รมว.ท่องเที่ยวเผยสามแนวทางแก้ปัญหานักท่องเที่ยวลดลงหลังเกิดเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองในประเทศ พร้อมกล่าวว่านักท่องเที่ยวไม่ต้องห่วงเรื่องความไม่ปลอดภัย เพราะการชุมนุมนั้นไม่ได้เป็นการต่อต้านนักท่องเที่ยว ด้านผู้ว่า ททท.เตรียมจัดแคมเปญใหม่ให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม เพื่อดึงนักท่องเที่ยวให้กลับมาเที่ยวอีกครั้งหลังเหตุการณ์สงบ
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กล่าวให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์มติชน เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 51 ที่ผ่านมา เกี่ยวกับเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองที่ส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวว่า การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจะต้องมีการปรับตัวใหม่อย่างแน่นอน แนวทางที่จะต้องดำเนินการในตอนนี้แบ่งเป็น 3 เรื่อง คือ เรื่องที่หนึ่ง จะต้องแก้ไขการเมืองให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว เพราะถ้าแก้ไขในเรื่องการท่องเที่ยวก่อนก็คงจะไม่มีผลอะไร โดยเห็นว่าการแก้ไขปัญหาจะต้องเปิดเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกันให้ได้ ซึ่งเห็นว่าการดำเนินการในช่วงที่ผ่านมาไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร จึงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ส่วนการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลนั้น ก็เข้าใจว่าเพื่อลดการเผชิญหน้า แต่เมื่อไม่มีเหตุการณ์อะไรขึ้นแล้ว ก็สมควรที่จะยกเลิก
เรื่องที่สองคือ ได้สั่งการให้นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯจัดประชุมการพัฒนาการท่องเที่ยว เพื่อดูว่าจะเยียวยาเอกชนในประเด็นอะไรได้อีกบ้าง ซึ่งที่ผ่านมาสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีข้อเสนอว่า เมื่อนักท่องเที่ยวยกเลิกทัวร์ หรือห้องพักต่างๆ ภาคเอกชนได้รับผลกระทบ ขณะที่บริษัทประกันก็ไม่จ่ายในส่วนที่ไม่ตรงกับเงื่อนไข ผู้ประกอบการจึงเสนอให้ภาครัฐช่วยพยุงค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้กับภาคเอกชนได้หรือไม่ รวมถึงการปิดล้อมสนามบิน จนนักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าใช้บริการได้ ซึ่งในเรื่องแบบนี้ก็ต้องมีการพิจารณาร่วมกันว่าจะช่วยเหลืออย่างไร
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าในช่วงที่นักท่องเที่ยวชะลอการเดินทางเข้ามาแบบนี้ หลายสมาคมมีความคิดเห็นตรงกันว่าควรจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาส โดยการจัดอบรมบุคลากรการท่องเที่ยวให้มีความรู้ความสามารถมากยิ่งขึ้น เพราะในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมากไม่สามารถที่จะฝึกอบรมได้ เมื่อนักท่องเที่ยวลดลงก็ควรจะพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพ โดยไม่มีข้ออ้างว่าไม่มีเวลาเพราะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากอีกแล้ว
และเรื่องที่สาม คือเรื่องการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว คือฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว เพราะที่ผ่านมาการพัฒนาดำเนินการได้ลำบาก เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก จึงไม่สะดวกที่จะดำเนินงานได้เต็มที่ ดังนั้น ในช่วงนี้ที่นักท่องเที่ยวมีอยู่น้อย จึงเป็นช่วงที่เหมาะสมที่จะเข้าไปฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวเหล่านั้นให้สมบูรณ์ หรือการก่อสร้างสาธารณูปโภคเพิ่ม เช่น ก่อสร้างห้องน้ำเพิ่มเติม หรือทำลานจอดรถ เพื่อเพิ่มความสะดวกในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ที่คาดว่านักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางเข้ามาอย่างแน่นอน
นอกจากนั้น นายวีระศักดิ์ยังกล่าวถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยว่า หลายประเทศที่ประกาศเตือนนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เป็นการเตือนชั่วคราว และขอให้นักท่องเที่ยวตรวจสอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ดังนั้น หากเหตุการณ์คลี่คลายก็จะต้องมีการยกเลิกประกาศเตือน ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเหมือนเดิม ขณะที่การประกาศเตือนก็จะเน้นไม่ให้อยู่ในบริเวณที่ชุมนุมเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวฯก็พยายามสื่อสารให้กลุ่มต่างๆ ได้รับทราบ โดยเฉพาะต่างประเทศ เพื่อให้ทราบว่าประเทศไทยยังมีที่เที่ยวอีกเป็นจำนวนมาก แต่ที่ไปเที่ยวไม่ได้ในตอนนี้คือทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น
อีกทั้งที่ผ่านมาพยายามชี้แจงไปแล้วว่านักท่องเที่ยวไม่ใช่เป้าหมายของการชุมนุม การชุมนุมที่เกิดขึ้นเป็นการต่อต้านอำนาจรัฐบาลเท่านั้น และการที่นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาให้สติกับผู้ชุมนุมว่าไม่ควรจะปิดสนามบิน ก็ทำให้สถานการณ์ต่างๆ เริ่มดีขึ้น และเชื่อว่าหากไม่มีการทำอะไรที่รุนแรงทั้งผู้ชุมนุม และรัฐบาล การปิดสนามบินก็คงไม่เกิดขึ้นอีก โดยยืนยันว่าการปิดสนามบินไม่ใช่เรื่องของความไม่ปลอดภัย แต่เป็นเรื่องของความไม่สะดวก และต้องแยกทั้ง 2 เรื่องออกจากกันด้วย อีกทั้งการชุมนุมนั้นไม่ได้เป็นการต่อต้านนักท่องเที่ยว เรื่องความไม่ปลอดภัยจึงไม่มีแน่นอน
ด้านนางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “ขณะนี้ ททท.ยังดำเนินการทุกอย่างตามแผนเดิมทั้งในและต่างประเทศ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่หลังจากที่เหตุการณ์ต่างๆ เข้าสู่สภาวะปกติ ททท.จะดำเนินการในลักษณะเดียวกันกับหลังเหตุการณ์เครื่องบินชนตึกเวิลด์เทรด ในสหรัฐอเมริกาเมื่อหลายปีก่อน ที่ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงเป็นจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในแผนที่จะต้องดำเนินการคือ การจัดแคมเปญใหม่ให้ยิ่งใหญ่มากกว่าเดิม เพื่อดึงนักท่องเที่ยวให้กลับเข้ามาท่องเที่ยวอีกครั้ง ส่วนจะเป็นในรูปแบบไหน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา”
“ตอนนี้ยังไม่ได้วางแผนอะไรมากมายนัก เพราะต้องรอดูสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อน แต่เมื่อเหตุการณ์สงบเราก็จะฟื้นความเชื่อมั่นกลับมาอีกครั้ง ส่วนเรื่องที่จะให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ขณะนี้มีกองทุนที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวอยู่แล้ว จึงสามารถที่จะนำมาช่วยเหลือได้ทันที”