"สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์" (UAE) ออกโรงตอกหน้า The Open Network (TON) อย่างจัง ปฏิเสธข่าวลือ "Golden Visa" สำหรับนักลงทุนคริปโตฯ ที่ TON เคยโม้ไว้! ทำโทเคน TON ร่วงดิ่งเหว 6% ทันที สะท้อนภาพ "ความสับสน" และ "ความขัดแย้ง" ระหว่างโลกคริปโตฯ ที่อยากได้การยอมรับ กับ "ความระมัดระวัง" ของภาครัฐที่กลัวการถูกบิดเบือนข้อมูลซึ่งทวีความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น
เกิดเรื่องอื้อฉาวในวงการคริปโทเคอร์เรนซี เมื่อทางการของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ได้ออกแถลงการณ์ร่วมอย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อปฏิเสธรายงานอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการเสนอ "Golden Visa" หรือวีซ่าทองคำสำหรับนักลงทุนคริปโต
ความวุ่นวายนี้เริ่มต้นขึ้นหลังจาก Toncoin (TON) ซึ่งเป็นโทเคนหลักของ The Open Network (TON) ได้เปิดตัวโครงการ "Golden Visa" ที่อ้างว่านวัตกรรมนี้จะมอบโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้รับสิทธิ์พำนักระยะยาวใน UAE เพียงแค่ "สเตกคริปโตฯ" แทนที่จะต้องทำตามเกณฑ์รายได้ปกติ
ตามคำกล่าวอ้างของ TON ระบุว่า ผู้ที่เข้าร่วมโครงการโดยการ "สเตกโทเคน TON มูลค่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเวลาสามปี" และ "ชำระค่าธรรมเนียมการดำเนินการเพียงครั้งเดียว 35,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ" จะมีสิทธิ์ได้รับ Golden Visa ระยะเวลา 10 ปี
แต่ทว่า รายงานจากสำนักข่าว WAM ของ UAE ระบุว่า ทางการที่เกี่ยวข้อง อันได้แก่ สำนักงานอัตลักษณ์ สัญชาติ ศุลกากร และความมั่นคงของท่าเรือ (ICP), สำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และสินค้าโภคภัณฑ์ (SCA) และหน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์เสมือน (VARA) ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวอ้างดังกล่าวทั้งหมด โดยทั้งสามหน่วยงานยังได้ออกคำเตือนให้ประชาชนระมัดระวังการเข้าร่วมข้อเสนอที่ไม่ได้รับการยืนยันซึ่งแพร่กระจายทางออนไลน์
SCA ได้เน้นย้ำว่าการลงทุนในคริปโตฯ นั้นอยู่ภายใต้กรอบการกำกับดูแลที่จัดตั้งขึ้น และ "ไม่เกี่ยวข้อง" กับคุณสมบัติในการได้รับ Golden Visa โดยหน่วยงานได้เรียกร้องให้นักลงทุนได้รับข้อมูลอย่างเป็นทางการจากแหล่งที่น่าเชื่อถือเพื่อหลีกเลี่ยงข้อมูลที่ผิดพลาด ในทำนองเดียวกัน VARA ของดูไบก็ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างดังกล่าว และเรียกร้องให้นักลงทุนคริปโตฯ ติดต่อกับบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตและอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเต็มที่เท่านั้น โดยย้ำชัดว่าบริษัท TON ไม่ได้มีใบอนุญาตหรืออยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ VARA แต่อย่างใด
คุณสมบัติ Golden Visa ของ UAE ไม่รวมนักลงทุนคริปโตฯ
ตามข้อมูลจาก ICP, Golden Visa จะออกให้ตามกรอบและเกณฑ์ที่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการเท่านั้น ซึ่งไม่รวมถึงนักลงทุนคริปโตฯ โดยหมวดหมู่ที่มีสิทธิ์ ได้แก่ นักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์, ผู้ประกอบการ, ผู้มีพรสวรรค์พิเศษ, นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญ, นักเรียนและบัณฑิตระดับสูง, ผู้บุกเบิกด้านมนุษยธรรม และบุคลากรแนวหน้า Golden Visa ช่วยให้ชาวต่างชาติสามารถอยู่อาศัย ทำงาน และศึกษาใน UAE ได้เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 5-10 ปี นอกจากนี้ นักลงทุนสามารถได้รับสิทธิ์พำนักระยะยาวหากมีเงินลงทุนสาธารณะมูลค่า 2 ล้านเดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ประมาณ 544,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) หรือมากกว่า
CZ ตั้งคำถามต่อข้อกล่าวอ้างของ TON ก่อนทางการปฏิเสธ
หลังจากที่ TON เผยแพร่ข่าวเรื่องวีซ่าระยะยาวของ UAE อดีต CEO ของ Binance อย่าง ฉางเผิงจ้าว หรือ “CZ” ได้โพสต์บน X (Twitter เดิม) ในลักษณะตั้งคำถามว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นเรื่องจริงหรือไม่ "ผมยังไม่สามารถยืนยันกับแหล่งข่าวที่เป็นทางการได้เลย" เขากล่าว ก่อนที่ทางการจะออกแถลงการณ์ร่วม "โปรแกรมนี้จะยอดเยี่ยมมากหากเป็นเรื่องจริง" CZ กล่าว "ถ้าเป็นเรื่องจริง เราก็จะพยายามทำให้มันเกิดขึ้นกับ BNB (เหรียญของ Binance) ด้วยเช่นกัน"
นอกจากนี้ Pavel Durov CEO ของ Telegram ยังได้รีโพสต์ประกาศของ TON จากอินฟลูเอนเซอร์คริปโตฯ บน X ซึ่งเพิ่มความคาดเดาให้กับเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อ CZ ให้ความเห็นเกี่ยวกับการรีทวีตของ Durov เขากล่าวว่า "ผมชอบที่จะเชื่อ แต่ต้องตรวจสอบ" และ "ผมคาดว่าเรื่องแบบนี้จะต้องมีการร่วมมือและประกาศจากรัฐบาล"
TON ดิ่ง 6% สังเวยทางการ UAE ปฏิเสธข่าวลือ
โทเคน TON ของ The Open Network ได้พุ่งขึ้น 10% ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาหลังจากการประกาศดังกล่าว แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ร่วงลง 6% ในวันจันทร์ หลังจากทางการ UAE ปฏิเสธข้อกล่าวอ้าง TON โดยเหรียญ TON พุ่งขึ้นไปที่ 3.05 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นการฟื้นตัวจากภาวะตลาดตกต่ำล่าสุด แต่การพุ่งขึ้นก็อยู่ได้ไม่นานนัก ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap โทเคนดังกล่าวได้ดิ่งลงภายในไม่กี่ชั่วโมงถึง 6% และซื้อขายอยู่ที่ 2.83 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่รายงานข่าวนี้
อย่างไรก็ตามการที่ทางการ UAE ออกมาปฏิเสธ The Open Network (TON) เรื่อง "Golden Visa แลกคริปโตฯ" นั้นไม่ใช่แค่เรื่องของความผิดพลาดในการสื่อสาร แต่มันคือ "สัญญาณอันตราย" ที่ชี้ให้เห็นถึง "ความเสี่ยง" ของการใช้ "ข่าวลือ" และ "การตลาดที่เกินจริง" ในวงการคริปโตเคอร์เรนซี การที่โปรเจกต์ขนาดใหญ่กล้าออกข่าวที่ไม่ได้ผ่านการรับรองจากภาครัฐโดยตรง แสดงให้เห็นถึง "ช่องว่าง" ระหว่างโลกคริปโตฯ ที่ยังคงมองหา "ทางออก" และ "การยอมรับ" จากรัฐบาล กับ "ความระมัดระวัง" ของประเทศต่างๆ ที่ยังคงมองคริปโตฯ ด้วยสายตาที่ "ไม่ไว้วางใจ"
การปฏิเสธของ UAE ที่มีหน่วยงานรัฐถึงสามหน่วยออกมาร่วมกันยืนยัน ถือเป็นการ "หักหน้า" ครั้งใหญ่ที่กระทบต่อ "ความน่าเชื่อถือ" ของ TON อย่างรุนแรง และแน่นอนว่าราคาโทเคน TON ที่ดิ่งเหวลง 6% ก็เป็น "บทเรียนราคาแพง" ที่สะท้อนถึง "ความเปราะบาง" ของตลาดคริปโตฯ ที่ยังคงอ่อนไหวต่อ "ข่าวสาร" ที่ไร้การตรวจสอบ
ขณะที่บทบาทของ "CZ" อดีตบิ๊กบอส Binance ที่ออกมาตั้งข้อสังเกตตั้งแต่แรก ก็ยิ่งตอกย้ำว่า "การตรวจสอบความจริง" เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในโลกคริปโตฯ ที่เต็มไปด้วย "การปั่นกระแส" และ "ข้อมูลเท็จ" เหตุการณ์นี้จึงเป็น "อุทาหรณ์" ชิ้นสำคัญให้นักลงทุนทุกคนต้อง "ตาสว่าง" และ "หูผึ่ง" ตรวจสอบทุกข่าวสารอย่างถี่ถ้วน ก่อนที่จะทุ่มเงินลงไป เพราะในโลกของคริปโตฯ ที่ไร้การควบคุมอย่างสมบูรณ์แบบ "ความน่าเชื่อถือ" คือสิ่งเดียวที่จะช่วยปกป้องเงินในกระเป๋าของคุณได้!