ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ "กีกี้" ก็มา!! ทำสภาฯมึนตึ้บ "วิโรจน์" ปะทะองครักษ์นายกฯ ให้ร้องก่อนพูดประท้วง
เล่นเอา “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำหน้าที่ประธานในการที่ประชุมศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในช่วงระหว่างที่ “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน มีการพูดถึงคำว่า “กีกี้” มึนตึบว่ามันแปลว่าอะไร ?
อย่าว่าแต่ท่านประธานฯ สส.ทั้งสองซีกก็งงๆ ตกลงคำกีกี้ มันคำด่า หรือคำชม !
ก่อนที่ ทั่นประธานฯ จะถามคำว่า “กีกี้” แปลว่าอะไรดังกล่าว ที่มาเรื่องของเรื่องเกิดจากการปะทะคารมของ “วิโรจน์” ผู้อภิปรายฯ กับบรรดาสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่ทำหน้าที่ “องครักษ์” พิทักษ์แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ฟังว่าตอนหนึ่งของการปะทะ “นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร” สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ได้ขอประท้วง ทำให้ “วิโรจน์”ตอบโต้ด้วยการให้ “นุชนาถ” ร้องกีกี้ก่อนได้มั้ย อีกฝ่ายก็ว่า วิโรจน์ “ไม่รู้สี่ไม่รู้แปด” หลังจากนั้นก็ตอบโต้กันไป-มาโดย “วิโรจน์” ก็ยังขอให้ฝ่ายประท้วงร้องกีกี้ สักสองสามครั้ง ได้หรือไม่
จาก “นุชนาถ” มาถึง “ไชยวัฒนา ติณรัตน์” สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ประท้วง “วิโรจน์” ซึ่ง วิโรจน์ ก็ขอให้ ไชยวัฒนา ร้องกีกี้ สัก 2-3 ครั้งได้ไหม..เหมือนเดิม
คราวนี้ก็มาถึงจุดที่ปวดเฮดไปต่อไม่ไหว “ทั่นประธาน” จึงถามวิโรจน์ ว่า “กี้ กี้ แปลว่าไร ท่านวิโรจน์ ลองแปลสิว่าแปลว่าอะไร บางทีก็เป็นคำที่ไม่ควรใช้ในสภา
“วิโรจน์” ตอบว่าเป็นคำปกติ ไม่ได้คำหยาบคาย แต่หากจะให้เล่าเดี๋ยวเล่าแล้วจะยาว
ประธานจึงกล่าวอย่างจนด้วยเกล้า จบปัญหากันไป ถ้าไม่มีความหมายก็ไม่ควรใช้ ขอให้อภิปรายต่อเพื่อไม่ให้เสียเวลา
เป็นอันว่า “กีกี้” มาโผล่ในสภาฯ พร้อมกับความฉงนระคนสงสัย หลายคนจึงไปควานหาความหมายนัยยะที่ “วิโรจน์”ขอให้ สส.เพื่อไทยร้อง “กีกี้” นั้นแท้จริงก็มีความหมายถึงเสียงร้องของเหล่าบริวาร หรือ ลูกสมุน ลูกกะจ๊อก ก็แล้วจะเรียกในซีรีส์“ไอ้มดแดง” ซูเปอร์ฮีโร่ของญี่ปุ่น ที่เข้ามาฉายในทีวีของไทย ยุค 80-90
ใครที่เกิดทัน ซึ่งไม่แน่ใจนายกฯเจน Y อย่าง “อุ๊งอิ๊งค์” จะทันหรือไม่ ภาพที่เด็กๆ สมัยนั้น ซึ่งเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่วัยกลางคนวันนี้จำได้ก็คือ ก่อนที่ไอ้มดแดงจะได้ต่อสู้กับสัตว์ประหลาดตัวพ่อ จะต้องมีบริวารกรูกันออกมาต่อสู้ก่อน และ เสียงร้องวายร้ายที่เป็นเอกลักษณ์ก็คือ “กีกี้” นั่นเอง
หลังจาก “กีกี้” ป่วนสภาฯไปได้สักพัก “วิโรจน์” ก็ได้โพสต์ข้อความอธิบายความหมายของ “กีกี้” ผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า “หลายคนไม่ได้ประท้วง แค่ดาหน้าออกมาพลีชีพ เหมือนลูกสมุนของขบวนการช็อคเกอร์ ที่เวลาออกมาจะร้อง กี้... กี้... เพื่อให้มดแดงซ้อมเล่น คั่นเวลาก่อนไรเดอร์คิกปีศาจตัวบอส อธิบายไปเขาก็ไม่ฟังหรอกครับ เพราะเขามาพลีชีพ ตอบไปสั้นๆ แค่ #กีกี้ ก็พอครับ จะได้ไม่เสียเวลา”
แหม..ศึกอภิปรายฯครั้งนี้ เขาช่างบันเทิงกันจริงๆ !
