กระบี่ -อธิบดีกรมประมงมอบเครื่องผลิตไบโอดีเซลให้แก่บ้านบ่อม่วง ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม ลดต้นทุนให้แก่ชาวประมงพื้นบ้าน ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (29 ต.ค.) ที่บ้านบ่อม่วง ม.4 ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง เป็นประธานเปิดโรงงานผลิตไบดีเซล ขนาด 200 ลิตรต่อวัน ให้แก่ชุมชนบ้านบ่อม่วง เพื่อลดต้นทุนในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ โดยมีนายธันวาคม เขมะศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายสุนันท์ ศิริมากุล ประมงจังหวัดกระบี่ และชาวบ้านบ่อม่วง จำนวนกว่า 200 คน ให้การต้อนรับ
สำหรับเครื่องผลิตน้ำมันไบโอเดีเซลของกลุ่มชาวประมงบ้านบ่อม่วง ได้รับการสนับสนุน จากกระทรวงพลังและกรมประมง มีกำลังการผลิต 200 ลิตรต่อวัน ผลิตไปแล้ว 700 ลิตร โดยจำหน่ายให้แก่สมาชิก และชาวประมงในพื้นที่ ในราคาที่ต่ำกว่าน้ำมันดีเซลลิตรละ 3 บาท ที่ผ่านมา ประมงบ้านบ่อม่วง ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพประมงพื้นบ้าน ประสบปัญหาเรื่องต้นทุนน้ำมันไม่สามารถออกไปหาปลาในพื้นที่ไกลๆได้ ประกอบกับอยู่ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้ชาวประมงได้รับความเดือดร้อน
ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า การทำประมงมีอยู่สองด้าน คือด้านต้นทุนและด้านรายได้ ในเรื่องของต้นทุนก็ต้องพูดถึงในเรื่องของราคาน้ำมัน ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการประกอบอาชีพประมง ในช่วงที่ผ่านมาเจอวิกฤตพลังงานมาก จนกระทั่งทำให้ผู้ประกอบการเรือพาณิชย์บางรายปิดกิจการไป
เพราะฉะนั้นกรมประมงจะส่งเสริมพลังงานทดแทนที่สามารถใช้กับผู้ประกอบการได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้แก๊ส Lpg และ Ngv รวมทั้งการผลิตไบโอดีเซล ซึ่งเป็นพลังงานที่กำลังได้รับความนิยม ประชาชนสามารถรวมตัวกันเป็นกลุ่มเพื่อผลิตไบโอดีเซลมาใช้กันภายในชุมชน โดยการผลิตกันเอง มีวิธีการผลิตที่ไม่สลับซับซ้อน ใช้วัตถุดิบ คือ น้ำมันที่ใช้แล้ว ซึ่งมีอยู่ใกล้ตัว อยู่ในชุมชน เป็นการนำมันพืชที่ใช้แล้วมาผ่านกระบวนการผลิตแยกสารระหว่างน้ำและน้ำมันออกจากกัน เป็นการผลิต ออกมาแล้วขายกันในกลุ่มชุมชนในกลุ่มอาชีพ เป็นการลดต้นทุนประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง
ในส่วนของบางรายได้นั้น ก็คงหนีไม่พ้นปัญหาสัตว์น้ำ ต้องยอมรับว่า สมัยนี้ธรรมชาติมีความเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว สัตว์น้ำบางอย่างแทบจะสูญพันธุ์ ซึ่งในเรื่องนี้ทางกรมประมงได้ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อทดแทนสัตว์น้ำถูกจับไปเป็นการเพิ่มพูนทรัพยากร คือ ว่าชาวประมงพื้นบ้านจะต้องช่วยกันดูแลมีความรับผิดชอบในการทำประมงดูแลทรัพยากร เป็นหูเป็นตาให้กับข้าราชการ เพื่อป้องกันผู้ที่เข้ามาใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย แต่ประมงพื้นบ้างจะต้องไม่กระทำความผิดเสียเอง ซึ่งจะทำให้ประมงพื้นบ้านสามารถจับสัตว์น้ำได้อย่างยาวนาน ปริมาณสัตว์น้ำก็เพิ่มขึ้นรายได้ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (29 ต.