ช่วงนี้ผมขอถอดหมวกนักธุรกิจ แต่สวมหมวกฝ่ายวิชาการ ชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย อดีตนักกิจกรรม นายกสโมสรนิสิต จุฬาฯ ปี 2527 ด้วยความรักและห่วงใยในบ้านเมืองจริงๆ ครับ
ผมเพิ่งไปชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง HANCOCK มา นำแสดงโดย วิล สมิท นักแสดงผิวสีผู้โด่งดังในบทบาทของ จอห์น แฮนคอก ซุปเปอร์ฮีโร่ ขี้เมา เลอะเทอะ เขาเหาะเหินได้รวดเร็วแบบมองไม่ทัน แต่ช่วงต้น เขาเป็นคนสำมะเลเทเมา เย่อหยิ่ง ไม่สนใจใคร แม้เขาจะบินไปช่วยปราบโจรร้าย 3-4 คนได้ แต่ความไม่สนใจคนอื่น ทำให้รถตำรวจพังไปหลายคัน ทางด่วนถูกถล่มเสียหาย แล้วยังเอารถผู้ร้ายไปแขวนไว้บนยอดตึกสูงซึ่งกว่าคนจะเอาลงมาได้ ก็คงต้องใช้จ่ายอีกมากมาย แม้เขาจะช่วยปราบโจรร้ายได้บ้าง แต่ความเสียหายที่เขาสร้างขึ้นก็มากเหลือเกินจนชาวบ้านกลับไม่ชอบเขา หาว่าเขาเป็นพวกคนเกเร (ดูเหมือนภาษาอังกฤษ จะแปลตรงๆประมาณว่า "ช่องทวาร")
เขาได้มีโอกาสพบกับ เรย์ เอมเบรย์ ที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์ ผู้ตกต่ำเพราะโครงการช่วยโลกงดงามของเขาไม่ได้รับการยอมรับ ในเวลาที่ได้พบกันนั้น เรย์ขับรถแล้วพลาด อยู่กลางทางรถไฟพอดี แต่แล้วแฮนคอก ซุปเปอร์ฮีโร่ขี้เมา ก็มายกรถของเขาพลิกขึ้นทันเวลา ทำให้เรย์รอดชีวิตได้ แต่ในขณะที่เขายืนมั่นอยู่ รถไฟจึงชนตัวเขาอย่างแรง !รถไฟจึงยับยู่ยี่ และขบวนหลังๆก็กระแทกเข้ามาจนยาวเหยียด และต้องตกรางรถไฟไป ประชาชนบริเวณจึงด่าว่า ดูถูก จอห์น แฮนคอก หญิงเจ้าของรถที่ถูกรถของเรย์ทับ ก็จะฟ้องเขา ทุกคนตำหนิเขา แต่เรย์ก็บอกกับทุกคนว่า "อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่า ที่แฮนคอกทำนั้น ได้ช่วยชีวิตเขา เขามีภรรยา และมีลูกน้อยที่ต้องกลับไปดูแล น่าจะเข้าใจเขาบ้างเรย์ จึงขอให้แฮนคอก ช่วยบินไปส่งเขาที่บ้าน เขาก็ใจดี หิ้วรถไปทั้งคันจนถึงบ้าน และเขากับภรรยา ก็ได้เลี้ยงสปาเก็ตตี้เนื้อสับอย่างเอร็ดอร่อย ทำให้แฮนคอกได้สัมผัสถึงความรักอันบริสุทธิ์ในครอบครัว เป็นครั้งแรก ที่เขารู้สึกได้ถึงความห่วงใยที่มีต่อเขาเรย์แนะนำเขาให้ลองปรับเปลี่ยนบทบาท โดยการรักษาภาพลักษณ์ที่ดี โดยมีขั้นตอนเป็นบทเรียนที่น่าคิดสำหรับคนไทยเรา ดังนี้ครับ
1.เริ่มต้นที่เผชิญหน้ากับความจริง เขาไม่ได้ใช้อำนาจพิเศษที่เขามี กดขี่บังคับให้คนศรัทธาเขา ศรัทธาของคน ซื้อไม่ได้ด้วยอำนาจเงิน กดขี่บังคับไม่ได้ด้วยอำนาจรัฐ หลอกลวงไม่ได้ด้วยความเท็จ และบิดเบือนไม่ได้ด้วยการสร้างค่านิยมใหม่ที่มีมาตรฐานจริยธรรมตกต่ำลงโดยให้คนเชื่อว่า "ทุกคนมีโอกาส ก็จะเลือกทางมืดเหมือนกัน โกงเหมือนกัน เบียดเบียนคนอื่นเหมือนกัน เอาเปรียบคนอื่นเหมือนกัน" เขามีอำนาจพิเศษแต่เขากลับเผชิญหน้ากับคดีต่างๆ และยอมรับความผิดด้วยความถ่อมและความโปร่งใส น่ายกย่อง
