ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ-จดหมายข่าวจากท้องฟ้าจำลองกรุงเทพส่งตรงถึงผู้จัดการวิทยาศาสตร์ ระบุเตรียมจัดงานมหกรรมคู่แฝดครั้งยิ่งใหญ่ ครอบครัวคู่แฝด 150 คู่ไม่ควรพลาด ร่วมไขความลับฝาแฝดผ่านดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ต้อนรับเดือนแห่งดาวคนคู่ “เจมินี” พร้อมเจาะลึกการถ่ายทอดพันธุกรรมแฝดจากบรรพบุรุษ ความต่างในความเหมือน 22 มิ.ย.นี้
การมีลูกแฝดอาจสร้างความดีใจให้กับครอบครัวของใครหลายๆ โดยเฉพาะผู้ที่มีความพร้อมในด้านฐานะ ยิงปืนนัดเดียวเหมือนได้นก 2 ตัว แต่ครอบครัวที่มีลูกฝาแฝดจะรู้ดีว่าการเลี้ยงลูกแฝดก็ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะการเลี้ยงลูกแฝดให้เติบโตมาสมบูรณ์พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ!
นางสาวสาลิน วีรบุตร์ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา สำนักส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่าเดือนมิถุนายนถือเป็นเดือนสำคัญในแง่ดาราศาสตร์ที่เมื่อมองจากโลกจะเห็นดวงอาทิตย์ปรากฏอยู่ในกลุ่มดาวคนคู่ หรือกลุ่มดาวเจมินี ซึ่งเป็น 1 ใน กลุ่มดาว จักรราศี 12 กลุ่ม ประจำเดือนต่างๆ ในรอบปี จึงมองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างดาวคนคู่กับคนคู่แฝด และอยากเชิญชวนคู่แฝดมาร่วมดูดาวเรียนรู้เรื่องราวบนท้องฟ้า เรียนรู้ความมหัศจรรย์ของความเป็นแฝด
ทั้งนี้ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ได้เตรียมจัดงานเพื่อคนคู่แฝดโดยเฉพาะขึ้น ชื่องานว่าครอบครัวฝาแฝดสุขสันต์ “Happy Twins 2008” ในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะเป็นการจัดงานรวมพลคนคู่แฝดครั้งยิ่งใหญ่ในกรุงเทพมหานครถึง 150 คู่พร้อมครอบครัว ที่จะได้มาศึกษาเจาะลึกความมหัศจรรย์ของคู่แฝดผ่าน ดาราศาสตร์ และวิทยาศาสตร์
ดาราศาสตร์ ปะทะ โหราศาสตร์
ในแง่ดาราศาสตร์ กลุ่มดาวคนคู่ (Gemini) เป็นกลุ่มดาวประจำเดือนมิถุนายน เป็นกลุ่มดาวจักรราศีที่ 3 ในราศีเมถุน มีสัญลักษณ์ประจำราศีคือรูปของเด็กชายฝาแฝดสองคนที่อยู่ด้วยกัน
กลุ่มดาวคนคู่ เป็นกลุ่มดาวจักรราศีที่อยู่ถัดจากกลุ่มดาววัวไปทางทิศตะวันออก ประกอบด้วยดาวฤกษ์อย่างน้อย 8 ดวง เรียงกันเป็นรูปคนคู่ หรือฝาแฝด ดาวสว่างดวงหนึ่งชื่อ “พอลลักซ์” ดาวสว่างอีกดวงหนึ่งเป็นฝาแฝดชื่อ “คาสเตอร์” ซึ่งบนท้องฟ้าจะสังเกตดาวคนคู่นี้ได้ไม่ยาก เพราะเป็นดาวที่มีความสว่างมาก ขณะที่คนไทยนั้น ตั้งแต่โบร่ำโบราณมองเห็นกลุ่มดาวคนคู่เรียงตัวเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า จึงรู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “กลุ่มดาวโลง”ด้วย
นิยายดาวของชาวกรีกมีเรื่องเล่าถึงกลุ่มดาวคนคู่ว่า “พอลลักซ์” กับ “คาสเตอร์” เป็นโอรสฝาแฝดของจอมเทพเซลุส ทั้งคู่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกันและเป็นฝาแฝดที่รักกันมาก ออกศึกสงครามร่วมกันหลายครั้ง เมื่อสิ้นชีวิตลงจอมเทพเซอุสจึงนำคนคู่นี้ไปประดับไว้ในท้องฟ้า กลายเป็นกลุ่มดาวประจำเดือนมิถุนายน ช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่เข้าไปอยู่ในกลุ่มดาวคนคู่ เป็นช่วงวันที่ 21 มิถุนายน ถึง 19 กรกฎาคมของทุกปี
ด้านโหราศาสตร์ เมื่อนานหลายพันปีมาแล้วที่วิชาโหราศาสตร์กำเนิดขึ้น ชาวบาบิโลเนียผู้ติดแบ่งกลุ่มดาวขึ้นเป็นครั้งแรก สังเกตว่าวันที่ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่มาถึงกลุ่มดาวแกะเป็นจุดเริ่มต้นของราศีเมษ กลุ่มแรกของปี ประมาณวันที่ 15 เมษายน และช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์เข้าไปอยู่ในกลุ่มดาวคนคู่ อยู่ระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน ถึง 15 กรกฎาคม และยังคงใช้อยู่ในปัจจุบัน
ในความเป็นจริง ดาราศาสตร์กับโหราศาสตร์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเป็นฝาแฝดแต่อย่างใด เพราะคู่แฝดอาจเกิดในเดือนใดก็ได้ในรอบปี ไม่จำเป็นต้องเกิดเดือนมิถุนายน ส่วนด้านโหราศาสตร์ คู่แฝดอาจอยู่ในราศีใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในราศีเมถุนเสมอไป แต่ที่น่าสนใจคือโหราศาสตร์ ให้ข้อสังเกตว่า บุคลิกพื้นฐานของคนที่มีดวงอาทิตย์อยู่ในราศีเมถุน เป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองพอควร พูดจามีหลักการ และเป็นมิตรกับผู้อื่น
คู่แฝด-มหัศจรรย์แห่งชีวิต
ฝาแฝด เป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งของชีวิต ฝาแฝดมี 2 แบบ คือแฝดแท้กับแฝดเทียม
แฝดแท้ เกิดจากอสุจิ 1 ตัว ผสมกับไข่ 1 ใบ แล้วเกิดการแบ่งตัวออกเป็น 2 เซลล์ เจริญเติบโตเป็นทารกเหมือนกัน 2 คน เรียกว่าแฝดแท้ แฝดแท้นี้มีรูปร่าง หน้าตา และเพศเหมือนกัน
แฝดเทียม เกิดจากอสุจิ 2 ตัว ผสมกับไข่ 2 ใบ เซลล์ต่างเจริญเติบโตเป็นทารก 2 คน ซึ่งอาจมีรูปร่าง หน้าตา และเพศ เหมือนกันหรือต่างกันก็ได้
นอกจากนี้ ยังมีแฝดสยาม ซึ่งเป็นแฝดแท้ที่มีร่างกายบางส่วนติดกัน เกิดจากความผิดปกติของการแบ่งเซลล์ในครรภ์มารดา บางคู่อาจมีส่วนติดกันในช่วงศีรษะ ช่วงลำตัว หรือช่วงล่าง แฝดสยามจึงเป็นเพศเดียวกัน หน้าตาเหมือนกัน มี DNA เหมือนกัน และมีโอกาสเกิด 1 ใน 50,000-100,000 ราย แต่น่าเสียดายที่ร้อยละ 50 ของแฝดสยามจะมีโอกาสเสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากลืมตาตื่นมาดูโลก
นอกจากนี้จากสถิติโลกยังพบว่าในจำนวนพ่อแม่ 250 คู่ จะเกิดแฝดแท้ 1 คู่ และครอบครัวที่มีแม่ที่มีญาติเป็นแฝดมีโอกาสได้ลูกแฝดมากกว่าพ่อที่มีญาติเป็นแฝด และเมื่อสำรวจตามเชื้อชาติยังพบว่าหญิงชาวผิวดำมีโอกาสเกิดลูกแฝดมากกว่าหญิงผิวขาว และหญิงที่สมบูรณ์มีน้ำหนักตัวมาก ก็มีโอกาสตั้งครรภ์แฝดมากกว่าหญิงที่มีน้ำหนักตัวน้อย
มนุษย์มีการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เช่น ลักยิ้ม ติ่งหู ขนกลางข้อนิ้วมือ มีขนในหู ตีนผมหยักที่หน้าผาก นิ้วโป้งงอน ม้วนลิ้น ฯลฯ คู่แฝดที่เข้าร่วมงานจะได้สำรวจตัวเองว่ามีลักษณะใดที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ และเปรียบเทียบระหว่างคู่แฝดด้วยกันว่ามีลักษณะสำคัญเหมือนกันหรือไม่
สำหรับเด็กๆ แล้ว นี่คืองานที่เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับตนเอง เป็นการค้นหาในความรู้ ความมหัศจรรย์ที่ไม่จบสิ้น
ขณะเดียวกันสำหรับผู้ปกครอง งานนี้พลาดไม่ได้ เพราะแพทย์กรมสุขภาพจิต วิทยากรผู้มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญจะมาให้คำแนะนำ เทคนิคทางจิตวิทยาการเลี้ยงลูกแฝดแบบไร้ปมด้อย ขจัดการเปรียบเทียบ อิจฉา ลำเอียง น้อยใจ ทั้งยังเป็นการผสานความรัก ความอบอุ่นในครอบครัวในการเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีความสุข