วันนี้ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” รับหน้าที่เป็นผู้นำเที่ยวพาก๊วนเพื่อนรู้ใจไปไหนไปกันไปเที่ยวแบบสบายๆใกล้กรุงชนิดที่บางคนยังไม่รู้เลยว่าพื้นที่แห่งนี้ไม่ใช่เขตกรุงเทพฯแล้ว เอ๊า!!อย่าได้งง เมืองที่ว่านี้ก็คือจังหวัด “ปทุมธานี” ถิ่นบัวหลวงนี่เอง
โดยการเที่ยวครั้งนี้ ไม่ได้เที่ยวแบบไก่กาทั่วไปนะ แต่เป็นการเที่ยวที่สนุกเพลิดเพลินและได้ความรู้อีกด้วย อย่าได้รีรอ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” และก๊วนเพื่อนขับรถกันแบบชิลล์ๆ มาถึงยังที่สถานที่แรกที่เรามักจะผ่านไปผ่านมาจนคิดว่านี่คือกรุงเทพฯ แต่แท้จริงแล้ว อาคารทรงแปดเหลี่ยมคล้ายป้อมค่ายหอรบสมัยโบราณดูแปลกตาแต่สวยงามนั้นคือ “อนุสรณ์สถานแห่งชาติ” ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
ที่อนุสรณ์สถานแห่งชาตินี้ เป็นสถานที่ที่เราจะได้ภาคภูมิใจกับ 9 มหาราชของเราชาวไทย ซึ่งก็คือพระมหากษัตริย์ที่ได้เคยทรงทำคุณประโยชน์อันใหญ่หลวงให้กับประเทศชาติและปวงชนชาวไทยภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารจนได้รับการขนานนามให้ทรงเป็นมหาราช
นอกจากพระบรมรูปมหาราช 9 พระองค์ในอาคารประกอบพิธีแล้ว ที่อาคารประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ทหาร หรืออาคารรูปทรงแปดเหลี่ยม คล้ายป้อมค่ายหอรบสมัยโบราณอันโดดเด่นนี้ ได้จัดแสดงนิทรรศการไว้ทั้งหมด 4 ชั้น ได้แก่ ชั้น 1 จัดแสดงหุ่นจำลองเหตุการณ์สงครามที่กองทัพไทยได้ปฏิบัติการรบครั้งใหญ่ๆไว้ 5 เหตุการณ์ ชั้นที่ 2 จัดตกแต่งเป็นห้องเกียรติยศ เพื่อเชิดชูเกียรติแก่ทหาร ตำรวจและพลเรือนที่ปฏิบัติการรบด้วยความกล้าหาญและเสียสละ ถัดไปชั้นที่ 3 แสดงหุ่นจำลองเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในประเทศชาติไทยของเรา และชั้นที่ 4 จัดแสดงวิวัฒนาการของเครื่องแบบ เครื่องหมายยศและส่วนประกอบของเครื่องแบบทหาร ตำรวจ ในสมัยต่างๆตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
และอาคารสุดท้ายคืออาคารภาพปริทัศน์ เป็นอาคารทรงแปดเหลี่นม ผนังภายในอาคารโค้งเป็นวงกลมยาวโดยรอบ 90 เมตร มีจิตกรรมฝาผนังประกอบเสียงและคำบรรยายแสดงเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหลังจากที่ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ได้เดินชมจนทั่วแล้วก็บังเกิดความรู้สึกฮึกเหิม พร้อมทั้งรู้สึกซาบซึ้งถึงความกล้าหาญและเสียสละของบรรพบุรุษไทยที่ปกป้องเอกราชของไทยมาได้จนถึงทุกวันนี้ บางทีพวกนายทุนหรือนักการเมืองบางคนควรจะมาศึกษาดูงานที่นี่ไว้ เผื่อจะเกิดความรู้สึกรักชาติ ไม่เอาประเทศชาติที่เหล่าบรรพบุรุษได้ปกป้องรักษามาด้วยชีวิตไปขายอย่างหน้าชื่นตาบานเช่นทุกวันนี้
ซึมซับความรักชาติกันแล้ว ก็เดินทางแบบสบายๆไปต่อกันที่ “พิพิธภัณฑ์บัว” มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คลองหก ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมและเพาะพันธุ์บัวกว่า 200 พันธุ์ ทั้งบัวพันธุ์ไทยพื้นเมือง พันธุ์ต่างประเทศและพันธุ์ผสม ทั้งในรูปแบบที่อยู่ในกระถางและบึงน้อยใหญ่ และนอกจากความสวยงามของดอกบัวแล้ว เรายังสามารถนำบัวไปใช้ประโยชน์ได้มากมายทั้งนำไปบูชาพระ นำมาทำอาหาร
