xs
xsm
sm
md
lg

"โตเกียว" เที่ยวได้ไม่รู้เบื่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : หมวยเกี๊ยะ
ความงดงามของพระราชวังอิมพีเรียลแห่งโตเกียว
การเดินทางจากโอซาก้ามายัง "โตเกียว" เมืองหลวงอันยิ่งใหญ่แห่งญี่ปุ่นในทริปนี้ ฉันเลือกที่จะเดินทางเข้าโตเกียว โดยอาศัยพาหนะอันรวดเร็วและมีชื่อเสียงของญี่ปุ่น นั่นคือการนั่งเจ้ารถไฟ "ชินคันเซ็น"(หรือชิงคังเซ็ง : Shinkansen bullet train)หรือรถไฟหัวกระสุน หัวจรวด ที่หลายๆคนคุ้นหู

ภายในรถไฟชิงคังเซ็งนั้นติดแอร์เย็นฉ่ำ ที่พักสะดวกบาย สะอาดสะอ้าด ทำเอาฉันอยากนั่งไปนานๆ แต่ว่าไม่อยากบอกเลยว่า แค่เพียงเผลอพักสายตาหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ รู้สึกตัวตื่นมาอีกทีก็จะถึงสถานีปลายทางที่โตเกียวแล้ว โอ้!! แม่เจ้าไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ารถไฟชิงคังเซ็งวิ่งเร็วจริงๆ จากโอซาก้ามาโตเกียวใช้เวลาวิ่งประมาณ 2 ชม. เท่านั้นก็ถึงแล้ว
รูปร่างหน้าตาของรถไฟชิงคังเซ็ง
เมื่อสองเท้าของฉันเหยียบย่างถึงมหานครโตเกียวอันยิ่งใหญ่แล้ว ฉันก็พร้อมออกเที่ยวตามแผนการทัวร์ที่เตรียมมาไว้ทันที ซึ่งฉันอยากไปเที่ยวที่ พระราชวังอิมพีเรียล (The Imperial Palace) เป็นสถานที่แรก เพราะถือว่าเป็นพระราชวังที่สำคัญของโตเกียว และปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นที่ประทับของพระเจ้าจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น

