แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่า เหตุใด คำแสดรีสอร์ท จังหวัดกาญจนบุรี จึงเป็นโรงแรมเดียวในจังหวัดกาญจนบุรี และเป็นโรงแรมเดียวในภาคกลางที่ได้รับรางวัล ไทยแลนด์ ทัวริซึ่ม อวอร์ด หรือรางวัลกินนรี ซึ่งจัดขึ้นโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเมื่อไม่นานมานี้ โดยคำแสด รีเวอร์แควรีสอร์ทได้รับรางวัลดีเด่นประเภทที่พักนักท่องเที่ยวตากอากาศ น้อยกว่า 80 ห้อง
อาจกล่าวได้ว่า ที่นี่นอกจากจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์แล้ว ยังเป็นรีสอร์ทตามแนว"เศรษฐกิจพอเพียง" ที่โดดเด่นอีกด้วย โรงแรมคำแสด ริเวอร์แคว รีสอร์ท เปิดดำเนินการในปี พ.ศ. 2536 โดยตั้งอยู่ที่ ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จังหวัดกาญจนบุรี มีพื้นที่กว้างใหญ่ โครงการทั้งหมดมีเนื้อที่ กว่า 100 ไร่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควใหญ่ ในพื้นที่ มีสวนขนาดใหญ่ อยู่ติดแม่น้ำ ถึงประมาณ 1 กิโลเมตร
ขณะที่จังหวัดกาญจนบุรี มีรีสอร์ทท้องถิ่นที่ค่าห้องพักถูกเป็นส่วนใหญ่ หากแต่คำแสดรีสอร์ทต้องการยกระดับรีสอร์ทขึ้นมาให้โดดเด่น แม้ในช่วงราว 10 ปีของการประกอบธุรกิจ โรงแรมจะขาดทุน แต่ที่เปิดกิจการอยู่ได้ส่วนหนึ่งมาจากความร่วมมือร่วมใจ ระหว่าง เจ้าของกิจการ และ พนักงาน ที่มีความผูกพัน และจริงใจต่อกัน 15 ปีที่ผ่านมา พนักงานมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ มีอายุงานไม่ต่ำกว่า 8 - 10 ปี และที่นี่ได้เกิดไอเดีย "พลิกวิกฤตเป็นโอกาส"
การพลิก วิกฤต ให้เป็นโอกาส เริ่มต้นขึ้น โดยใช้แนวทางเดียวพระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาทดลองทำเป็นส่วนๆ จนกระทั่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับกิจการของบริษัทฯ อย่างได้ผลชัดเจนเป็นรูปธรรม โดยได้ดำเนินการมา กว่า 3 ปี ไม่รวมการทดลองเป็นโครงการเล็กๆ กว่า 2 ปี ทำให้เริ่มการสร้างกิจการที่มั่นคงขึ้น และกลายเป็นโรงแรมที่มีไอเดียเก๋ไม่เหมือนใคร
คำแสดเริ่ม พึ่งตนเองด้านพลังงาน เช่น น้ำ ไฟ แก๊ส และ การคมนาคมขนส่ง เป็นต้น โดยต้องหาพลังงานทดแทนให้ได้อย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์ ให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ของ ทุกชีวิต ภายในคำแสดฯตลอดจนมองหาธุรกิจอื่นมาทดแทน ในกรณีที่ไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการโรงแรม ลดการใช้สารเคมีในรีสอร์ท และในอนาคตต้องเลิกใช้สารเคมี เพื่อช่วยคืนระบบนิเวศน์ให้กับธรรมชาติ
เมื่อมองเห็นว่าความพอเพียง...เป็นความสำนึกที่ต้องปลูกฝัง...ให้เกิดขึ้น และธรรมะ ของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเป็นรากฐานสำคัญ ที่จะช่วยลดความอยาก ความเห็นแก่ตัว และ นำทาง ให้เกิด ความพอเพียงขึ้นได้ คำแสด ริเวอร์แคว รีสอร์ท จึงจัดทำโครงการ สร้างสถานที่ปฏิบัติธรรม ให้แก่พนักงานด้วย เพื่อให้พนักงานได้มีโอกาสสวดมนต์ไหว้พระ พร้อมทั้งนั่งสมาธิ เพื่อรู้จักสงบจิตใจ และมีโอกาสพูดคุยกับผู้บริหาร และ เจ้าของ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ได้สนทนาธรรม ได้ศึกษาธรรมะ เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งส่วนใหญ่ถ่ายทอดให้โดย เจ้าของ และผู้บริหาร ซึ่งต่อมาขยายเป็น โครงการสวนธรรมคำแสด โดยทางบริษัทฯ ได้จัดกิจกรรม สวดมนต์ทำวัตร เช้า - เย็น ทุกวันจันทร์ และวันพฤหัสบดี รวมเดือนละ 16 ครั้ง
