“Ko Si Rae” (โค ซิ แร) ร้านอาหารเกาหลีร้านหนึ่งในย่านทองหล่อ บริหารดูแลโดย “คิม” (Seung Kook Kim) และ “เบ๊ค” (Ji Yeon Baek) สองสามีภรรยาชาวเกาหลีที่เห็นโอกาสในการเปิดร้านร้านอาหารเกาหลีในเมืองไทย โดยเฉพาะซอยทองหล่อ ซึ่งเป็นซอยที่มีชาวเกาหลีและญี่ปุ่นอาศัยอยู่มาก
เบ๊คเล่าว่า เมื่อกว่า 4 ปีที่แล้ว พ่อของสามีเธอได้เข้ามาอยู่ในเมืองไทยและทำธุรกิจร้านอาหารเกาหลีอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ทำให้ลูกๆทั้ง3 รวมถึงสามีของเธอเลือกที่จะเดินตามรอยของพ่อด้วยการเปิดร้านอาหารเกาหลีเช่นกัน โดยพี่ชายทั้ง 2 คนของสามีเธอเปิดร้านอยู่ที่สุขุมวิทพลาซ่า และสามีของเธอเลือกที่จะเปิดที่ซอยทองหล่อ ซึ่งเธอบอกว่าในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ร้านโค ซิ แร ก็จะเปิดให้บริการครบ 1 ปีเต็ม
“เราเลือกมาเปิดร้านที่นี่เพราะเห็นว่ามีคนเกาหลีและญี่ปุ่นอยู่เยอะ และที่สำคัญคนไทยจะได้เข้าถึงง่าย และเป็นที่รู้จักมากขึ้น อีกทั้งคนไทยจะได้ทานอาหารเกาหลีฉบับต้นตำรับในราคาที่ไม่แพง โดยที่คิมเป็นคนลงมือทำครัวเองทั้งหมด เพราะฉะนั้นคนไทยจะได้ทานอาหารฝีมือพ่อครัวเกาหลีแท้ๆ ซึ่งเราเปิดให้บริการตั้งแต่สิบโมงเช้าถึงสี่ทุ่ม” สาวแดนโสม เผย
ส่วนบรรยากาศของร้านโค ซิ แร เบ๊คบอกว่า นำเอาแบบบ้านจากบ้านเกิดที่เกาหลีมาเป็นรูปแบบในการตกแต่งร้าน อาทิ แบบจำลองประตูแบบเกาหลีประดับที่ฝาผนัง เพื่อให้มีกลิ่นอายที่เป็นเกาหลีแท้ๆ โทนสีของร้านเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ ตกแต่งอย่างน้อยชิ้นเพื่อให้ดูโปร่งและสบายตา
เบ๊คเสริมต่อว่า ที่ร้านสามารถจุลูกค้าได้ 21 โต๊ะ ประกอบด้วยชั้นล่างและชั้นบน ซึ่งชั้นบนนั้นเป็นห้องส่วนตัวสามารถนั่งได้ 10-12 คน โดยเฉพาะในวันศุกร์, เสาร์ และอาทิตย์ ลูกค้าจะเยอะเป็นพิเศษ มีทั้งกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน และมากันเป็นครอบครัว
“เราคัดสรรวัตถุดิบที่สดใหม่อยู่ตลอด ซึ่งมีทั้งวัตถุดิบที่ต้องนำเข้าจากเกาหลี อย่างเช่น ซีอิ๊วบางชนิด, เส้นก๋วยเตี๋ยว หรือแม้กระทั้งอุปกรณ์อย่างหม้อ, จาน, ตะเกียบ ที่หาซื้อไม่ได้ในเมืองไทย และที่เรานำเข้าแม้กระทั่งอุปกรณ์พวกนี้นั้น ก็เพราะเราต้องการให้ได้รสชาติและบรรยากาศของเกาหลีแท้ๆ อย่างหม้อหินร้อนที่ต้องใช้ใส่ข้าวยำเกาหลีหรือซันชิ บีบิมบับ ที่เวลาเสิร์ฟเมนูนี้ พนักงานจะต้องใส่ซอสโคจูจังรสชาติเฉพาะตัวลงไปบนไข่ดาวยางมะตูมที่วางบนหน้าข้าวและทำการคลุกเคล้าทุกอย่างที่ผสมมาในหม้อจนทั่ว ความร้อนของหม้อจะทำให้ไข่สุกพอดีๆเมื่อรวมกับผักต่างๆที่ผสมด้วยกันแล้ว คุณก็จะได้ทานข้าวยำเกาหลีที่ร้อนอยู่ตลอด” เบ๊ค อธิบาย
ในส่วนของเมนูนั้น ถ้าลูกค้าสั่งเป็นชุดเนื้อย่างหรือหมูย่าง ทางร้านจะเสิร์ฟชุดเครื่องเคียงของเกาหลีวันละประมาณ 8-9 เมนู อาทิ ผัดหัวไชเท้า, เต้าหู้, พริกดอง, ยำมะละกอ, กิมจิ, สลัดผลไม้, ไข่ต้ม, ลูกชิ้นผัด ซึ่งเมนูเหล่านี้ถือว่าเป็นของแถม ลูกค้าไม่ต้องเสียเงิน เมื่อทานหมดสามารถเติมได้อีกไม่อั้น
สำหรับการบริการของที่นี่ เป็นวิธีเดียวกับในประเทศเกาหลี คือ เมื่อลูกค้าสั่งชุดเนื้อย่างหรือหมูย่าง ทางร้านจะนำออกเสิร์ฟเป็นชิ้นใหญ่ๆและพนักงานจะทำการย่างให้ที่เตาบนโต๊ะของลูกค้า เมื่อเริ่มสุกจะตัดเป็นชิ้นเล็กๆให้ แต่หากลูกค้าอยากย่างเอง พนักงานก็จะยืนเป็นผู้ช่วย
แม้ร้านที่เบ๊คและสามีเพิ่งเปิดนั้นจะยังไม่ครบปีดี แต่ความคิดของเบ๊คก็อยากเห็นร้าน โค ซิ แร มีพื้นที่ให้บริการในห้างสรรพสินค้า โดยเธอบอกเหตุผลว่า
“เราอยากเห็นร้านอาหารเกาหลีที่เป็นต้นตำรับแท้ๆอยู่ในห้างบ้าง ซึ่งปัจจุบันเราไม่ค่อยเห็นมากนัก และอีกอย่างคือ ร้านของเราใช้เตาย่างที่มีระบบท่อส่งควันระบายออกไปที่ทางร้านจัดไว้ ดังนั้นเวลาลูกค้าปิ้งหรือย่างจะไม่มีควันฟุ้งให้รำคาญใจเลย”