ธนาคารยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ ออกคำแนะนำให้นักลงทุนจัดสรรคริปโตในพอร์ตเพียงสัดส่วนเล็กน้อย พร้อมเตือนให้ปรับสมดุลเป็นระยะ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวน ขณะที่บิทคอยน์ทะยานแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 125,000 ดอลลาร์ สะท้อนการเข้าสู่กระแสหลักของสินทรัพย์ดิจิทัล
มอร์แกน สแตนลีย์ เวลธ์ แมเนจเมนต์ (Morgan Stanley Wealth Management) แนะนำให้นักลงทุนจัดสรรเงินลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีในพอร์ตเพียง 2–4% ตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยเน้นว่าการลงทุนควรอยู่ในกรอบที่ “เหมาะสมและอนุรักษนิยม” เพื่อจำกัดความผันผวนที่อาจกระทบพอร์ตโดยรวม
คำแนะนำดังกล่าวมาจากรายงานพิเศษของ คณะกรรมการการลงทุนโลก (Global Investment Committee - GIC) ซึ่งดูแลที่ปรึกษาทางการเงินกว่า 16,000 ราย ของมอร์แกน สแตนลีย์ ที่บริหารสินทรัพย์รวมกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยชี้ว่าคริปโตเป็นสินทรัพย์ประเภท “เก็งกำไรสูงแต่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว”
GIC ระบุว่า แม้แบบจำลองการจัดสรรสินทรัพย์ของธนาคารจะไม่รวมคริปโตไว้โดยตรง แต่ที่ปรึกษาสามารถให้คำแนะนำลูกค้าในการจัดสรรบางส่วนในพอร์ตแบบหลากหลาย (multi-asset portfolios) ได้ โดยแนะนำให้ปรับสมดุลพอร์ตอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อป้องกันสัดส่วนคริปโตขยายตัวเกินกว่าที่เหมาะสมและเพิ่มความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น
นักวิเคราะห์ชี้ “คริปโตเทียบชั้นทองคำดิจิทัล” ก้าวสู่สินทรัพย์กระแสหลัก
รายงานของมอร์แกน สแตนลีย์เปรียบบิทคอยน์ว่าเป็น “ทองคำดิจิทัล” และจัดให้อยู่ในกลุ่มสินทรัพย์จริง (real assets) ที่มีศักยภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันยังสะท้อนมุมมองของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่เริ่มมองคริปโตในฐานะ “สินทรัพย์โครงสร้าง” ของพอร์ตการลงทุนยุคใหม่
ขณะที่ฮันเตอร์ ฮอร์สลีย์ (Hunter Horsley) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Bitwise กล่าวชื่นชมรายงานนี้ว่าเป็น “สัญญาณสำคัญ” ที่แสดงให้เห็นว่าคริปโตกำลังก้าวเข้าสู่ช่วงการยอมรับอย่างเป็นทางการในกระแสหลักของการลงทุน
บิทคอยน์พุ่งแตะ 125,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางภาวะอุปทานตึงตัว
คำแนะนำของมอร์แกน สแตนลีย์มีขึ้นในจังหวะที่ราคาบิทคอยน์พุ่งทำสถิติใหม่เหนือระดับ 125,000 ดอลลาร์ ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำลายสถิติเดิมที่ 124,500 ดอลลาร์เมื่อเดือนสิงหาคม ขณะที่ข้อมูลจากตลาดซื้อขายแบบรวมศูนย์ (CEXs) ระบุว่า ปริมาณบิทคอยน์คงเหลือในตลาดอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี สะท้อนภาวะอุปทานที่ตึงตัวท่ามกลางความต้องการเพิ่มสูงขึ้น
นักวิเคราะห์ชี้ว่า การจำกัดสัดส่วนการลงทุนในคริปโตให้อยู่ในกรอบแคบของมอร์แกน สแตนลีย์ เป็นการ “รับรองเชิงกลยุทธ์” ต่อสินทรัพย์ดิจิทัลในขณะเดียวกันก็ยอมรับความเสี่ยงด้านความผันผวนและสภาพคล่องที่ยังสูงอยู่ในตลาดนี้
วอลล์สตรีทเตรียมเปิดศักราชใหม่ - มอร์แกน สแตนลีย์ลุยเทรดคริปโตปี 2569
แม้รายงานของ GIC จะยังไม่บรรจุคริปโตไว้ในแบบจำลองพอร์ตการลงทุนอย่างเป็นทางการ แต่ธนาคารได้เปิดทางให้ที่ปรึกษาสามารถตอบสนองความสนใจของลูกค้า โดยเฉพาะนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ต้องการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น
นอกจากนี้ มอร์แกน สแตนลีย์ยังมีแผนเปิดให้บริการซื้อขายคริปโตสำหรับลูกค้า E-Trade ภายในต้นปี 2569 ซึ่งอาจปลดล็อกมูลค่าการซื้อขายกว่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ ในตลาดใหม่ โดยร่วมมือกับบริษัทโครงสร้างพื้นฐานคริปโต Zerohash เพื่อให้บริการด้านสภาพคล่อง การดูแลสินทรัพย์ และการชำระธุรกรรมครบวงจร ถือเป็นหนึ่งในก้าวที่ใหญ่ที่สุดของธนาคารสหรัฐฯ ในการเข้าสู่โลกสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเป็นทางการ
ยุทธศาสตร์คริปโตของสถาบันการเงินใหญ่เริ่มเปิดหน้า
แนวทางของมอร์แกน สแตนลีย์สะท้อนทิศทางใหม่ของวอลล์สตรีทที่เริ่ม “ปรับตัวเชิงโครงสร้าง” ต่อสินทรัพย์ดิจิทัล จากเดิมที่มองว่าเป็นสินทรัพย์เก็งกำไร ไปสู่การจัดวางในพอร์ตการลงทุนอย่างมีกลยุทธ์และระเบียบแบบแผน
กล่าวได้ว่า คำแนะนำของมอร์แกน สแตนลีย์เป็นการ “ปักธงความชัดเจน” ให้กับที่ปรึกษาทางการเงินทั่วโลก ในการประเมินบทบาทของคริปโตในพอร์ตการลงทุนยุคใหม่ - ยุคที่สินทรัพย์ดิจิทัลไม่ได้เป็นเพียงกระแส แต่กำลังกลายเป็น “ส่วนหนึ่งของโครงสร้างตลาดทุนโลก” อย่างเต็มตัว