++ “ลุงป้อม” บอก “หลานอิ๊งค์” ประเทศชาติไม่ใช่เวทีให้มือสมัครเล่น มาซ้อมมือ !!
ผ่านไปแล้ว สำหรับภารกิจครั้งแรกของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในการนำลูกทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร
จากที่ซ้อมไว้ กะว่าจะอภิปรายประมาณ 6 นาที แต่พอลงสนามจริงกลับยืนระยะได้ถึง 10 นาที แถมไม่มี พูดจาวกวน ซ้ำซาก ส่อเสียด!
เนื้อหาในการอภิปราย ถ้าเป็นแฟนที่ยืนข้างรัฐบาลก็อาจจะบอกว่า “ลุงป้อม” ได้แต่กล่าวหาลอยๆ ข้อมูลไร้น้ำหนัก ไม่มีหลักฐานเด็ด ไม่มีหมัดน็อก ไม่สมราคาคุย
หากแต่ฝ่ายกองเชียร์ลุง ก็บอกว่า ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานมัดแน่น แต่สิ่งที่ “ลุงป้อม” อภิปรายไปนั้นคือเรื่องที่เกิดขึ้นจริง และเป็นปัญหาที่ “นายกฯอิ๊งค์” บกพร่องจริงๆ ใครๆ ก็รับรู้ได้ อย่างนี้แล้วยังไม่รู้สึกไปถึงใต้หนังกำพร้ากันบ้างหรือ
“ลุงป้อม” เริ่มด้วยเรื่อง นโยบายทางเศรษฐกิจที่ผิดพลาด ล้มเหลว ประชาชน เดือดร้อน ปัญหาปากท้องไม่ได้รับการแก้ไข พนักงานถูกเลิกจ้าง บริษัทปิดกิจการจำนวนมาก ประชาชนหนี้ท่วมหัว ทั้งในระบบและนอกระบบ ราคาข้าวและพืชผลการเกษตรตกต่ำ ตลาดหุ้นดิ่งเหวในรอบ 3 ปี
หากนายกฯ เคยบริหารธุรกิจมาก่อน คงมีประสบการณ์ที่จะมาช่วยประเทศชาติได้ แต่ปรากฏว่า นอกจากไม่มีอะไรดีขึ้นแล้ว ยังถอยหลังไปอีก วัดได้จาก “จีดีพี” ของไทยรั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน
ส่วนเรื่องการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะขาดความรู้ ความเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ เห็นชัดๆ ก็คือการตัดงบฯนับแสนล้านบาท ที่ควรอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แต่กลับเอาไปใช้แจก “เงินหมื่น” ซึ่งก็เห็นกันแล้วว่า ไม่ได้ผล ไม่ได้กระตุ้นอะไรเลย
ถ้านายกฯมีความรู้ ความสามารถ ได้ศึกษาข้อมูลเศรษฐกิจอย่างรอบคอบ วันนี้คนไทยคงไม่ทุกข์ยาก ลำบากขนาดนี้
ส่วนการดำเนินนโยบายต่างประเทศ และความมั่นคง “ลุงป้อม” ยกเรื่อง MOU 44 ขึ้นมา เพื่อบอกว่า “นายกฯอิ๊งค์”กำลังพาประเทศชาติไปสู่ความเสี่ยง เรื่องการสูญเสียดินแดน และทรัพยากรทางทะเลมูลค่ามหาศาล
ยังมีเรื่องที่น่าเศร้าใจ คือ ลูกเรือประมงไทย ที่ถูกพม่าจับไป นายกฯรับปากว่าจะพากลับประเทศไทย นี่ผ่านมา 4 เดือนแล้ว ก็ยังไม่ได้กลับ
“ลุงป้อม” บอกว่า ในฐานะที่ทำงานด้านความมั่นคงมาตลอดทั้งชีวิต ตั้งแต่ ผบ.ทบ. รองนายกฯ ด้านความมั่นคง และ รมว.กลาโหม รู้ดีว่างานด้านนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจในหลายมิติ
นี่นายกฯนอกจากไม่รู้แล้วยัง ไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้เลย
อย่าลืมนะว่า ประเทศชาติไม่ใช่เวทีให้มือสมัครเล่น มาซ้อมมือ!!
ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน การออกกฎหมาย ก็เป็นไปในทางเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ทุจริตเชิงนโยบาย เรื่องกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นี่ชัดเจน
แถมผลที่ตามมาก็อันตรายมาก เพราะจะทำให้เกิดธุรกิจสีเทาแผ่ขยาย ซึ่งทุกวันนี้การปล่อยปละละเลยในเรื่องต่างๆ ก็ส่งผลให้ไทยกลายเป็นแหล่งฟอกเงินของธุรกิจสีเทา และปัญหาอาชญากรรมมากมายอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ตัว “นายกอิ๊งค์”เองก็ถือว่า ขาดคุณสมบัติ ในเรื่องไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ หลักฐานที่เห็นกันชัดๆ คือเรื่องการถือหุ้น บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด และยังปล่อยปละละเลยให้ “บุคคลในครอบครัว”กระทำการให้เกิดผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตนเองอีก
“ลุงป้อม” ออกตัวในตอนท้ายว่า ทั้งหมดที่กล่าวมา ไม่ได้กล่าวด้วยอคติ แต่ข้อมูลหลักฐานต่างๆ สส.ของพรรคพลังประชารัฐ จะมานำเสนอในเบื้องลึกต่อไป
“ผมเป็นคนพูดไม่เก่ง อาจไม่กระฉับกระเฉงเท่าตอนเป็นหนุ่มๆ ผมจึงใช้ “ใจบันดาลแรง” บริหารประเทศ ให้สำเร็จมาได้หลายอย่าง ส่วนนายกฯ เป็นคนรุ่นหนุ่มสาว ที่ยังมีแรง ผมเชื่อว่า ถ้าท่านบริหารประเทศด้วยสติปัญญา มีความอ่อนน้อม แต่หนักแน่นในหลักการ ยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติมากกว่าครอบครัว พวกพ้อง ผมเชื่อว่า ประชาชนจะชื่นชม และยอมรับท่านเองครับ ขอให้โชคดีครับ ”
เมื่อ “ลุงป้อม”อภิปรายจบ “นายกฯอิ๊งค์” ก็ลุกขึ้นชี้แจงทันที เป็นคำตอบแรกในศึกอภิปรายครั้งนี้ว่า... “สิ่งที่ท่านสมาชิกอาวุโสพูดเมื่อสักครู่นี้ ไม่เป็นความจริงค่ะ” จากนั้นก็กระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
หลังการอภิปรายของ “ลุงป้อม” กับการตอบของ “นายกฯอิงค์” ก็เกิดกระแสในโซเชียลฯ แบ่งเป็นสองฝ่าย
ฝ่ายหนึ่งก็ว่า เส้นทางการเมืองของ “ลุงป้อม” คงจบแค่นี้ ... ที่อภิปราย ไม่มีเห็นหมัดเด็ด หมัดน็อกเลย ...ถึงกับยอมรับว่า ใช้ใจบันดาลแรงเข้าสู้แล้ว จะไปต่อไหวหรือ ... ลุงโดนเอาคืน เพราะก่อนหน้านี้ ตอนที่ลุงเป็นรองนายกฯ ถูกฝ่ายค้านอภิปราย ลุงก็ตอบแค่ว่า เรื่องที่อภิปรายนั้น ไม่เป็นความจริง...
ส่วนฝ่ายสนับสนุนก็ว่า... ลุงเอาเรื่องจริงที่จี้ใจดำมาพูด จนนายกฯ ไปไม่เป็น ได้แต่บอกว่า ไม่จริ๊ง ไม่จริง! ... นี่ขนาดอภิปรายครั้งแรกนะ ใครว่าไม่มีทีเด็ด ... คุมเนื้อหาดี ตีได้แรง ...อภิปรายได้อย่างมีวุฒิภาวะ สมกับเป็นผู้ใหญ่...เห็นไหม ตอนลุงพูดจบ มีแต่คนปรบมือ ... หากให้คะแนนของทั้งคู่ “ลุงป้อม” เอาไป 8 เต็ม 10 ส่วน “นายกฯอิ๊งค์” ตอบแบบไร้วุฒิภาวะ คิดจะปล่อยมุก ก็เป็นตลกฝืด เอาไป 1 คะแนนก็พอ