พระราชวังอิมพีเรียลแห่งนี้ แต่เดิมเป็นที่ตั้งของปราสาทเอโดะ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของโชกุน ตระกูลโตะกุกะวะ และเมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พระราชวังถูกทำลายเสียหายหนัก แต่ก็ได้รับการบูรณะสร้างขึ้นใหม่ให้เหมือนเดิมเมื่อปี พ.ศ. 2507 ตัวพระราชวังฯนั้นตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว และตั้งอยู่ท่ามกลางคูน้ำที่รายล้อมอยู่อย่างกว้างใหญ่ มีพื้นที่กว่า 270 เอเคอร์ และพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นสวนป่าไม้ธรรมชาติที่ดูร่มครึ้ม
วัดอาซาคุสะ วันเก่าแก่ชื่อดังของเมืองโตเกียว
สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างฉันการเข้าชมพระราชวังฯจะได้ชมเฉพาะเขตพระราชทานชั้นนอกเท่านั้น เพราะพระราชทานชั้นในเป็นที่ประทับของพระจักรพรรดิ ซึ่งภายในอุทยานชั้นในเป็นเขตพระราชฐาน มีพระตำหนักเป็นอาคารคอนกรีตทรงเตี้ยกว้าง สร้างด้วยหินแกรนิตและบะซอลต์จากภูเขาไฟ คลุมด้วยหลังคาสีเขียวอันงดงาม
ด้านในวิหารเป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำ
ถึงแม้จะได้เที่ยวชมพระราชวังฯ แค่เพียงเขตชั้นนอก แต่ฉันก็ได้ชื่นชมและสัมผัสกับบรรยากาศของพระราชวังฯอันร่มรื่น และได้ชมความงดงามของสะพานถึง 2 สะพาน คือ สะพานเมกาเนะบาชิ เป็นสะพานหินอันสวยงาม และสะพานนิจูบาชิที่มีความสง่างามมาก เป็นสะพานที่ทอดข้ามคูน้ำไปสู่เขตพระราชฐานชั้นใน เพียงเท่านี้ก็คุ้มค่ามากเพียงพอแล้ว
เจดีย์ 5 ชั้น ที่วัดอาซาคุสะ
จากนั้นฉันก็เดินทางออกจากพระราชวังอิมพีเรียล เพื่อเดินทางไปเที่ยวแบบอิ่มบุญอิ่มสุขใจ กับการจะได้ไปไหว้พระขอพรที่ "วัดอาซาคุสะ" (Asakusa) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของโตเกียว ที่ไม่ควรพลาดมาเที่ยวกัน เพราะเป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิมทองคำที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก
โคมแดงยักษ์ ตรงซุ้มประตูโฮโซ
เมื่อฉันมาถึงยังวัดอาซาคุสะ ก่อนที่จะเข้าไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม ตามธรรมเนียมการเข้าวัดของที่นี่จะต้องมีการชำระร่างกายให้บริสุทธิ์เสียก่อน โดยจะมีน้ำให้ได้ตักมาล้างมือทั้ง 2 ข้าง แล้วก็บ้วนปากเพื่อชำระความสะอาดกันก่อนเข้าไปด้านในวัด จากนั้นฉันก็ไปซื้อธูปมาจุด 1 กำ แล้วก็ไปยืนอยู่ตรงลานกว้างหลังกระถางธูปใบยักษ์ เพื่อตั้งจิตอธิฐานไหว้องค์เจ้าแม่กวนอิมที่อยู่ด้านในพระอุโบสถ (เพราะทางวัดไม่ให้จุดธูปด้านใน) จากนั้นก็เอาธูปไปปักที่กระถางธูป พร้อมกับปฏิบัติตามความเชื่อของคนญี่ปุ่นที่ว่า ให้ปัดควันธูปเข้าหาสู่ตัวเพื่อความเป็นสิริมงคล และควันธูปยังสามารถรักษาโรคที่ป่วยอยู่ได้ด้วย (ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะฉันปัดควันธูปใส่ตัวจนกลิ่นธูปคลุ้งติดตัวไปหมด)
 ก่อนเข้าไปด้านในพระอุโบสถก็มีโคมแดงยักษ์แขวนไว้อย่างโดดเด่น
และจากนั้นฉันก็เดินขึ้นไปสักการะเจ้าแม่กวนอิมยังด้านในพระอุโบสถหลังใหญ่ ซึ่งก่อนเข้าไปด้านในก็จะมีโคมแดงยักษ์แขวนอยู่ดูสะดุดตา พอเดินเข้าไปด้านในก็ได้เข้าไปยืนไหว้ขอพรองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำที่ประดิษฐานอยู่บนศาลสีทองเหลืองอร่ามตา ฉันตั้งจิตขอพรจากองค์เจ้าแม่กวนอิมอยู่เป็นนานสองนานจนอิ่มบุญและอิ่มใจแล้ว ฉันก็เดินเที่ยวรอบๆ วัดกันต่อ ซึ่งภายในวัดยังสิ่งที่น่าสนใจอย่าง เจดีย์ 5 ชั้น อันงดงามซึ่งที่ฐานขององค์เจดีย์เป็นที่บรรจุแผ่นหินเก่าแก่เอาไว้มากมาย
คนญี่ปุ่นเชื่อว่าการปัดควันธูปเข้าหาตัวเป็นสิริมงคลและรักษาโรคได้
หลังจากนั้นฉันก็เดินตรงมาที่ประตูด้านนอกที่มีชื่อว่า ประตูคามินาริ หรือประตูฟ้าคำรณ ซึ่งตรงประตูนี้มีสัญลักษณ์อันโดดเด่นของวัดฯ แขวนอยู่ นั่นคือโคมยักษ์สีแดงขนาดสูงกว่า 5.5 ม. มีรูปสายฟ้าและเมฆเขียนด้วยสีดำและแดงดูสวยงาม แล้วพอพ้นประตูนี้ไปก็จะพบกับถนนนากามิเสะ เป็นถนสายสั้นๆ ที่เรียกว่าเป็นถนนละลายทรัพย์ก็่ได้ เพราะตลอดถนนเต็มไปด้วยร้านรวงมากมาย ที่ขายสินค้าญี่ปุ่นล่อตา ล่อใจ และล่อเงินในกระเป๋าฉันเป็นอย่างมาก มีทั้งชุดกิมโมโน โคมไฟแขวนสวยๆ ร้านขายพวงกุญแจ แมวกวัก ของฝากของที่ระลึกแบบญี่ปุ่น และขนมญี่ปุ่นให้เลือกซื้ออีกมากมาย
ถนนนากามิเสะหน้าวัดอาซาคุสะแหล่งชอปปิ้งที่มีสินค้าให้ซื้อมากมาย
ฉันนี้อดใจไม่ไม่ไหว แอบควักเงินซื้อสินค้าไปหลายชิ้น ก่อนที่จะต้องรีบปลีกตัวออกมา แล้วมุ่งหน้าไปเที่ยวสถานที่ที่ต่อไปที่รออยู่จะดีกว่า นั่นก็คือการเดินทางมาที่ พานาโซนิคเซ็นเตอร์ (Panasonic Center) เป็นศูนย์กลางการสื่อสารองค์กรระดับโลกของบริษัทพานาโซนิค การที่ฉันเลือกมาเที่ยวที่นี่ก็เพราะอยากจะมาดูนวัตกรรมสินค้าเทคโนโลยีอันทันสมัยที่น่าสนใจ ซึ่งที่นี่มีให้ชมและได้สัมผัสอย่างมากมาย
ภายในพานาโซนิคเซ็นเตอร์มีผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงานต่างๆ ให้ได้ชม
ภายในพานาโซนิคเซ็นเตอร์จะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมด้วยกัน 3 ชั้น โดยชั้นที่ 1 มีหลายโซนด้วยกัน ซึ่งแต่ละโซนมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของพานาโซนิคที่ล้วนแล้วแต่มีความทันสมัยเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นกล้องถ่ายรูป โทรทัศน์ รวมถึงเรื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ และมีมุมเกมส์นินเทนโด้ ให้ได้ทดลองเล่นเกมส์ล่าสุดจากนินเทนผ่านจอพลาสม่าขนาดใหญ่ และโปรเจกเตอร์ที่มีความละเอียดสูง
เด็กๆ สนุกกับการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ที่ RisuPia
ส่วนชั้นที่ 2 เป็นการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงานต่างๆ ที่ทางพานาโซนิคได้คิดค้นขึ้น อาทิ ตู้เย็นประหยัดพลังงาน แอร์ เครื่องสุขภัณฑ์ เครื่องซักผ้าที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพของผู้ใช้และประหยัดน้ำ ส่วนชั้นที่ 3 เป็นส่วนของ RisuPia ที่พานาโซนิคจัดสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของเยาวชนได้ศึกษาหาความรู้ด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ไปพร้อมกับการเล่นกับเทคโนโลยีอย่างสนุกสนาน
สีสันยามราตรีของย่านชินจูกุ โตเกียว
ฉันใช้เวลาเดินเที่ยวอยู่ที่พานาโซนิคเซ็นเตอร์อยู่เป็นนานสองนาน จนสมควรแก่เวลาที่จะต้องรีบเดินทางไปเที่ยวยังอีกหนึ่งแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองโตเกียว และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนชอปชอปปิ้งอย่างฉันไม่ควรพลาดไปด้วยประการทั้งปวง สถานที่ที่ว่านี้ก็คือย่าน "ชินจูกุ" (Shinjuku) ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เป็นแหล่งนัดพบของวัยรุ่นญี่ปุ่น และมีผู้คนมาเดินเที่ยวเตร็ดเตร่จับจ่ายซื้อของกันเป็นจำนวนมาก ด้วยเพราะความที่ย่านชินจูกุนี้มีร้านค้าที่ตั้งอยู่ทั้งบนดินและใต้ดินเรียงรายกันเป็นจำนวนมาก มีทั้งร้านค้าขายเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า รวมถึงของกินของใช้ เครื่องใช้ฟ้า และมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำตั้งอยู่หลายห้าง อาทิ ห้างอิเซตัน ห้างเปเป้ ที่มีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย

