บางบอน - องคุลีวัน เผยดีใจสุดๆ ที่สำเร็จการศึกษาบรรลุตำแหน่งเลขาฯรัฐมนตรีช่วยสาธารณสุข เชื่อคำสั่งสอนครูบาอาจารย์ตบกะบาลคนแล้วไล่หั่นนิ้วมาให้ครบ 1,000 นิ้ว จะได้รับใบปริญญาบัตรจากวิชาที่ได้เล่าเรียนมาจากสถาบันตักสุรา แถวรัชดาภิเษก
บก.บักแหลม แห่งผู้จัดกวน ละมือจากหม้อชงกาแฟโบราณ จับพวงมาลัยขับรถดิ่งจากบางบัวทอง สู่บางบอน เป็นการด่วน หลังทราบข่าวจากนักข่าวภาคสนาม (รัก)บักโป้ง ว่า โผเลขาฯรมช.ที่ออกมาล่าสุด มีรายชื่อองคุลีวันแห่งบางบอน ผู้มีนามระบือทั่วเจ็ดคุ้งถนนรัชดา จะได้เป็นเลขาฯรัฐมนตรีช่วยสาธารณสุข เพื่อจะได้ไปสัมภาษณ์แบบเอ็กคลูทีฟมาลงในผู้จัดกวน
หลังประจันหน้ากันที่โต๊ะสัมภาษณ์และทักทายกันตามธรรมเนียม โดยการตอบคำถามว่า ชื่อบุพการีขององคุลีวันนั้นมีนามว่ากระไร? บักแหลม ก็แสดงความยินดีก่อนแล้วถามความรู้สึกที่ได้นั่งตำแหน่งอันทรงเกียรติ องคุลีวัน กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้สร้างชื่อเสียงของตน เหล่าพี่น้องและบิดรมารดาให้ขจรขจายไกลเหมือนกลิ่นอุตพิด"ผมไม่นึกไม่ฝันว่าจะนั่งเก้าอี้ได้เร็ว เพราะการเล่าเรียนที่ผ่านมาเหนื่อยและหนักมากจริงๆ"
"พี่เดินทางไปเรียนไกลบ้านมาก จากบางบอนไปถึงรัชดา เพื่อเอาความรู้จากตักสุรามาประกอบสัมมาอาชีพ ตามความเข้าใจพี่ต้องเก็บหน่วยกิตตามผับทีละนิ้วๆ" องคุลีวัน กล่าวต่อว่า "น้องแหลมต้องเข้าใจไอ้การเข้าไปตามผับบาร์ตลอดเป็นคืนๆ คืนละหลายชั่วโมง เพื่อคอยตบกะบาลคน เพื่อจะตัดนิ้วมันมาร้อยเป็นสร้อยจนครบพันนิ้ว นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางคืนพี่ถึงขนาดต้องเอาพี่น้องไปช่วยเพื่อหน่วยกิตด้วย"
เมื่อบักแหลมถามว่า กรรมวิธียากมั้ย องคุลีวัน ก็ตอบโดยไม่ต้องคิดว่า "โอย...ยากเหลือแสน ก่อนอื่นพี่ต้องท่องคาถาต่อหน้าเป้าหมายว่า "รู้มั้ย กูลูกใคร?" ท่องกันหลายรอบเลยล่ะ แล้วพี่ต้องเอามือนุ่มๆ แบบผู้ดีของพี่สัมผัสกะโหลกมัน พอดังเพียะให้มันมึนๆ หลังจากนั้น พี่ก็จะเจี๋ยนนิ้วมันออกมาร้อยเป็นสร้อย พี่ต้องทำซ้ำซากทุกคืน จะเหนื่อยหรือเบื่อไม่ได้เลย เพราะมันหมายถึงผลสำเร็จของการศึกษาที่ทำให้พี่ได้มีวันนี้ วันที่พี่และครอบครัวภูมิใจยามเห็นพี่นั่งเก้าอี้เลขาฯรมช.สาธารณสุข แหล่มมั่ก...มาก" องคุลีวัน ตบท้ายด้วยความภูมิใจก่อนกระซิบถามบักแหลมว่า "แล้วตอนนี้น้องรู้แล้วใช่ไหม ว่าพี่อะ ลูกใคร"
