ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ปัญหาประมงพื้นบ้านสงขลาประท้วงได้ข้อยุติแล้ว หลัง “นิวคอสตอล” ตกลงยอมจ่ายค่าชดเชยปีละ 25 ล้านบาท ให้เรือประมงพื้นบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ
ในที่สุดก็ได้ข้อยุติแล้วในเรื่องของค่าชดเชยที่กลุ่มเรือประมงพื้นบ้านใน 3 อำเภอ ของ จ.สงขลา คือ อ.สทิงพระ อ.ระโนด และ อ.สิงหนคร เรียกร้องจากบริษัทขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย พื้นที่ อ.สทิงพระ จ.สงขลา หลังจากที่ปักหลักชุมนุมยืดเยื้อที่แหลมสนอ่อน อ.เมืองสงขลา มาตั้งแต่ปลายเดือนที่ผ่ามา
นายเจริญ ทองมา แกนนำคณะกรรมการเรือประมงพื้นบ้าน 3 อำเภอ คือ อำเภอระโนด สทิงพระ และอำเภอสิงหนคร กล่าวว่า ในขณะนี้ทางบริษัท นิวคาสตอล (ประเทศไทย) จำกัด ได้มีหนังสือตอบมาแล้วว่า ทางบริษัทยินดีรับข้อเสนอในเรื่องหลักประกัน 3 ข้อ คือ หลักประกันด้านอาชีพ หลักประกันด้านสุขภาพ และหลักประกันด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีการตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจน และอาจจะทำให้อาชีพประมงพื้นบ้านสูญสิ้นไป จากการดำเนินโครงการในพื้นที่ทับซ้อนกับพื้นที่ทำกินของชาวประมงพื้นบ้าน ซึ่งจับสัตว์น้ำในบริเวณโครงการฯมาเป็นเวลาหลายสิบปี
ทั้งนี้ เรียกร้องให้ บริษัท นิวคอสตอล (ประเทศไทย) จำกัด จะต้องสร้างหลักประกันในด้านอาชีพ เช่น พื้นที่ทำการประมง สิ่งแวดล้อมทางทะเล รวมไปถึงวิถีชีวิตประมงพื้นบ้านและสุขภาพที่จะเกิดขึ้นจากการได้รับอาหารที่ปลอดภัย อันเป็นการเชื่อมโยงไปถึงความมั่นคงทางอาหารของพี่น้องประชาชนทั่วไปที่มิได้ประกอบอาชีพประมงด้วยเช่นกัน
ในส่วนของเงินค่าชดเชยทางบริษัท ยินดีจะจ่ายให้กับเรือประมงพื้นบ้าน 3 อำเภอ คือ อำเภอระโนด สทิงพระ และ อำเภอสิงหนคร จำนวน 1,075 ลำ ที่ได้รับผลกระทบจากการขุดเจาะน้ำมัน ปีละ 25 ล้านบาท โดยจะจ่ายให้ทุกๆ ปีที่มีการขุดเจาะน้ำมัน โดยไม่มีกำหนด ทางเรือประมงพื้นบ้านถือว่า การที่ทางบริษัทยินดีรับข้อเสนอหลักประกัน 3 ข้อหลักที่เราเน้นเรียกร้องไปเป็นประเด็นแรกเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ส่วนในเรื่องเงินชดเชยถือเป็นความสำคัญรองลงมา เพื่อให้เป็นหลักประกันให้เราประกอบอาชีพประมงอยู่ได้ ในช่วงที่เขาขุดเจาะน้ำมัน แต่ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้นทุกอย่างเป็นปกติ เราก็ต้องยอมรับตามข้อตกลงไป เพราะเราถือว่า เรายังทำมาหากินได้ และจะมีการประชุมระหว่างแกนนำประมงพื้นบ้านกับตัวแทนบริษัท ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อลงนามบันทึกข้อตกลงในสัญญาร่วมกันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาวประมงพื้นบ้าน