แสงสียามค่ำคืนของย่านชินจูกุช่างสวยงาม บวกกับร้านค้าที่มีให้เดินชอปปิ้งจนละลานตา ทำเอาฉันมีความรู้สึกว่า การที่ได้มาเที่ยวโตเกียวมหานครอันยิ่งใหญ่นี้ ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ต่อให้ได้มาเที่ยวกี่ครั้งกี่หนก็คงจะไม่รู้เบื่อ เพราะว่าที่โตเกียวมีความหลากหลายทางด้านการท่องเที่ยวให้ได้สัมผัสอย่างมากมาย

*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    * 

 “ญี่ปุ่น” เป็นประเทศเกาะ มีจำนวนเกาะกว่า 6,800 เกาะ มีเกาะใหญ่อยู่ 5 เกาะ คือ เกาะฮอกไกโด, ฮอนชู, ชิโคะคุ, คิวชู และโอกินาวา เวลาประเทศญี่ปุ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชม. ญี่ปุ่นใช้เงินสกุลเยน (100 เยน ประมาณ 36 บาทขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน) ญี่ปุ่นใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาหลัก มีสายการบินทไปญี่ปุ่นหลายสาย อาทิ การบินไทย, ออลนิปปอนแอร์เวย์, เจแปน แอร์


อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

"โอซาก้า" เมืองน่าเที่ยวแดนอาทิตย์อุทัย

กำลังโหลดความคิดเห็น