"หัวหิน" สถานที่พักผ่อนชายทะเลที่มีชื่อเสียงมานานของประทศไทย ที่ทุกวันนี้ก็ยังได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลายจากผู้ที่อยากมาเที่ยวพักผ่อนชายทะเลที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก เพื่อที่จะได้มาสัมผัสกับชายทะเล ที่มีลมทะเลเย็นๆ หาดทรายสวยๆ น้ำทะเลใสๆ ที่ตัดกับท้องฟ้าสีครามอันเป็นเสน่ห์ของหัวหินที่โดนใจ
และเมื่อมาเที่ยวหัวหินก็ใช่ว่าจะมาผ่อนคลายอารมณ์กับชายทะเลเท่านั้น เพราะหัวหินยังมีแหล่งเที่ยวแหล่งกินอีกมากมาย อย่างถ้ามาหัวหินก็ต้องไม่พลาดการกินอาหารทะเลสดๆ หรือไปเดินหาของกินที่ตลาดโต้รุ่งยามค่ำคืนที่มากมายไปด้วยของกินของขายสารพัน
แต่หากว่าใครกำลังคิดจะมาเที่ยวหัวหินในเร็ววันนี้ "ผู้จัดการตระเวนกิน" ขอแนะนำว่าตอนนี้หัวหินมีอีกหนึ่งแหล่งกินที่มีความน่าสนใจ ไม่ใช่ตลาดแต่อย่างใด แต่ถือว่าเป็นศูนย์รวมร้านอาหารน้องใหม่ที่มีชื่อว่า "The 55th Corner" (เดอะฟิฟตี้ฟิฟ คอร์เนอร์) ที่ตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนนซอยหัวหิน 55 ที่ซึ่งภายในตึกแห่งนี้คุณจะพบกับความอิ่มอร่อย และความสุขสันต์ของร้านอาหารเก๋ไก๋ถึง 3 ร้านที่มีรูปแบบอันแตกต่างกันออกไป ที่สามารถตอบสนองความสุขของนักกินทุกคนได้อย่างหลากหลาย
สำหรับร้านอาหารร้านแรกที่ตั้งอยู่ด้านล่างร้านที่จะทำให้ทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่พิสมัยการดื่มกาแฟต้องเดินตามกลิ่นหอมๆ ของกาแฟ เข้าไปในร้าน ก็คือร้านกาแฟที่มีชื่อเก๋ๆ ว่า "Ca phe sua da" (คา เฟ เซอ ด๊า) ซึ่งเป็นร้านกาแฟที่น่ารัก ตกแต่งบรรยากาศแบบเวียดนามร่วมสมัย มีโต๊ะเก้าอี้ โซฟานุ่มๆ หลายมุม ให้บรรยากาศที่อบอุ่นชวนนั่ง พร้อมชวนให้สั่งกาแฟมาดื่มกัน
กาแฟของที่ร้านนี้นั้น ทางร้านได้นำเข้ากาแฟสูตรต้นตำรับมาจากเวียดนาม ที่มีความโดดเด่นของเมล็ดกาแฟที่หอมกรุ่นกลิ่น French Vanilla ที่ผ่านการคั่วแบบพิเศษ อีกทั้งกาแฟของที่นี่จะเสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องชงกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ของเวียดนามแท้ๆ สำหรับกาแฟที่ขอบอกว่าต้องสั่งมาลองดื่มก็มี คา เฟ เซอ ด๊า ( 75 บาท) ก็คือกาแฟใส่นมข้นหวาน (มากเป็นพิเศษ) และมาพร้อมกับแก้วน้ำแข็ง และคุกกี้ 1 ชิ้น การกินกาแฟแก้วนี้ก็ต้องทำการชงกาแฟผ่านเครื่องชงกาแฟตามแบบฉบับของชาวเวียดนาม จากนั้นจึงค่อยเทกาแฟใส่แก้วน้ำแข็ง และก็ดื่มได้เลย จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ ของกาแฟ และรสชาติกาแฟที่เข้มข้น หวานนม ดื่มแล้วเย็นชุ่มคอชื่นใจ แต่ถ้าใครชอบดื่มกาแฟร้อนๆ ก็ต้องสั่ง คา เฟ น๊อง (60 บาท ) ก็เหมือนกับคา เฟ เซอ ด๊า แต่ว่าไม่มีน้ำแข็งมาให้ และใส่นมข้นหวานน้อยกว่า จะได้รสชาติของกาแฟที่เข้มข้นมากๆ
และใช่ว่าจะมีแต่กาแฟเท่านั้น เพราะที่คา เฟ เซอ ด๊า ยังมีอาหารเวียดนารสดี สไตล์ต้นตำรับเวียดนามแท้ๆให้บริการความอิ่มกันอีก เมนูที่ชวนกินก็มีมากมาย อาทิ เฝอเนื้อ (75 บาท) ร้อนๆ ที่เนื้อเคี้ยวนุ่ม หอมหวานน้ำซุปกลมกล่อม ปอเปี๊ยะสด (70 บาท) ที่เคี้ยวเต็มปากไปด้วยผัก และก็มีเมนูพิเศษอย่าง ไข่พะโล้ทองคำ (75 บาท) ที่หากินได้ที่นี่แห่งเดียวเท่านั้น ยังไม่หมดเพราะยังมีเบเกอรี่โฮมเมดอีกสารพัด ที่ให้ทุกคนได้อิ่มหนำอย่างเต็มที่
