xs
xsm
sm
md
lg

โนมูระรุกตลาดคริปโตญี่ปุ่นเต็มสูบ “Laser Digital” จ่อขอใบอนุญาตซื้อขายสถาบัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตลาดคริปโตญี่ปุ่นโตทะลุ 120% ภายในปีเดียว ดันบิ๊กโบรก Nomura เสริมทัพผ่านบริษัทลูก Laser Digital เตรียมขอใบอนุญาตซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล รับกระแสเม็ดเงินไหลเข้าคริปโต-สเตเบิลคอยน์หนุนแรง

ตลาดคริปโตญี่ปุ่นกำลังร้อนแรงที่สุดในภูมิภาค หลังข้อมูลล่าสุดชี้ว่ามูลค่าการซื้อขายพุ่งขึ้น 120% ภายใน 12 เดือนโดยสิ้นสุดมิถุนายน 2568 โดยมีทั้งแรงหนุนจากการปฏิรูปกฎระเบียบ และการออกสเตเบิลคอยน์ผูกค่าเงินเยน ที่ช่วยเปิดทางการลงทุนอย่างมั่นใจมากขึ้น

ท่ามกลางกระแสดังกล่าว Nomura Holdings ยักษ์ใหญ่ด้านการเงินของญี่ปุ่น กำลังเดินหน้าเชิงรุกผ่านบริษัทลูก Laser Digital Holdings ที่ตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีแผนยื่นขอใบอนุญาตซื้อขายคริปโตเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าสถาบันในญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือเบื้องต้นกับ สำนักงานบริการทางการเงินญี่ปุ่น (FSA) ตามการเปิดเผยของ Jez Mohideen ซีอีโอ Laser Digital

“การยื่นขอใบอนุญาตสะท้อนความเชื่อมั่นของกลุ่มโนมูระต่อระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัลของญี่ปุ่น” Mohideen ระบุ

มูลค่าซื้อขายพุ่งเท่าตัว นักลงทุนญี่ปุ่นหันเก็งกำไรคริปโต

ข้อมูลจาก สมาคมผู้ประกอบการคริปโตญี่ปุ่น (JVCEA) เผยว่า เพียง 7 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าธุรกรรมคริปโตพุ่งขึ้นแตะ 33.7 ล้านล้านเยน (ราว 230 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) สะท้อนการยอมรับที่ขยายตัวรวดเร็วทั้งในหมู่รายย่อยและสถาบัน

แรงหนุนสำคัญมาจาก นโยบายเอื้อการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ผลักดันกฎเกณฑ์ใหม่ ขณะที่ในญี่ปุ่นเองก็เตรียมลดภาษี และออกเกณฑ์ใหม่สำหรับกองทุนที่เน้นคริปโตโดยตรง ซึ่งช่วยปลดล็อกอุปสรรคที่เคยฉุดการเติบโต

ความเคลื่อนไหวของ Nomura ยังเกิดขึ้นในจังหวะเดียวกับที่ Daiwa Securities โบรกเกอร์ใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่น เพิ่งประกาศอนุญาตให้ลูกค้าใน 181 สาขาทั่วประเทศสามารถนำบิทคอยน์และ Ether มาใช้เป็นหลักประกันกู้เงินเยนได้ ยิ่งตอกย้ำว่าคริปโตได้ก้าวเข้ามาอยู่ในระบบการเงินดั้งเดิมอย่างเต็มรูปแบบ

ปฏิรูปกฎ-ลดภาษี จุดพลุการมีส่วนร่วมในตลาด

Nomura เปิดตัว Laser Digital มาตั้งแต่ปี 2565 เพื่อรุกสู่ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลแบบครบวงจร ตั้งแต่การจัดการกองทุน การลงทุนร่วมทุน ไปจนถึงการให้บริการซื้อขาย โดยปี 2566 ได้รับใบอนุญาตคริปโตเต็มรูปแบบในดูไบ และตั้งบริษัทลูกในญี่ปุ่นทันที

อย่างไรก็ดีหากการขออนุญาตรอบใหม่ผ่าน FSA สำเร็จ Laser จะสามารถให้บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งสำหรับสถาบันการเงินดั้งเดิมและบริษัทคริปโต รวมถึงผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศญี่ปุ่นเอง

ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ว่าแรงดึงดูดสำคัญคือ การที่รัฐบาลญี่ปุ่นเดินหน้าแก้ไขกฎระเบียบและลดภาษีสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งช่วยดึงดูดทั้งนักลงทุนรุ่นใหม่และสถาบันการเงินเข้ามาเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในพอร์ต

ญี่ปุ่นแซงเกาหลี-อินเดีย-เวียดนาม ขึ้นแท่นตลาดโตเร็วสุดในภูมิภาค

ขณะที่ข้อมูล on-chain ยังยืนยันชัดว่า ญี่ปุ่นมีการเติบโตของมูลค่าการโอนคริปโตเข้าออกสูงถึง 120% ภายในปีเดียว แซงหน้าประเทศเพื่อนบ้านอย่างเกาหลีใต้ อินเดีย และเวียดนาม แรงส่งหลักคือการปฏิรูปให้โทเคนบางประเภทถูกจัดเป็น “หลักทรัพย์เพื่อการลงทุน” รวมถึงการออกใบอนุญาตผู้ให้บริการสเตเบิลคอยน์ผูกค่าเงินเยนรายแรก

อุปสรรคทางธุรกิจ-บททดสอบกำไร

ทั้งนี้แม้ Laser จะเดินหน้าเชิงรุก แต่ไม่ได้หมายความว่าทางเดินโรยด้วยกลีบกุหลาบ โดยก่อนหน้านี้ Nomura เคยรายงานผลขาดทุนจากการดำเนินธุรกิจในยุโรป โดยซีเอฟโอ ฮิโรยูกิ โมริอูชิ ยอมรับว่า ผลประกอบการ Laser ในช่วงแรก “ไม่ดีนัก” และการถึงจุดคุ้มทุนอาจใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้

อย่างไรก็ตาม การขยายตลาดญี่ปุ่นครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจจริงของ Nomura ที่จะยึดตำแหน่งผู้นำในตลาดคริปโตที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และดึงดูดสถาบันการเงินระดับโลกเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

กำกับดูแล-นวัตกรรม ต้องเดินคู่กัน

สำหรับหน่วยงานกำกับดูแล การเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่อย่าง Laser ถือเป็นโจทย์สำคัญในการ รักษาสมดุลระหว่างการสนับสนุนนวัตกรรมและการควบคุมความเสี่ยง โดยตลาดคริปโตญี่ปุ่นที่กำลังโตอย่างก้าวกระโดดนี้ กำลังถูกจับตามองจากทั่วโลกว่า ญี่ปุ่นจะสามารถสร้างสมดุลได้ดีเพียงใด ในการเป็นผู้นำตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งอนาคต