2.เข้าใจความรู้สึกคนอื่นๆ เขายอมรับว่า การเป็นฮีโร่ช่วยคนเป็นสิ่งดี แต่ก็ไม่เป็นข้ออ้างให้สร้างความเสียหาย ช่วยปราบคนร้ายเป็นเรื่องดี แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะทำอะไรตามใจ บินชนตึกเขาเสียหาย ทำทางด่วนเสียหาย ทำรถชาวบ้านเสียหาย
การบริหารบ้านเมือง คือการ**รับมอบความไว้วางใจ ให้บริหารราชการ ให้ใช้เงินภาษีของประชาชน เพื่อประชาชนอยู่แล้**ว ไม่ว่าจะเป็นใครเข้ามาบริหาร การกล้าเอาเงินของชาติไปแจกง่ายๆ ก็ไม่ได้เป็นบุญคุณกัน เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ใช้เงินเพื่อประโยชน์ของประชาชน แต่**บางรัฐบาลอาจให้ความสำคัญกับการใช้เพื่อช่วยให้ประชาชนผลิตได้ดีขึ้น แข่งขันได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการแก้จนได้จริงในระยะยาว** บางรัฐบาลอาจเน้นประชานิยม แจกง่ายๆแก้ปัญหาเฉพาะหน้าง่ายๆ แต่ประชาชนก็ยังยากจน รอคอยความช่วยเหลือจากนักการเมืองต่อไป ก็คงมีส่วนช่วยประชาชนบ้าง (แต่อาจไม่ใช่เป็นการช่วยเหลือให้หายจนได้อย่างถาวร) ก็ไม่ใช่เหตุที่จะอ้างได้ว่า นักการเมืองจึง "โกง" ได้ เพราะถือเป็นค่าทำงาน การเข้าใจความรู้สึกคนทุกฝ่าย และสร้างความยอมรับโดยทั่วกัน จึงทำให้เกิดความรักความสามัคคีที่ถาวร ไม่สร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนมาปกป้องตนเอง
การทำความดี โดยรักษาตัวอยู่ในทางสว่าง เคารพความจริง ไม่โกง ไม่เบียดเบียน ไม่เอาเปรียบ ไม่สร้างค่านิยมในการ "ยอมรับการโกง" จะทำให้บ้านเมืองสงบสุข ร่มเย็น ประชาชนเป็นปึกแผ่น
3.ยอมรับโทษตามความจริง เขายอมสู้คดีอย่างถูกต้อง ไม่ใช้อำนาจพิเศษ ไม่ใช้อำนาจรัฐ ไม่ใช้อำนาจเงิน หรือ กล่องขนมใดๆ แม้อยู่ในคุก และมีโอกาสที่เขา "บิน" ออกนอกรั้ว เขาก็บินกลับเข้าไปรับโทษ เพราะเขารู้ว่า " คุณค่าแห่งสัจจธรรม ความจริง ความถูกค้อง ความยุติธรรมในบ้านเมือง" นั้น สำคัญกว่า การกลบเกลื่อนความผิดของตัวเอง บนต้นทุนของการทำมาตรฐานจริยธรรม และความยุติธรรมให้ตกต่ำลง หลังจากนั้น ประชาชนก็ยินดีให้อภัยเขา และบ้านเมืองก็สามารถรักษาความร่มเย็นเป็นสุข ความสว่าง ความถูกต้องชอบธรรมของบ้านเมืองไว้ได้
ผมยังภาวนาขอให้คนไทย** รู้รักสามัคคี ไม่ยอมรับความแตกแยก เชื่อทางสว่าง ส่งเสริมความดี ให้กำลังใจรัฐบาลในการบริหารบ้านเมืองอย่างสุจริต ** ผู้มีอำนาจทั้งปัจจุบันและอดีต เคารพกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ทำทุกอย่างให้กระจ่างด้วยหลักฐานและเหตุผล บ้านเมืองก็จะไม่เข้าสู่วิกฤต เศรษฐกิจจึงจะดีต่อไปได้ในระยะยาวครับ
มนตรี ศรไพศาล
ฝ่ายวิชาการ ชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย
(montree4life@yahoo.com)