แต่ถ้าใครยังไม่อิ่มอยากจะหาของหวานกินล้างปาก ขอบอกว่าเดินถัดมาจากร้านคา เฟ เซอ ด๊า มาสักนิด ก็จะพบกับร้าน "Red Mango" (เรด แมงโก้) เป็นร้านไอศกรีมแฟรนไชส์นำเข้าจากเกาหลี สำหรับไอศกรีมเรด แมงโก้ นี้ต้องบอกว่ามีความไม่ธรรมดา เพราะว่าตัวไอศกรีมเป็นโยเกิร์ตสูตรไร้ไขมัน ที่กินมากก็ไม่อ้วนนะจะบอกให้
แถมยังมีท็อบปิ้งผลไม้สดนานาชนิดให้เลือกใส่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น มะม่วง สตรอเบอร์รี่ กีวี ลำไย ลิ้นจี่ กล้วย สัปปะรด ฯลฯ ซึ่งเราสามารถเลือกกินไอศกรีมนี้ได้ถึง 2 แบบ คือแบบแรกเป็นไอศกรีมโยเกิร์ตสูตรไร้ไขมัน อย่างเดียวมีไซด์ (SS 49 บาท, S 89 บาท, M 139 บาท, L 189 บาท) ถ้าใส่ท็อปปิ้งเลือกได้ตามใจชอบ 1 อย่างเพิ่มอีก 10 บาท 3 อย่าง 20 บาท 5 อย่าง 30 บาท หรือจะเลือกกินแบบ ไอศกรีมโยเกิร์ตเกล็ดหิมะ (S 109 บาท, M 159 บาท, L 189 บาท ทุกอย่าง+ท็อปปิ้ง 4 อย่าง) จะมีน้ำแข็งเป็นเกล็ดหิมะใส่มาพร้อมกับไอศกรีมโยเกิร์ตที่หวานเย็นอมรสเปรี้ยวโยเกิร์ตนิดๆ และมีเกล็ดน้ำแข็งให้เคี้ยวเพิ่มความเย็น กรุบกรอบอยู่ในปาก และก็ยังมี น้ำผลไม้ปั่นพร้อมไอศกรีมโยเกิร์ต (แก้วละ 89 บาท) หลากรสผลไม้ อาทิ กีวี มะม่วง กล้วย ลิ้นจี่ สับปะรด มะนาว ให้ได้เลือกกินกันได้แบบไม่ต้องกลัวอ้วนเลย
และเมื่อเดินถัดจากร้านเรด แมงโก้ มาทางด้านหลังร้านก็จะพบกับมุมแกลอรี่เล็กๆ ที่จัดแสดงภาพวาดของศิลปินชาวเวียดนามสวยๆ ให้ได้ชมกัน ซึ่งในอนาคตจะมีภาพของศิลปินไทยมาจัดแสดงด้วย และถ้าใครเป็นนักกินที่ชื่นชอบร้านอาหารแบบกิน ดื่ม ฟังเพลงและมีนักดนตรีมาเล่นเพลงให้ฟังแล้วล่ะก็ เพียงแค่เดินขึ้นไปที่ชั้น2 ของ“The 55th Corner” ก็จะได้พบกับ “Stonehead Tavern” (Pub & Restaurant) ที่ตกแต่งสไตล์ไอริชผับย้อนยุค 60's,70's สุดเท่ห์ ด้านในเน้นใช้สีโทนสีแดง-ดำ ผนังกำแพงรอบด้านเต็มไปด้วยรูปภาพที่ชวนดูมากมาย มีที่นั่งให้เลือกหลายมุม มีมุมโต๊ะเคาเตอร์บาร์ที่บริการเครื่องดื่มแบบครบครัน มีโซฟาสีน้ำตาลนุ่มๆ ให้เลือกนั่ง อีกทั้งมีมุมโต๊ะพูลเอาใจคนชอบเล่นพูลด้วย ส่วนเรื่องดนตรีที่จะมาคอยขับกล่อม ที่นี่จะมีวงดนตรีนักร้องเสียงดีจากฟิลิปปินส์มาขับกล่อมบทเพลงเพราะๆ ให้เคลิ้มเคลิ้ม ไปพร้อมกับการกินดื่มและลิ้มรสอาหารสไตล์ตะวันตกและอิตาเลียน ที่มีให้เลือกอิ่มแบบสุขสันต์
"The 55th Corner" แห่งนี้จึงถือได้ว่าเป็นศูนย์รวมแหล่งกิน-ดื่ม ที่หากใครกำลังจะเดินทางมาเที่ยวที่หัวหิน ก็ลองแวะมาสัมผัสกับ 3 ร้านเก๋นี้กันได้ แล้วจะรู้ว่ามาหัวหินไม่ใช่ได้แค่เล่นน้ำทะเล แต่จะได้ความอิ่มหนำสำราญท้องกลับบ้านไปพร้อมๆ กัน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
"The 55th Corner" (เดอะฟิฟตี้ฟิฟ คอร์เนอร์) ตั้งอยู่ที่ 41,41/1-2 ถนน เพชรเกษม อ. หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภายในมีร้านอาหาร "Ca phe sua da" เปิดบริการ 7.00- 22.00 น. ศุกร์-เสาร์ ถึง 23.00 น. "Red Mango" เปิดบริการ 10.00-22.00น. ศุกร์-เสาร์ ถึง 23.00 น. และ "Stonehead Tavern" เปิดบริการทุกวัน 18.00 -01.00น. โทร. 0-3251-2320, 0-3252-1319,
คลิก!! ดูแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "The 55th Corner"