แต่ที่สำคัญคือโครงการลดค่าใช้จ่าย หลังจากที่โครงการสวนธรรมได้ดำเนินการไปแล้ว หน่วยงานพัฒนาธุรกิจ ได้ลดค่าใช้จ่ายของงานที่ไม่ก่อให้เกิดผลกำไร และ ตัดงานที่สิ้นเปลืองออกไป ลดขนาดของหน่วยงานลง พนักงานสามารถทำงานส่วนอื่นๆเสริมได้เช่น พนักงานฝ่ายบัญชี สามารถเสริมงานต้อนรับ งานเก็บเงิน งานผู้ช่วยครัว พนักงานแผนกบุคคล , แผนกคอมพิวเตอร์ และข้อมูล สามารถเสริมงานปรุงอาหารโชว์,งานผู้ช่วยกุ๊ก, งานเสริฟอาหาร, เข้าสมทบทำกิจกรรมสันทนาการให้ลูกค้า เป็นต้น
นอกจากนี้ยังลดค่าใช้จ่ายอื่นๆ โดยดำเนินการเพิ่มเช่น ส่งเสริมให้มีการจัดตั้งหน่วยงานผลิตแชมพู สบู่ จากวัตถุดิบธรรมชาติที่มีอยู่ในโรงแรมแทนการสั่งซื้อแชมพู สบู่ จากภายนอก ที่มีส่วนประกอบของสารเคมีสูงมาก ลดค่าใช้จ่ายด้านการกำจัดขยะ เดิมคำแสดฯ เสียค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะเดือนละ 1-2 หมื่นบาท จึงได้เริ่มจัดสร้างเตาเผาขยะ และจัดทีมไปศึกษาดูงานที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน และได้รับคำแนะนำจาก ผศ.ดร. บุญมา ป้านประดิษฐ์ ในการกำจัดขยะ จนกระทั่งมีการสร้างโรงแยกขยะ โรงทำปุ๋ย ไปจนถึงการสร้างและพัฒนาถังผลิตก๊าซชีวภาพ จนกลายเป็นโครงการกำจัดขยะครบวงจร
จากโครงการกำจัดขยะครบวงจร ก่อให้เกิดผลผลิตตามมาอีก เช่น ได้ปุ๋ย น้ำส้มควันไม้ ถ่านดำ แก๊สหุงต้ม ฯลฯ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ จึงเกิดโครงการต่อเนื่องขึ้น คือ โครงการปลูกผัก ปลอดสารพิษ ขึ้นอย่างถาวรโครงการนี้สร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับพนักงาน และบรรลุวัตถุประสงค์ของเจ้าของบริษัทฯ ที่ต้องการจะประกันให้กับพนักงานว่า
ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่ดีทางเศรษฐกิจอีก โรงแรมจะยังมีอาหารรับประทานกันได้อีกนาน รวมถึงการผลิตแก็สชีวภาพจากขยะเศษอาหาร เป้าหมายของโครงการนี้มุ่งเน้นการผลิตแก๊สขึ้นใช้เองให้ได้อย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นของการซื้อเข้ามา
โครงการสูบน้ำด้วย กังหันพลังน้ำ และโครงการในอนาคต จะประกอบด้วย การผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานน้ำ ลดการใช้เครื่องต้มน้ำไฟฟ้า เปลี่ยนเป็นระบบ ต้มน้ำโดยใช้พลังงานความร้อนจากธรรมชาติ ได้แก่ ใช้แสงอาทิตย์ กับ แก๊สชีวภาพ หรือถ่านไม้ที่ผลิตได้เองการผลิตไบโอดีเซลจาก ต้นสบู่ดำ การนำ พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาใช้ทดแทนพลังงานไฟฟ้า และ น้ำมัน เช่น พลังงานลม และ พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น
โครงการต่างๆนำมาสู่สภาพแวดล้อมใหม่ในปัจจุบัน ที่คำแสดกลับกลายเป็นรีสอร์ทที่มีธรรมชาติบริสุทธิ์ มีหนอนและนกกลับคืนมาจำนวนมาก กลายเป็นสถานที่น่าพักผ่อน ซึ่งภายในรีสอร์ท ที่ถือเป็นรีสอร์ทหรู ยังมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 2 สระ สปา ลานกิจกรรม มีผักสดจากสวนด้านข้างไว้บริการลูกค้า ข้าวที่สีเอง สบู่และแชมพูที่สกัดเอง สร้างแบรนด์"คำแสด" ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ขณะที่รีสอร์ทยังอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวเช่น ห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำแควเพียง 16 กม.
