"ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ " เข้าร่วมโครงการ “JUMP+” ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เสริมสร้างการเติบโตและพลังแข่งขันในเวทีระดับประเทศและภูมิภาค ควบคู่ยกระดับธรรมาภิบาล–ธุรกิจยั่งยืน ฟากซีอีโอมั่นใจช่วยสร้างการเติบโตและเพิ่มความมั่นใจต่อนักลงทุนสถาบันและผู้ถือหุ้น พร้อมตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นผู้นำของธุรกิจโลจิสติกส์เพื่อความยั่งยืน (Sustainable Logistics)
นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (LEO) เปิดเผยว่า การเข้าร่วมโครงการ JUMP+ ภายใต้การดำเนินการของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีเป้าหมายสำคัญในการสนับสนุนบริษัทจดทะเบียนและตลาดทุนไทยให้ยกระดับการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยบริษัทฯ จะต้องมีการจัดทำแผนธุรกิจ แผนด้านธรรมาภิบาลและแผนด้าน Climate Action ที่มีการเติบโตที่ชัดเจนและวัดผลได้ภายใน 3 ปี ( 2569 – 2571 ) ซึ่งก็สอดคล้องกับช่วงเวลาที่ทาง LEO กำลังวางแผนธุรกิจ 3 ปี สำหรับช่วงเวลาปี 2569-2571 พอดี บริษัทฯ จึงเล็งเห็นประโยชน์อย่างมากที่จะใช้แนวทางของโครงการ JUMP+ มาเป็นกรอบในการวางแผนธุรกิจ 3 ปีของบริษัทฯ พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุนในเรื่องของงบประมาณและคำแนะนำปรึกษาจากบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำที่เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรของโครงการ JUMP+
โดย LEO ก็มีกลยุทธ์ที่มุ่งสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยเดินหน้ายกระดับมาตรฐานธรรมาภิบาลและพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติ โดยเฉพาะ Green & Sustainable Logistics ที่บริษัทฯ ได้พัฒนานวัตกรรมและบริการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลูกค้าลดต้นทุน ควบคู่กับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ LEO ยังมีแผนที่จะสร้าง Eco System & Platform เพื่อการขนส่งที่เป็น Sustainable Logistics และต่อยอดไปสู่ธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics มากขึ้น เพื่อสร้างความหลากหลายของแหล่งรายได้ และเพิ่มโอกาสการเติบโตใหม่ ๆ ให้กับบริษัท เพื่อให้การเข้าร่วมโครงการ JUMP+ ในครั้งนี้เกิดผลสำเร็จสูงสุด และช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในระยะยาว
“เรามั่นใจว่าการเข้าร่วมโครงการ JUMP+ จะไม่เพียงช่วยเพิ่มศักยภาพการเติบโตและการเป็นผู้นำของ Green & Sustainable Logistics และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนและผู้ถือหุ้น รวมถึงสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับ LEO ในฐานะผู้นำของธุรกิจโลจิสติกส์เพื่อความยั่งยืน (Sustainable Logistics) ” นายเกตติวิทย์ กล่าว
สำหรับโครงการ JUMP+ ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการสนับสนุนบริษัทจดทะเบียนให้ก้าวสู่มาตรฐานใหม่ทั้งในด้านการดำเนินธุรกิจ การบริหารจัดการ และการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยบริษัทที่เข้าร่วมจะได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งในเชิงงบประมาณที่ได้รับ การสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาตลาดทุน (CMDF) ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการสื่อสารกับนักลงทุนและผู้ถือหุ้น
“บริษัทฯ ต้องขอขอบพระคุณตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ได้ริเริ่มและจัดทำโครงการ JUMP+ ซึ่งเป็นโครงการที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อบริษัทจดทะเบียนอย่างแท้จริง ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ผลักดันให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เดินหน้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในระดับสากลได้อย่างมั่นคง” นายเกตติวิทย์ กล่าว