xs
xsm
sm
md
lg

บิทคอยน์เสี่ยงดิ่งเหว! หลุด $101,000 แบงก์ยักษ์หนุน ETF แต่ตลาดผวา “ศึกชนช้าง” ทรัมป์-มัสก์?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวช็อกวงการคริปโตฯ! บิทคอยน์เสี่ยงร่วงหลุด $101,500 ดิ่งกว่า 3% ใน 24 ชั่วโมง สวนทางข่าว JPMorgan ใจป้ำรับ ETF คริปโตฯ ค้ำประกันเงินกู้! ตลาดกำลังสับสน? หรือนี่คือแรงกระเพื่อมจากสงครามน้ำลายระหว่าง "ทรัมป์" และ "อีลอน มัสก์" ที่ลามเผาทุกสินทรัพย์เสี่ยง? หรือสัญญาณสถาบันถอยทัพจาก ETF บิทคอยน์กำลังเริ่มขึ้น?

อนาคตของบิทคอยน์ กำลังเป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิด หลังราคาเจ้าตลาดคริปโตฯ ดิ่งลงอย่างรุนแรงสู่ระดับ $101,500 ลดลงถึง 3.16% ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สวนทางกระแสข่าวดีที่ธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง JPMorgan Chase ประกาศพร้อมรับกองทุน ETF สกุลเงินดิจิทัลมาใช้เป็นหลักประกันเงินกู้ได้ ทำให้เกิดคำถามตัวใหญ่ในหมู่นักลงทุนว่า "อะไรกันแน่ที่กำลังฉุดรั้งราคาบิทคอยน์ลงมา?"

การทรุดตัวของราคาในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ แต่มาจากปัจจัยหลายประการที่กำลังรุมเร้าตลาดคริปโตฯ และสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก


1. สถาบันเริ่มเมิน ETF บิทคอยน์?

แม้จะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ แต่กองทุน Bitcoin ETF ที่ได้รับความสนใจจากสถาบันการเงินทั่วโลกนั้น กำลังเผชิญกับการหดตัวรายไตรมาสเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดตัวในสหรัฐฯ โดยเฉพาะ BlackRock's iShares Bitcoin Trust (IBIT) ที่เคยเป็นความหวังใหม่ กลับรายงานยอดเงินไหลออกมหาศาลถึง 430 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า "ฮันนีมูน" ของสถาบันกับ Bitcoin ETF อาจกำลังจะจบลง หรือเป็นเพียงการปรับพอร์ตระยะสั้นที่ทำให้ตลาดผันผวน?

2. สงครามน้ำลาย "ทรัมป์ vs. มัสก์" ลามเผาทุกสินทรัพย์เสี่ยง

ความตึงเครียดทางการเมืองและเศรษฐกิจจากความขัดแย้งสาธารณะระหว่างอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และซีอีโอ Tesla อย่างอีลอน มัสก์ ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ส่งผลให้เกิดคลื่นความรู้สึก "หนีความเสี่ยง" (risk-off sentiment) ที่แผ่ลามเข้าสู่ตลาดคริปโตฯ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ นี่คือบทพิสูจน์ว่า แม้แต่ตลาดคริปโตฯ ก็ยังคงได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจมหภาคและข่าวสารระดับโลก

3. "ดัชนีความกลัวและความโลภ" ดิ่งเหว นักลงทุนเทขายหนัก

จากความผันผวนของตลาดที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ดัชนีความกลัวและความโลภ (Fear and Greed Index) ของบิทคอยน์ดิ่งลงอย่างรวดเร็วจาก 62 ไปอยู่ที่ 57 ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นในหมู่นักลงทุน และเป็นปัจจัยหนึ่งที่นำไปสู่การเทขายสินทรัพย์คริปโตฯ มูลค่ากว่า 831 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านกลไกการชำระบัญชี (liquidation) ทั่วตลาด

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความตื่นตระหนกนี้ นักวิเคราะห์บางรายกลับมองเห็นโอกาสทองในระยะยาว พวกเขาเชื่อว่าการดิ่งลงของราคาในครั้งนี้ อาจเปิดโอกาสให้เข้าซื้อสะสม โดยอ้างอิงจากรูปแบบทางประวัติศาสตร์ของทองคำที่มักจะปรับตัวขึ้นในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งบิทคอยน์อาจเดินตามรอยได้เช่นกัน หากภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับความท้าทาย

ทั้งนี้โดยสรุปแล้วตลาดบิทคอยน์กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่ต้องเผชิญหน้ากับทั้งข่าวดีจากสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ที่เริ่มยอมรับบทบาทของคริปโตฯ และปัจจัยลบจากความกังวลเศรษฐกิจโลกและแรงเทขาย การที่ราคาจะฟื้นตัวหรือดิ่งลงไปอีกนั้น ขึ้นอยู่กับว่าปัจจัยใดจะมีน้ำหนักมากกว่ากันในสายตาของนักลงทุนที่กำลังจับตามองทุกความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด