xs
xsm
sm
md
lg

อาจารย์จุฬาฯ ชี้ "กัมพูชาเล่นใหญ่" ปั่นวาทกรรมสงครามไทย เบี่ยงประเด็นร้อนฟอกเงินระดับโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ตั้งข้อสังเกตถึงความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชา ว่าเป็น "ละครโรงใหญ่" ที่กัมพูชาปั่นกระแสสงครามเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องอื้อฉาวฟอกเงินระดับโลกกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ ที่เชื่อมโยงกับหลานชายของฮุนเซน ศ.ดร.ไชยันต์ทิ้งท้ายว่า คนไทย-กัมพูชาอาจตกอยู่ภายใต้ "ละครสองตระกูลผู้ปกครอง" พร้อมเสนอทางออก "เอาสองนายกฯ พ่อลูกออกไปจากรัฐบาล" เพื่อยุติวงจรอุบาทว์นี้

วันนี้ (16 มิ.ย.) ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Chaiyan Chaiyaporn" โดยตั้งข้อสังเกตถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชาว่าเป็นการแสดง "ละครโรงใหญ่ภายใต้ผู้นำสองประเทศ" เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาภายในที่ร้ายแรง

ศ.ดร.ไชยันต์ระบุว่า การที่กัมพูชาสร้างวาทกรรมปลุกระดมจะทำสงครามกับไทย โดยมีการปลุกปั่นในโซเชียลมีเดียว่า "ประเทศไทยได้ยึดดินแดนกัมพูชา-เตรียมพร้อมสำหรับสงคราม!" แท้จริงแล้วคือการเบี่ยงเบนความสนใจจาก "เรื่องอื้อฉาวการฟอกเงินทั่วโลก" ซึ่งเป็นปัญหาที่แท้จริง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องดินแดนหรือความภาคภูมิใจตามแผนที่ที่มีข้อพิพาทแต่อย่างใด

ศ.ดร.ไชยันต์ชี้ว่า ความจริงคือ สหรัฐฯ เพิ่งขึ้นบัญชีดำ Huione Group ซึ่งเป็นบริษัทที่เชื่อมโยงกับ ฮุน โต (Hun To) หลานชายของสมเด็จฮุนเซน โดยระบุว่าเป็นเครือข่ายการฟอกเงินระดับโลกที่มีมูลค่ามากกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นกว่า 1.4 แสนล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน) บริษัทแห่งนี้ให้บริการกลุ่มหลอกลวงออนไลน์ เครือข่ายการพนันที่ผิดกฎหมาย และแม้กระทั่งแฮกเกอร์เกาหลีเหนือ

อาจารย์จุฬาฯ ตั้งคำถามว่า "แล้วกัมพูชาทำอะไร?" แทนที่จะเริ่มต้นการสอบสวนหรือปราบปรามการทุจริตและทำให้ประเทศโปร่งใส กลับเลือกที่จะ "ปลุกปั่นลัทธิชาตินิยมจอมปลอม" เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของสาธารณชนจากเรื่องอื้อฉาวที่แท้จริง เพราะพวกเขารู้ดีว่าประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤตหลายด้าน ดังนี้

การเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในภาวะซบเซา

จำนวนนักท่องเที่ยวในปีนี้ลดลงอย่างมาก

กลุ่มทุนจีนเทาเข้าควบคุมเมืองต่างๆ ในเมืองหลวง สร้างอิทธิพลและปัญหาอาชญากรรม
สิ่งเดียวที่ดูเหมือนจะยังคง "สร้างรายได้" ให้กับกัมพูชาคือ "โลกมืดของมิจฉาชีพ" วงจรอุบาทว์ที่เชื่อมโยงไทย-กัมพูชา

ศ.ดร.ไชยันต์ยังชี้ให้เห็นความคล้ายคลึงระหว่างปัญหาของทั้งสองประเทศว่า ปัญหา 3 ข้อข้างต้นของกัมพูชาดูไม่ต่างจากของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "จีนเทาและทุจริตต่างๆ ในกัมพูชาเชื่อมโยงกับจีนเทาและทุจริตในไทย" ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทั้งสองประเทศต่างเต็มไปด้วย "พวกมิจฉาชีพ" เพียงแต่ประเทศไทยยังไม่มีกาสิโนที่ถูกกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แตกต่างคือ "ชะตากรรมของทักษิณกำลังใกล้เข้ามาทุกทีๆ" ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคดีความที่เกี่ยวข้องกับชั้น 14 (ป.ป.ช.-ศาลรัฐธรรมนูญ) หรือข้อกล่าวหาเรื่องการครอบงำพรรค (กกต.-ศาลรัฐธรรมนูญ)

ศ.ดร.ไชยันต์สรุปว่า คนไทยและคนกัมพูชาอาจกำลังตกอยู่ภายใต้ "ละครโรงใหญ่ของสองตระกูลที่ปกครองและมีอิทธิพลอยู่ในประเทศขณะนี้" และตั้งคำถามสำคัญว่า "เราควรทำอย่างไร?" ระหว่างทางสองแพร่ง

ไม่สู้เรื่องดินแดน ผู้นำกัมพูชาจะนำไป "ตีกิน" กับคนในประเทศว่าได้ดินแดนคืนมา

สู้ ก็จะกลายเป็นการถูกเบี่ยงเบนจากปัญหาที่แท้จริงภายในประเทศ

คำตอบของ ศ.ดร.ไชยันต์คือ "เอาสองนายกฯ พ่อลูกออกไปจากรัฐบาล" เพื่อยุติวงจรอุบาทว์ที่ทั้งสองประเทศกำลังเผชิญหน้าอยู่
กำลังโหลดความคิดเห็น