ค.) ที่บ้านบ่อม่วง ม.4 ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง เป็นประธานเปิดโรงงานผลิตไบดีเซล ขนาด 200 ลิตรต่อวัน ให้แก่ชุมชนบ้านบ่อม่วง เพื่อลดต้นทุนในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ โดยมีนายธันวาคม เขมะศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายสุนันท์ ศิริมากุล ประมงจังหวัดกระบี่ และชาวบ้านบ่อม่วง จำนวนกว่า 200 คน ให้การต้อนรับ
สำหรับเครื่องผลิตน้ำมันไบโอเดีเซลของกลุ่มชาวประมงบ้านบ่อม่วง ได้รับการสนับสนุน จากกระทรวงพลังและกรมประมง มีกำลังการผลิต 200 ลิตรต่อวัน ผลิตไปแล้ว 700 ลิตร โดยจำหน่ายให้แก่สมาชิก และชาวประมงในพื้นที่ ในราคาที่ต่ำกว่าน้ำมันดีเซลลิตรละ 3 บาท ที่ผ่านมา ประมงบ้านบ่อม่วง ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพประมงพื้นบ้าน ประสบปัญหาเรื่องต้นทุนน้ำมันไม่สามารถออกไปหาปลาในพื้นที่ไกลๆได้ ประกอบกับอยู่ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้ชาวประมงได้รับความเดือดร้อน
ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า การทำประมงมีอยู่สองด้าน คือด้านต้นทุนและด้านรายได้ ในเรื่องของต้นทุนก็ต้องพูดถึงในเรื่องของราคาน้ำมัน ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการประกอบอาชีพประมง ในช่วงที่ผ่านมาเจอวิกฤตพลังงานมาก จนกระทั่งทำให้ผู้ประกอบการเรือพาณิชย์บางรายปิดกิจการไป
เพราะฉะนั้นกรมประมงจะส่งเสริมพลังงานทดแทนที่สามารถใช้กับผู้ประกอบการได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้แก๊ส Lpg และ Ngv รวมทั้งการผลิตไบโอดีเซล ซึ่งเป็นพลังงานที่กำลังได้รับความนิยม ประชาชนสามารถรวมตัวกันเป็นกลุ่มเพื่อผลิตไบโอดีเซลมาใช้กันภายในชุมชน โดยการผลิตกันเอง มีวิธีการผลิตที่ไม่สลับซับซ้อน ใช้วัตถุดิบ คือ น้ำมันที่ใช้แล้ว ซึ่งมีอยู่ใกล้ตัว อยู่ในชุมชน เป็นการนำมันพืชที่ใช้แล้วมาผ่านกระบวนการผลิตแยกสารระหว่างน้ำและน้ำมันออกจากกัน เป็นการผลิต ออกมาแล้วขายกันในกลุ่มชุมชนในกลุ่มอาชีพ เป็นการลดต้นทุนประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง
ในส่วนของบางรายได้นั้น ก็คงหนีไม่พ้นปัญหาสัตว์น้ำ ต้องยอมรับว่า สมัยนี้ธรรมชาติมีความเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว สัตว์น้ำบางอย่างแทบจะสูญพันธุ์ ซึ่งในเรื่องนี้ทางกรมประมงได้ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อทดแทนสัตว์น้ำถูกจับไปเป็นการเพิ่มพูนทรัพยากร คือ ว่าชาวประมงพื้นบ้านจะต้องช่วยกันดูแลมีความรับผิดชอบในการทำประมงดูแลทรัพยากร เป็นหูเป็นตาให้กับข้าราชการ เพื่อป้องกันผู้ที่เข้ามาใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย แต่ประมงพื้นบ้างจะต้องไม่กระทำความผิดเสียเอง ซึ่งจะทำให้ประมงพื้นบ้านสามารถจับสัตว์น้ำได้อย่างยาวนาน ปริมาณสัตว์น้ำก็เพิ่มขึ้นรายได้ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