นอกเหนือจากธรรมชาติแล้ว หากคุณได้มีโอกาสพักผ่อนกับครอบครัว คำแสดมีกิจกรรมดีๆให้แต่ละคนได้ทำเช่น ลูกๆเล่นกิจกรรมบริเวณเรือนร่มไม้ ร่วมกิจกรรมการละเล่นเด็กไทย การเพ้นท์เสื้อ การเล่นโล้ชิงช้า โดยกิจกรรมของเด็กๆจะมีพนักงานเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแล
ส่วนคุณแม่สามารถไปนวดได้อย่างสบายที่คำแสดสปา หากคุณสุภาพบุรุษที่ชอบตีกอล์ฟ สามารถออกรอบได้จากสนามใกล้ๆรีสอร์ท และ เด็กๆยังได้สัมผัสกับการทำบุญตักบาตรซึ่งทุกวันจะมีพระสงฆ์มารับบาตรทุกเช้า และได้สัมผัสกับวิถีไทย เช่น การดำนา การสีข้าว การใช้โคเทียมเกวียน ทำให้เด็กๆตื่นตาตื่นใจได้
ภายในรีสอร์ทมีต้นไม้ใหญ่ๆหลากหลายชนิด ให้เดินเล่นกันอย่างสบาย รีสอร์ทยังมีพื้นที่ติดแม่น้ำแคว แต่ยืนพักผ่อนริมน้ำก็สบายใจ ยามเช้าที่น้ำยังไม่ไหลออกมาจากเขื่อน จะดูนิ่งสงบเห็นปลาแหวกว่าย และเมื่อเวลาผ่านไปเริ่มมีน้ำไหลแรงจากเขื่อนก็จะมองเห็นน้ำไหลแรง นั่งเล่นริมแม่น้ำก็สบายใจดี
ไม่ไกลรีสอร์ทยังมีแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่นพร้อมมิตร ฟิล์ม สตูดิโอหรือโรงถ่ายพระนเรศวร ให้ท่องเที่ยว หรือจะไปยังสะพาวข้ามแม่น้ำแคว สุสานทหารสัมพันธมิตร เขื่อนศรีนครินทร์ และหากอยากไปไกลหน่อยทองผาภูมิ สังขละบุรี และวัดหลวงพ่ออุตตมะก็น่าไปเยือนทั้งนั้น
นริศรา บุญกอบ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย และ การตลาด คำแสดรีสอร์ท กล่าวว่าเรื่องราวของคำแสด เป็นความภาคภูมิใจอีกรางวัลหนึ่งของชาวคำแสดทุกคน 15 ปีที่คำแสดรีสอร์ทเปิดบริการมา
และ 10ปีที่เธอทำงานที่นี่ การได้รับรางวัลทัวริซึ่มอวอร์ดครั้งนี้ไม่ใช่ความภูมิใจครั้งแรกที่เธอเคยได้รับ หลายครั้งที่เธอเข้าไปดูแลลูกค้าหรืดได้พูดคุยกับลูกค้า และลูกค้ามักจะบอกเธอว่า ไม่เคยรู้มากอนเลยว่ามีรีสอร์ทสวยๆอย่างนี้ที่เมืองกาญจนบุรี หรือทุกครั้งที่ทางรีสอร์ทจัด event ต่างๆขึ้นมา ถ้าเป็นลูกค้าใหม่ๆจะจองห้องพักเพียงคืนเดียว และหลายครั้งที่ลูกค้าต้องไปขอจองเพิ่มเพื่ออยู่ต่อ ด้วยความต้องการที่สัมผัสบรรยากาศอันแสนบริสุทธิ์ให้คุ้มค่า หรือร่วมกิจกรรมต่างๆที่ทางรีสอร์ทจัดขึ้นให้ครบถ้วน
