สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ออกคำเตือนนักลงทุน ให้ศึกษาข้อมูลบริษัทจดทะเบียน 4 แห่ง ซึ่งมีธุรกรรมอันต้องสงสัยในความไม่โปร่งใส สร้างความเสียหายต่อผู้ถือหุ้น และสั่งให้ฝ่ายบริหารบริษัทฯชี้แจงข้อมูลตามที่ตลาดหลักทรัพย์ซักถาม
บริษัทจดทะเบียนที่ตกเป็นข่าวฉาวโฉ่ 4 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท พลัส เทค อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTECH บริษัท สบายเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY บริษัท ทีเอชอาร์ ลิฟวิ่ง โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TSR และบริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIME
บริษัทจดทะเบียนทั้ง 4 แห่ง มีพฤติกรรมอันต้องสงสัย และอาจเข้าข่ายการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินออกจากบริษัทจดทะเบียน ฉ้อโกงผู้ถือหุ้นรายย่อย ซึ่งเป็นพฤติกรรมความผิดที่ซ้ำซาก และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์แบละตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์ ฯ จัดการแก้ปัญหาแล้ว
ตลาดหลักทรัพย์ ฯ สั่งให้บริษัทจดทะเบียนหลายสิบแห่ง ชี้แจงข้อมูลในงบการเงิน ซึ่งผู้สอบบัญชีตั้งข้อสังเกต ในหลายธุรกรรมของฝ่ายบริหาร โดยเฉพาะการซื้อทรัพย์สิน หรือการนำเงินลงทุนในโครงการต่างๆ และมักจ่ายเงินค่ามัดจำสูง สุดท้ายยกเลิกการซื้อทรัพย์สินหรือโครงการลงทุน แต่เงินค่ามัดจำไม่ได้คืน ซึ่งเป็นรูปแบบการผ่องถ่ายเงินออกจากบริษัทจดทะเบียนที่นิยมใช้กัน สำหรับผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่วางแผนโกงผู้ถือหุ้นรายย่อย
หลายสิบบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีพฤติกรรมไซฟ่อน ผ่องถ่าย ยักย้ายเงินออกจากบริษัทจดทะเบียน แต่ยังไม่เคยมีผู้บริหารจดทะเบียนคนใด ถูกดำเนินคดีและรับโทษ
ทุกคนปล้นผู้ถือหุ้นรายย่อย จนบริษัทเจ๊ง เหลือแต่ซาก ทรัพย์สินถูกผ่องถ่ายออกไปหมด โดยโจรในคราบผู้บริหารจดทะเบียนลอยนวล หอบเงินก้อนโตออกไป กลายเป็นเศรษฐีเสวยสุขได้ตลอดชาติ แต่นักลงทุนรายย่อยต้องหมดเนื้อหมดตัว
โจรในคราบผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่ปฏิบัติการปล้นแล้วลอยนวล ส่วนหนึ่งเพราะอำนาจของ ก.ล.ต.มีขีดจำกัด ต้องร้องทุกข์กล่าวโทษผ่านกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ซึ่งคดีมักเงียบหาย
คณะรัฐมนตรี จึงอนุมัติออก พ.ร.ก. เพื่มอำนาจให้ ก.ล.ต.ในการสอบสวนคดีความผิดร้ายแรงในตลาดหุ้น เพิ่มอำนาจในการควบคุมบริษัทจดทะเบียน และเพิ่มอำนาจตรวจสอบการซื้อขายหุ้น โดยเฉพาะการขายหุ้น โดยไม่มีหุ้นอยู่ในมือ หรือ NAKED SHORT ซึ่งเป็นการเล่นโกง เอาเปรียบนักลงทุนมายาวนาน และทำให้ตลาดหุ้นไทยฟุบติดต่อหลายปี
NAKED SHORT เป็นสิ่งต้องห้ามของตลาดหุ้นไทยโลก ซึ่งอดีตกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์คนก่อน นายภากร ปีตธวัชชัย ยืนกรานมาตลอดว่า ไม่มีการทำ NAKED SHORT แล้ว ทั้งที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า นักลงทุนต่างชาติที่สั่งขายหุ้น มีหุ้นอยู่ในมือจริงหรือไม่
การเพิ่มอำนาจทางกฎหมายให้ ก.ล.ต. กำหนดให้คัสโตเดียนหรือผู้รับฝากหุ้นและนอมินี หรือตัวแทนผู้ถือหุ้น รายงานผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง และกำหนดโทษหากฝ่าฝืน สะท้อนให้เห็นว่า การเล่นโกง โดยต่างชาติจับเสือมือเปล่า สั่งทุบหุ้นขาย ทั้งที่ไม่มีหุ้นอยู่ในมือ อาจยังมีอยู่จริงในตลาดหุ้นไทย
พ.ร.ก.ที่ออกใหม่ ยังกำหนดให้บริษัทจดทะเบียน รายงานข้อมูลการก่อภาระผูกพันในหลักทรัพย์ในจำนวนทีมีนับสำคัญ เช่นการนำเงินลงทุน การปล่อยเงินกู้ หรือการซื้อทรัพย์สิน ซึ่วเป็นข่องทางสำคัญที่ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนใช้ผ่องถ่ายเงิน
การเพิ่มอำนาจ ก.ล.ต. ในการกำกับดูแลผู้ให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับตลาดทุน เช่นผู้สอบบัญชี สำนักงานตรวจสอบบัญชี ที่ปรึกษาทางการเงิน ผู้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินและบริษัทจัดอันดับเครดิต
การกำหนดให้ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ มีอำนาจหน้าที่ให้ครอบคลุมการดำเนินการแทนผู้ถือห้นกู้ในการบวนการฟื้นฟูกิจการและล้มละลาย รวมทั้งเพิ่มมาตรการยับยั้งการทำธุรกรรมของบริษัทจดทะเบียนที่มีเหตุอันควรว่า จะยักย้ายทรัพย์สิน
และการเพิ่มอำนาจ ก.ล.ต.ที่เป็นประเด็นสำคัญที่สุดคือ ให้ ก.ล.ต.มีพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับคดีหุ้นส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยให้พนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือพนักวานสอบสวนคดีพิเศษ หรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ มาสอบสวนคดีที่มีผลกระทบวงกว้างร่วมกับ ก.ล.ต.ได้
รวมทั้งข้าราชการ เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานอื่นใดในหน่วยงานของรัฐมาปฏิบัติที่ก.ล.ต.เป็นการชั่วคราว เพื่อประโยชนร์ในการสืบสวนและสอบสวนคดีที่มีผลกระทบในวงกว้าง
ทุกคดีความผิดในตลาดหุ้น ไม่ว่าการปั่นหุ้น การยักยอกทรัพย์ในบริษัทจดทะเบียน ล้วนเป็นคดที่สร้างความเสียหายในวงกว้างทั้งสิ้น เพราะมีผู้ถือหุ้นรายย่อยได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 พันคน หรืออาจหลายหมื่นคน ซึ่ง ก.ล.ต.ต้องใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเต็มรูปแบบที่ได้รับใหม่ เพื่อจัดการกับเหล่าอาชญากรในตลาดหุ้นอย่างจริงจัง
กวาดล้างโจรในคราบผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนให้สิ้นซาก
ก.ล.ต.มีอำนาจครบมือแล้ว ไม่มีข้ออ้างใดในการสร้างให้ตลาดหุ้นเป็นแหล่งลงทุนที่ขาวสะอาด นักลงทุนซื้อขายอย่างเท่าเทียม ปลอดจากแก๊งมิจฉาขีพที่ปล้นนักลงทุนมาตลอด 50 ปี