ราคาบิทคอยน์กำลังทดสอบระดับ 120,000 ดอลลาร์ หลังสัญญาณบวกจากการไหลเข้าของกองทุน SPOT ETF การถอนเหรียญจำนวนมากออกจากกระดานซื้อขาย และบทบาทใหม่ในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน ขณะเดียวกันตลาดยังจับตาท่าทีเฟดและแรงกดดันด้านสภาพคล่องในสหรัฐฯ ที่อาจเป็นตัวแปรสำคัญต่อทิศทางราคา
ราคาบิทคอยน์ (BTC) ยังคงเดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง โดยกำลังทดสอบแนวต้าน 120,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน ทั้งการถอนเหรียญออกจากกระดานซื้อขายกลาง (Centralized Exchanges) กระแสเงินไหลเข้าของกองทุน SPOT ETF และบทบาทที่ชัดเจนขึ้นในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง (hedge) ของสถาบันการเงินและนักลงทุนรายใหญ่
ข้อมูลจาก Glassnode ชี้ว่า เดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการถอนบิทคอยน์สุทธิออกจากกระดานกว่า 44,000 BTC ซึ่งสวนทางกับการฝากเหรียญจำนวนมากในเดือนกรกฎาคม การลดลงของอุปทานที่พร้อมขายในตลาดทันที ทำให้แรงกดดันฝั่งขายลดลง และช่วยพยุงราคาใกล้ระดับ 116,000 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม แม้ยังมีบิทคอยน์ราว 2.96 ล้านเหรียญคงค้างอยู่บนกระดานซื้อขาย แต่ความจริงแล้ว ส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกนำออกเสนอขาย เนื่องจากผู้ใช้นำไปฝากไว้เพื่อประโยชน์อื่น เช่น รับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมที่ลดลง ทำให้เหรียญที่พร้อมซื้อขายจริงในตลาดมีจำนวนน้อยกว่าที่ปรากฏในตัวเลข
อีกหนึ่งแรงหนุนสำคัญคือการสะสมจากกองทุน SPOT Bitcoin ETF ซึ่งช่วยสร้างแรงซื้อรายวันสูงกว่า 10 เท่าของจำนวนเหรียญใหม่ที่ขุดได้ ขณะที่นักลงทุนสหรัฐฯ เทกตำแหน่งอย่างมั่นใจ โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ETF บิทคอยน์ที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐฯ มียอดเงินไหลเข้าสุทธิ 2.2 พันล้านดอลลาร์ ฟื้นความเชื่อมั่นจากการที่ทองคำเคยทำผลงานดีกว่าบิตคอยน์ถึง 11% ตั้งแต่เดือนสิงหาคม
ความเชื่อมั่นยังถูกตอกย้ำด้วยการออกมาให้สัมภาษณ์ของ อีริกซ์ ทรัมป์ ลูกชายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผ่าน CNBC โดยเขายกให้บิทคอยน์คือ “สินทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค” เทียบเท่าทองคำในเวอร์ชันดิจิทัล และเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงในยามที่ภาคอสังหาริมทรัพย์เผชิญแรงกดดัน
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังต้องจับตานโยบายการเงินสหรัฐฯ หลังตลาดพันธบัตรสะท้อนโอกาสสูงถึง 96% ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 4.25% จาก 4.5% ในการประชุมวันพุธนี้ ถึงแม้ท่าทีดังกล่าวอาจไม่สร้างแรงกระเพื่อมใหญ่ต่อบิทคอยน์ แต่คำแถลงของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ จะมีน้ำหนักต่อการกำหนดทิศทางระยะถัดไป หากเงินเฟ้อยังเป็นความเสี่ยงสำคัญ เส้นทางสู่ 120,000 ดอลลาร์ก็อาจสะดุด
ในอีกด้านหนึ่ง สัญญาณความเปราะบางของระบบการเงินสหรัฐฯ แสดงให้เห็นเมื่อต้นสัปดาห์ธนาคารสหรัฐฯ กู้เงินจาก Standing Repo Facility ของเฟดสูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่ง Reuters มองว่าเป็นสัญญาณของความตึงตัวด้านสภาพคล่อง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมข้ามคืนพุ่งแตะ 4.42% สูงสุดในรอบสองเดือน
นอกนี้สถานการณ์นี้หนุนราคาทองคำทำสถิติสูงสุดใหม่ในวันอังคาร แต่ในอีกมุมหนึ่งกลับเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าสู่บิตคอยน์มากขึ้น ในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงนอกเหนือจากทองคำ ซึ่งขณะนี้กำลังได้รับแรงซื้อจาก ETF กลยุทธ์สำรองของบริษัทเอกชน และกระแสความเชื่อมั่นที่ได้รับแรงเสริมจากการยืนยันของบุคคลชั้นนำ
ดังนั้น แม้ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกและการตัดสินใจของเฟดจะยังคงเป็นปัจจัยท้าทาย แต่เส้นทางบิทคอยน์ทะลุ 120,000 ดอลลาร์ดูจะไม่ใช่เรื่องไกลเกินจริงอีกต่อไป