.....วันนี้...คำแสดรีสอร์ท....มีห้องพักแบบเดอลักซ์ 80 ห้อง และห้องรวมแบบ team plus deluxe rooms 16 เตียง1ห้อง พร้อมแล้วที่จะรอต้อนรับด้วยการบริการที่มีคุณภาพ กิจกรรมดีๆ ห้องพักที่ตกแต่งแบบมีรสนิยม รอท่านอยู่.......
...นริศรา เธอกล่าวว่า..เธอมั่นใจในรีสอร์ทที่เธอยุ่งมา10 ปี มั่นใจทั้งในด้านคูณภาพ และการบริการที่ทางรีสอร์ทมีเธอยังบอกด้วยว่ามีหลายรีสอร์ทที่พยามทำหลายๆอยางให้เหมือนคำแสดทั้งการตกแต่งสวน การจัดกิจกรรม แต่คำแสดทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจ
และใส่ใจในทุกๆรายละเอียด...ใส่หัวใจที่มีความรักในรีสอร์ทที่ทำอยู่ ..ใส่ความอบอุ่นให้กับทุกท่านที่มาเยือน วันนี้เธอพร้อมแล้วที่จะบอกว่าคำแสดไม่มีคู่แข่ง ไม่มีการแย่งชิงลูกค้ากับรีสอร์ทอื่นๆ ด้วยกิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้น หรืองานเทรดโชว์ ที่ผ่านมาทำให้ราคาไม่ได้เป็นอุปสรรค ในการขายของกาญจนบุรีอีกต่อไป จากยอดการขายห้องพักที่นับว่าสูงเป็นประวัติการณ์
ที่สำคัญคำแสดก็ยังคงเป็นรีสอรทที่รักษาสภาพแวดล้อมและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อย่างจริงจังที่ได้รับรางวัลจากทรวงพลังงาน และสิ่งแวดล้อมอีกหลายรางวัล เป็นการันตี และไม่ไกลจากรีสอร์ทยังมีโรงถ่ายภาพยนตร์เรื่องสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อีกแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกาญจนบุรีให้ไปเที่ยวและเยี่ยมเยียน
ในค่ำคืนวันที่ 31 ธันวาคมปีนี้ คำแสด รีเวอร์แควรีสอร์ท ยังรอที่จะต้อนรับท่านและครอบครัวด้วยกิจกรรมดีๆ ไว้รอต้อนรับท่าน ช่วงกลางวันสนุกสนานกับกิจกรรม ดำนา สีข้าว โม่แป้ง ทำขนมครก และซุ้มเกมส์เพื่อลุ้นรับรางวัลมากมาย ช่วงค่ำอิ่มอร่อยกับ บุฟเฟ่ต์นานาชาติ ให้ท่านได้ทานอย่างจุใจ
ชมการแสดงละครเวทีเนื้อหาสนุกสนานพร้อมสาระและความบันเทิง อีกทั้งความบันเทิงจากศิลปินที่หลงใหลในธรรมชาติที่คำแสด...คุณภูสมิง หน่อสวรรค์..และคณะ...จะมาชักชวนท่านให้สนุกสนานกันสุดๆกับการส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่....ที่ท่านจะประทับใจมิรู้ลืม...
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สอบถามโทร. 02-934-111-4 หรือ 034-631-443-9 ต่อ 400