ราคาน้ำมันขยับลงในวันพฤหัสบดี(18ก.ย.) กังวลแนวโน้มทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังเฟดปรับลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบปี ส่วนวอลล์สตรีททุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกรอบ ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ทองคำแกว่งตัวลง จากการขายทำกำไรของนักลงทุน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 48 เซนต์ ปิดที่ 63.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 51 เซนต์ ปิดที่ 67.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารสหรัฐฯเมื่อวันพุธ(17ก.ย.) มีมติปรับลดดอกเบี้ย 0.25% และบ่งชี้ว่าจะปรับลดดอกเบี้่ยอีกในช่วงที่เหลือของปี ตอบสนองต่อสัญญาณความอ่อนแอในตลาดงาน
ความเคลื่อนไหวปรับลดดอกเบี้ย ปกติแล้วมักกระตุ้นอุปสงค์พลังงานและผลักราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ตามพวกนักวิเคราะห์มองว่าการปรับลดดอกเบี้ยคราวนี้ มีขึ้นสืบเนื่องจากมีความชัดเจนมากขึ้นว่า เศรษฐกิจของอเมริกากำลังชะลอตัว ซึ่งมันอาจบั่้นทอนอุปสงค์น้ำมัน
ด้านราคาทองคำปิดลบเช่นกันในวันพฤหัสบดี(18ก.ย.) จากแรงขายทำกำไร หลังทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลต่อเนื่องหลายวัน ในขณะที่ตลาดประเมินท่าทีของเฟดต่อการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอนาคต โดยราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 39.50 ดอลลาร์ หรือ 1.10 % ปิดที่ 3,678.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ในส่วนของตลาดหุ้นสหรัฐฯเดินหน้าทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลในวันพฤหัสบดี(18ก.ย.) หนึ่งวันหลังเฟดปรับลดดอกเบี้ย 0.25% และได้แรงหนุนจากห้นอินเทล ผู้ผลิตชิป ที่ดีดตัวขึ้น หลังจาก เอ็นวิเดีย ตัดสินใจเพิ่มการถือครองหุ้นในบริษัทแห่งนี้
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 124.10 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 46,142.42 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 31.61 จุด (0.48 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,631.96 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 209.40 จุด (0.94 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 22,470.73 จุด
อินเทล ทำสถิติดีดตัวขึ้นวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 1987 โดยพุ่งทะยาน 22.8% หลัง เอ็นวิเดีย บอกว่าพวกเขาจะลงทุน 5,000 ล้านดอลลาร์ในบริษัทชิปสัญชาติสหรัฐฯที่กำลังมีปัญหาแห่งนี้
ขณะเดียวกันตลาดยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ที่เน้นให้ความสำคัญกับการอ่อนแอลงของตลาดงาน และบ่งชี้ว่าอาจมีการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม ณ ที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายในอนาคต
(ที่มา:รอยเตอร์)
