที่เก็บรวบรวมของโบราณกว่า 7 แสนชิ้น ที่เจียง ไค เช็คขนย้ายมาจากพระราชวังกู้กงในประเทศจีน ตอนช่วงที่จีนกำลังทำสงครามกับญี่ปุ่น
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รับยกย่องว่าเป็น 1 ใน 4 สุดยอดพิพิธภัณฑ์ของโลก ว่ากันว่า ข้าวของในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีมากมาย นำมาสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันแสดงเป็นสิบปียังไม่ซ้ำกัน ข้าวของที่นำมาจัดแสดงนั้นก็เป็นโบราณวัตถุที่แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของชาวจีน ไม่ว่าจะเป็นศิลปวัตถุของชาวจีนโบราณทุกๆราชวงศ์ของจีนย้อนหลังไปถึง 5,000 ปีก่อน และโบราณวัตถุที่เป็นบรอนซ์ หยก เซรามิก รวมไปถึงเอกสารเก่าแก่ และภาพวาดต่างๆ ด้วย
แต่สำหรับคนที่อยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเกาะไต้หวัน หรือเกาะฟอร์โมซา ก็ต้องมาที่ “พิพิธภัณฑ์ฟอร์โมซา” ที่อยู่ใกล้ๆกับพิพิธภัณฑ์กู้กง ที่นี่เราจะได้รู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม และความเป็นอยู่ของชนพื้นเมือง 11 เผ่าที่เกาะไต้หวันนี้
ที่ National Taiwan Democracy Memorial Hall ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะเวียนมา แต่เดิมนั้นสถานที่นี้ใช้ชื่อว่าอนุสรณ์สถานเจียง ไคเช็ค (Chiang Kai-Sheck Memorial Hall) แต่เพิ่งถูกเปลี่ยนชื่อเมื่อเร็วๆ นี้ก็ด้วยสาเหตุทางการเมือง แต่ก่อนจะเข้าไปชมด้านในนั้น มารู้จักกับเจียง ไคเช็ค กันก่อนดีกว่า
เจียง ไคเช็คเป็นผู้ก่อตั้งไต้หวัน เป็นหัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋ง โดยหลังจาก ดร.ซุน ยัตเซน (Sun Yat-sen) เสียชีวิต เขาเป็นผู้นำพรรคก๊กมินตั๋งก้าวขึ้นเป็นผู้นำรัฐบาลแห่งชาติของประเทศ สาธารณรัฐจีน (Republic of China-ROC) แต่หลังจากนั้นก็เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น พรรคก๊กมินตั๋งพ่ายแพ้ต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนของ เหมา เจ๋อตุง เจียง ไคเช็คจึงต้องหนีไปตั้งรัฐบาลแห่งชาติและสาธารณรัฐจีน ที่เกาะไต้หวัน และขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนแรกของไต้หวันนั่นเอง
ซุ้มประตูทางเข้าอนุสรณ์สถานนี้ดูใหญ่โตอลังการมาก ด้านหน้าอาคารมีสวนดอกไม้เล็กๆ สวยงาม ตัวอาคารเป็นหินอ่อนทั้งหลัง มีลักษณะการก่อสร้างคล้ายวิหารเทียนถานที่ปักกิ่ง ทางด้านข้างของอาคารใหญ่เป็นหอแสดงดนตรี และโรงละครแห่งชาติ ส่วนภายในอนุสรณ์สถานมีรูปปั้นของเจียง ไคเช็คขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางอาคาร และมีส่วนจัดแสดงประวัติของเขาไว้ด้วย
ที่ไทเปยังมีอนุสรณ์สถานสำคัญอีกแห่งหนึ่ง คืออนุสรณ์สถาน ดร.ซุน ยัตเซน (National Dr. Sun Yat-sen Memorial Hall) ดร.ซุน ยัตเซน เป็นผู้นำการปฏิวัติ โค่นล้มการปกครองของราชวงศ์ชิง ทำให้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชที่ปกครองจีนเป็นเวลาหลายพันปียุติลงในที่สุด นอกจากนั้นเขายังเป็นผู้ที่มีจิตใจรักชาติ และทุ่มเทสมองและจิตใจเพื่อต้องการสร้างจีนให้เป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรือง จึงได้รับฉายาว่าเป็น “บิดาแห่งสาธารณรัฐจีน”
ภายในอนุสรณ์สถานนี้จัดแสดงประวัติของ ดร.ซุน ยัตเซน รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้เสื้อผ้าของท่านยามมีชีวิต และมีรูปปั้นขนาดใหญ่ของ ดร.ซุน ยัตเซนเป็นสิ่งที่โดดเด่นอยู่ภายใน และบริเวณรูปปั้นนี้ยังมีทหารยืนเฝ้าอยู่ด้วย และจะมีการเปลี่ยนเวรยามกันทุกชั่วโมง นักท่องเที่ยวมักจะมายืนมุงดูกันเสมอๆ นอกจากนั้นแล้ว สวนเล็กๆ ที่อยู่ภายนอกอาคารก็ยังมีรูปปั้นของ ดร.ซุน ยัตเซ็น ในอิริยาบถต่างๆตั้งไว้ด้วย
และเหล่านี้ก็คือสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองไทเป ไต้หวัน ที่รอให้คุณมาสัมผัสด้วยตนเอง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
การเดินทางไปเที่ยวที่ไต้หวันสามารถไปขอวีซ่าได้ที่ “สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย” (Taipei Economic and Cultural Office in Thailand) ที่ชั้น 20 เอ็มไพร์ทาวเวอร์ ถนนสาทรใต้ กรุงเทพฯ สอบถามค่าธรรมเนียมหรือรายละเอียดต่างๆ โทร.0-2670-0228, 0-2670-0200 ถึง 9
ส่วนการเดินทางไปยังไต้หวัน มีสายการบินหลายสายให้บริการ เช่น สายการบินไชน่าแอร์ไลน์ สายการบินไทย สายการบินอีวีเอแอร์ สายการบินฟาร์อีสเทิร์น สายการบินฟอร์โมซ่าแอร์ไลน์ ฯลฯ โดยจากเมืองไทยใช้เวลาบินประมาณสามชั่วโมงกว่าๆ
สกุลเงินของไต้หวันคือ ดอลลาร์ไต้หวัน (New Taiwan Dollar : NT$) โดย 1 ดอลลาร์ไต้หวัน = 0.85 บาท