และที่พิพิธภัณฑ์บัวแห่งนี้ก็ยังเอาบัวมาทำเป็นชาบัวอีกด้วย ถ้าอยากรู้ว่าบัวสวยงามเพียงใด และชาบัวรสชาติเป็นเช่นไร ก็ต้องแวะมาสัมผัสของจริงกันที่พิพิธภัณฑ์บัว ม.เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ขอแนะนำว่าการชมบัวควรจะมาประมาณช่วยสายๆ เพราะอากาศดีไม่ร้อน และที่สำคัญจะได้ชมความงามของบัวบานกลางคืนและบัวบานกลางวันควบคู่กัน
เต็มอิ่มกับดอกบัวอันสวยงามหลากสีแล้ว ใกล้ๆกับพิพิธภัณฑ์บัวเป็นที่ตั้งของ “ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต” หรือ “ท้องฟ้าจำลองแห่งใหม่” ที่ดูไฮเทค ภายในมีนิทรรศการด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี อาทิ โลกดาวเคราะห์ โลกล้านปี มหัศจรรย์แห่งชีวิต ดาราศาสตร์และอวกาศ เป็นต้น
และที่ถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คงจะหนีไม่พ้น ท้องฟ้าจำลอง ซึ่งเมื่อเข้าไปภายในท้องฟ้าจำลองที่มืดสนิทแล้ว ก็จะมีการจำลองท้องฟ้าให้พวกเราได้เห็นถึง 180 องศา เลยทีเดียว นอกจากนั้นก็มีการฉายภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Kaluoka'hina ผู้พิทักษ์ท้องทะเล ที่สนุกเพลิดเพลิน และ Infinity ซึ่งเป็นภาพยนตร์สามมิติเกี่ยวกับการพาไปสำรวจอวกาศที่น่ารู้ โดยจะมีฉายเป็นรอบๆ ดังนั้นเช็ครอบฉายไว้ล่วงหน้าเพื่อไม่ให้พลาด เดี๋ยวจะหาว่า “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ไม่เตือน
ตื่นตาตื่นใจกับท้องฟ้าจำลองแห่งใหม่แล้ว ก็ออกเดินทางต่อไปยัง “หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ” ต.คลองห้า อ.คลองหลวง แค่เห็นด้านหน้าก็ดูอลังการโดดเด่นด้วยรูปแบบอาคารสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ สมัยรัชกาลที่ 9 มีลักษณะเป็นกลุ่มอาคาร 4 ส่วนมีทางเชื่อม ประกอบด้วยอาคารส่วนที่ 1 เป็นอาคารเอกสารจดหมายเหตุมี 9 ชั้น อาคารส่วนที่ 2 คืออาคารให้บริการค้นคว้า อาคารส่วนที่ 3-4 จัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจและโครงการในพระราชดำริ ซึ่งคาดว่าจะเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคมศกนี้
สำหรับนิทรรศการถาวรที่เปิดให้เข้าชมแล้วได้แก่ นิทรรศการแสงหนึ่งคือรุ้งงาม เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ จัดแสดงพระประวัติ พระกรณียกิจ พระอัจริยภาพในด้านต่างๆของพระองค์อย่างละเอียด โดยแบ่งเป็น 4 โซนได้แก่ โซนส่งเสด็จ โซนแสงหนึ่ง โซนในความทรงจำ และโซนรุ่งงาม ซึ่งไม่เน้นคำบรรยายแต่ให้ทุกคนได้มองและระลึกถึงพระจริยภาพของพระองค์อย่างมีจินตนาการ
สถานที่ถัดไป “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ขอพาไปต่ออารมณ์กันที่ “หออัครศิลปิน” ต.คลองห้า อ.คลองหลวง ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติองค์ในหลวง เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงครองราชย์ครบ 50 ปีเพื่อแสดงผลงานอันทรงคุณค่าทางด้านศิลปะ และวัฒนธรรมของพระองค์ในฐานะที่ทรงเป็น "อัครศิลปิน"
ภายในหออัครศิลปินแบ่งส่วนเป็นห้องตามศิลปะประเภทต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และบรรดาเหล่าศิลปินแห่งชาติ ผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมแขนงต่าง ๆ เช่นวรรณกรรม หัตถกรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น นอกจากนี้มีการจัดแสดงพระราชประวัติ และพระอัจฉริยภาพที่บริเวณชั้น2 และบนชั้น 3
