xs
xsm
sm
md
lg

การซื้อหุ้นคืน KBANK-QH ที่ต้องสงสัย / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในช่วงที่ภาวะตลาหุ้นซบเซาหนักขนาด ตลาดหลักทรัพย์ ฯ ประกาศนโยบาย สนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียน ดำเนินโครงการการซื้อหุ้นคืนเพื่อการบริหารทางการเงินหรือ TREASURY STOCK เพื่อกระตุ้นบรรยากาศการลงทุน แต่การซื้อหุ้นคืนของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง เริ่มถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า อาจมีเจตนาอื่นแอบแฝง

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK และ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH ตกเป็น 2 บริษัทจดทะเบียนที่ถูกตั้งคำถามถึงเบื้องหลังโครงการซื้อหุ้นคืน

วัตถุประสงค์หลักการซื้อหุ้นคืน เป็นการเพิ่มมูลค่าให้ผู้ถือหุ้น โดยเพิ่มกำไรต่อหุ้น เพิ่มอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น และเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัท ฯ และส่งสัญญาณในความเชื่อมั่นของผู้บริหารบริษัทฯ ที่มองว่าราคาหุ้นต่ำเกินกว่าปัจจัยพื้นฐาน

แต่ในมุมลบที่ถูกนักลงทุนต้งข้อสังเกตคือ การซื้อหุ้นคืน อาจเป็นอีกเครื่องมือการกระตุ้นราคาหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่หรือผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน ซึ่งถูกพูดถึงมานานแล้ว และมีบางบริษัทฯที่ประกาศซื้อหุ้นคืนแล้ว แต่ยกเลิกภายหลัง โดยไม่มีบทลงโทษใด ๆ ทั้งที่การประกาศซื้อหุ้นคืน เป็นประเด็นที่มีนัยต่อราคาหุ้น

การประกาศซื้อหุ้นคืน KBANK จำนวน 47,386,552 ล้านหุ้น ในวงเงิน 8,800 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยหุ้นละ 185.70 บาท เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 และทำให้ราคาหุ้นขยับขึ้น 3 วันติด ถูกต้งข้อสงสัยว่า มีวาระแอบแฝง เกี่ยวกับการกระตุ้นราคาหุ้นหรือไม่

เพราะการซื้อหุ้นคืน จะทำเมื่อราคาหุ้นตกต่ำ แต่ KBANK ประกาศซื้อหุ้นคืนในภาวะราคาหุ้นขาขึ้น และทำให้นักลงทุนมองไปถึงประเด็นที่ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ของ นายสารัช รัตนาวะดี เข้ามาถือหุ้น KBANK เกินกว่า 5% ของทุนจดทะเบียน

อย่างไรก็ตาม KBANK ได้ออกคำชี้แจงในทันที เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ยืนยันการซื้อหุ้นคืนเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และเพื่อประโยชน์ของนักลงทุน

แต่โครงการซื้อหุ้นคืนที่พูดนักลงทุนวิจารณ์กันสนั่นคือ การซื้อหุ้นคืนของ QH ตามมติคณะกรรมการเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 โดยประกาศซื้อหุ้นคืนจำนวน 750 ล้านหุ้น หรือสัดส่วน 7% ของทุนจดทะเบียน ในวงเงิน 1,200 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 1.60 บาท เริ่มซื้อคืนตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายนถึง 28 พฤศจิกายน

การซื้อหุ้นคืนของ QH สิ้นสุดลงแล้ว โดยซื้อหุ้นเพียง 1,664,500 หุ้นหรือเพียง 0.02% ของทุนจดทะเบียน มูลค่าเงินที่ใช้ซ้หุ้นคืน 2.11 ล้านบาทเท่านั้น

ไม่มีคำอธิบายจากฝ่ายบริหาร QH ว่า เพราะเหตุใดจึงซื้อหุ้นคืนเพียง 1 ล้านหุ้นเศษ ทั้งที่ประกาศซื้อคืน 750 ล้านหุ้น และราคาหุ้นที่ซื้อขายบนกระดาน ตลอดระยะเวลาโครงการซื้อหุ้นคืน ไม่เคยขยับสูงกว่า 1.60 บาท แต่ขยับอยู่ในช่วงต่ำกว่า 1.50 บาท โดยเคยลงไประดับต่ำกว่า 1.20 บาทอยู่พักหนึ่ง

แทบหาเหตุผลไม่ได้ว่า ทำไม QH จึงไม่ซื้อหุ้นคืน ตามจำนวนหรือวงเงินที่ประกาศไว้ ทั้งที่ตลอด 6 เดือนในโครงการซื้อคืน ราคาหุ้นบนกระดานต่ำกว่าราคาที่ซื้อคืนทุกวัน

นักลงทุนที่เข้าไปช้อนซื้อหุ้น QH หลังบริษัทฯประกาศซื้อคืน โดยเห็นว่าราคาหุ้นบนกระดานต่ำกว่าราคาที่ประกาศซื้อคืน ทุกคนเหมือนถูกสร้างภาพหลอกลวง และเจ็บตัวกันหมด เพราะบริษัท ฯ ไม่ได้ซื้อหุ้นคืนจริง

โครงการซื้อหุ้นคืนของ QH ถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงว่า เป็นการสร้างข่าวดีล่อนักลงทุนรายย่อยให้หลงเข้าไปเก็งกำไร แต่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์ ฯ เพื่อขอคำชี้แจงว่า

ทำไม QH จึงทำแบบนี้ ทำไมประกาศซื้อหุ้นคืนแล้ว แต่ไม่ยอมซื้อหุ้นจริง เพื่อตอบคำถามที่คาใจนักลงทุนในเจตนารมณ์บริษัทฯที่เข้าข่ายไม่โปร่งใสตรงไปตรงมา

การซื้อหุ้นคืนกำลังกลายเป็นเครื่องมือ ปั่นราคาหุ้น หลอกแมลงเม่าชนิดใหม่ของบริษัทจดทะเบียนหรือไม่เป็นคำถามที่นักลงทุนหาคำตอบอยู่








กำลังโหลดความคิดเห็น