อย่างไรก็ตาม เพื่อยุติปัญหาทั้งหมด ซึ่งในขณะนี้เรือประมงพื้นบ้านได้ถอนออกจากร่องน้ำหมดแล้วและเรือทุกลำผ่านเข้า-ออกได้เป็นปกติ รวมทั้งเรือ 3 ลำที่จอดที่ท่าเรือ ปตท.สผ.เราก็ให้ออกไปทำงานได้ตามปกติแล้ว
ในที่สุดก็ได้ข้อยุติแล้วในเรื่องของค่าชดเชยที่กลุ่มเรือประมงพื้นบ้านใน 3 อำเภอ ของ จ.สงขลา คือ อ.สทิงพระ อ.ระโนด และ อ.สิงหนคร เรียกร้องจากบริษัทขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย พื้นที่ อ.สทิงพระ จ.สงขลา หลังจากที่ปักหลักชุมนุมยืดเยื้อที่แหลมสนอ่อน อ.เมืองสงขลา มาตั้งแต่ปลายเดือนที่ผ่ามา
นายเจริญ ทองมา แกนนำคณะกรรมการเรือประมงพื้นบ้าน 3 อำเภอ คือ อำเภอระโนด สทิงพระ และอำเภอสิงหนคร กล่าวว่า ในขณะนี้ทางบริษัท นิวคาสตอล (ประเทศไทย) จำกัด ได้มีหนังสือตอบมาแล้วว่า ทางบริษัทยินดีรับข้อเสนอในเรื่องหลักประกัน 3 ข้อ คือ หลักประกันด้านอาชีพ หลักประกันด้านสุขภาพ และหลักประกันด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีการตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจน และอาจจะทำให้อาชีพประมงพื้นบ้านสูญสิ้นไป จากการดำเนินโครงการในพื้นที่ทับซ้อนกับพื้นที่ทำกินของชาวประมงพื้นบ้าน ซึ่งจับสัตว์น้ำในบริเวณโครงการฯมาเป็นเวลาหลายสิบปี
ทั้งนี้ เรียกร้องให้ บริษัท นิวคอสตอล (ประเทศไทย) จำกัด จะต้องสร้างหลักประกันในด้านอาชีพ เช่น พื้นที่ทำการประมง สิ่งแวดล้อมทางทะเล รวมไปถึงวิถีชีวิตประมงพื้นบ้านและสุขภาพที่จะเกิดขึ้นจากการได้รับอาหารที่ปลอดภัย อันเป็นการเชื่อมโยงไปถึงความมั่นคงทางอาหารของพี่น้องประชาชนทั่วไปที่มิได้ประกอบอาชีพประมงด้วยเช่นกัน
ในส่วนของเงินค่าชดเชยทางบริษัท ยินดีจะจ่ายให้กับเรือประมงพื้นบ้าน 3 อำเภอ คือ อำเภอระโนด สทิงพระ และ อำเภอสิงหนคร จำนวน 1,075 ลำ ที่ได้รับผลกระทบจากการขุดเจาะน้ำมัน ปีละ 25 ล้านบาท โดยจะจ่ายให้ทุกๆ ปีที่มีการขุดเจาะน้ำมัน โดยไม่มีกำหนด ทางเรือประมงพื้นบ้านถือว่า การที่ทางบริษัทยินดีรับข้อเสนอหลักประกัน 3 ข้อหลักที่เราเน้นเรียกร้องไปเป็นประเด็นแรกเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ส่วนในเรื่องเงินชดเชยถือเป็นความสำคัญรองลงมา เพื่อให้เป็นหลักประกันให้เราประกอบอาชีพประมงอยู่ได้ ในช่วงที่เขาขุดเจาะน้ำมัน แต่ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้นทุกอย่างเป็นปกติ เราก็ต้องยอมรับตามข้อตกลงไป เพราะเราถือว่า เรายังทำมาหากินได้ และจะมีการประชุมระหว่างแกนนำประมงพื้นบ้านกับตัวแทนบริษัท ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อลงนามบันทึกข้อตกลงในสัญญาร่วมกันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาวประมงพื้นบ้าน
อย่างไรก็ตาม เพื่อยุติปัญหาทั้งหมด ซึ่งในขณะนี้เรือประมงพื้นบ้านได้ถอนออกจากร่องน้ำหมดแล้วและเรือทุกลำผ่านเข้า-ออกได้เป็นปกติ รวมทั้งเรือ 3 ลำที่จอดที่ท่าเรือ ปตท.สผ.เราก็ให้ออกไปทำงานได้ตามปกติแล้ว