โดยในชั้น 2 เป็นการนำเสนอในรูปแบบวีดีโอเป็นจำนวน 9 ตอน แต่ละตอนบ่งบอกถึงพระปรีชาด้านต่างๆ เช่น พระปรีชาสามารถในการสร้างเรือใบ "ซูเปอร์มด" ส่วนชั้นที่ 3 นำเสนอภาพความเป็นอัครศิลปินที่รายล้อมด้วยศิลปินแห่งชาติ ภาพความเป็นมิ่งขวัญแก่ศิลปินทุกแขนง นอกจากนี้ยังจัดแสดงผลงานด้านคีตศิลป์ และภาพฝีพระหัตถ์ที่หาชมได้ยากอีกด้วย
สถานที่อันเป็นดั่งองค์ความรู้ควบคู่ความเพลิดเพลินที่สุดท้ายในทริปนี้ก็คือ “องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ” หรือ อพวช. ต.คลองหก อ.คลองหลวง ซึ่งก็มีรูปแบบอาคารที่น่าสนใจเช่นกัน โดยออกแบบอย่างทันสมัยที่สะท้อนถึงความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีการก่อสร้าง ด้วยความแปลกใหม่ของโครงสร้างและใช้รูปทรงเลขาคณิตให้เป็นอาคารรูปลูกบาศก์จำนวน 3 รูปยึดติดกัน ภายในแบ่งเป็น 6 ชั้น แต่ความสูงโดยรวมเท่ากับอาคารทั่วไป12ชั้น
สำหรับชั้นที่ 1 เป็นส่วนของการต้อนรับและแนะนำการเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ชั้นที่ 2 เป็นประวัติการค้นพบและการประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นที่ 3 คือวิทยาศาสตร์พื้นฐาน อุโมงค์พลังงาน และโรงภาพยนตร์ ชั้นที่ 4 ได้แก่ วิทยาสาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับประเทศไทย อาทิ โลกของเรา สิ่งแวดล้อม สิ่งก่อสร้างและโครงสร้าง เกษตรกรรม ชั้นที่ 5 เป็นวิทยาสาสตร์และเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน เช่น ร่างกายของเรา การคมนาคม คุณภาพชีวิต และชั้นสุดท้ายคือชั้นที่ 6 ได้แก่เทคโนโลยีภูมิปัญญาไทย
ซึ่งใน อพวช. แห่งนี้ พวกเราได้สนุกสนานกับการทดลองและเกมต่างๆมากมาย ชนิดที่ว่าถึงจะโตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้วก็มีสิทธิที่จะสนุกเพลิดเพลินกันได้แบบไม่ต้องอายใคร เอ๊า!!ว่างกันวันไหนก็ไม่ต้องรีรอ แวะเวียนมาเที่ยวเมืองบัวหลวงปทุมธานีกันได้ใกล้แค่นี้เอง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
อนุสรณ์สถานแห่งชาติ ต.คูคต อ.ลำลูกกา เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-15.00 น. โทร.0-2532-1021, พิพิธภัณฑ์บัว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ต.คลองหก อ.ธัญบุรี เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น. โทร.0-2549-3042-3,ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต ต.คลองหก อ.ธัญบุรี เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. โทร.0-2577-5456-9,หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ต.คลองห้า อ.คลองหลวง เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-16.00น. โทร.0-2902-7946-7,หออัครศิลปิน ต.คลองห้า อ.คลองหลวง เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-16.00น. โทร.0-2986-5020-4,องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ(อพวช.) ต.คลองหก อ.คลองหลวง เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.30-17.00 น. โทร.0-2577-4172-8,หรือสอบถามข้อมูลเส้นทางท่องเที่ยวปทุมได้ที่ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จ.ปทุมธานี โทร. 0-2904-6503 หรือที่ ททท.สำนักงานกรุงเทพฯ โทร.0-2250-5500