นักวิเคราะห์กล่าวว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์พลิกผันในความพยายามลอบสังหารนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในระหว่างการชุมนุมหาเสียง ได้ถูกกล่าวขานว่า กำลังเป็นเหตุการณ์ "หงส์ดำของการลงทุนที่แท้จริงอีกครั้ง”
น่าแปลกใจที่เหตุการณ์นี้ทำให้ตลาดสกุลเงินดิจิทัลมีกำไรโดยเฉพาะราคาบิทคอยน์ ซึ่งกลับมายืนเหนือพ 60,000 ดอลลาร์อีกครั้ง โดยปรากฏการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากเหตุการณ์หงส์ดำมักส่งผลให้ตลาดตกต่ำ
ที่น่าสังเกตคือก่อนการพุ่งขึ้นราคาบิทคอยน์มีการปรับตัวเคลื่อนไหวกว่าระดับ 60,000 ดอลลาร์ และเผชิญกับแรงกดดันต่างๆทำให้มีการปรับตัวร่วงลงอย่างรวดเร็ว ต่ำกว่า 55,000 ดอลลาร์
โดย Stockmoney Lizards นักวิเคราะห์ด้านคริปโตได้เน้นย้ำถึงความผิดปกติในการวิเคราะห์ Bitcoin นี้ โดยเขาโพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมว่า
บิทคอยน์ได้ผ่านเหตุการณ์ Black Swan หลายครั้งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละครั้งส่งผลให้ราคาลดลงอย่างมาก ในปี 2555 ขณะที่การล่มสลายของ Mt. Gox ทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลง 96% ต่อมาการแฮ็กศูนย์ซื้อขาย Bitfinex ในปี 2557 ส่งผลให้ราคาลดลง 87% ขณะที่การระบาดของ COVID-19 ในปี 2563 ส่งผลให้ราคาลดลง 84% และการล่มสลายของ FTX ในปี 2564 ทำให้ราคา Bitcoin ลดลง 78%
อย่างไรก็ตามความพยายามลอบสังหารทรัมป์ครั้งล่าสุดนั้น แตกต่างไปจากรูปแบบที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ตลาดมีการตอบสนองในเชิงบวก ขณะที่การวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าเหตุการณ์หงส์ดำครั้งนี้อาจเป็นครั้งแรกที่จะนำไปสู่กำไรในตลาดคริปโต ซึ่งถือเป็นบรรทัดฐานใหม่
“เราได้เห็นเหตุการณ์หงส์ดำที่แท้จริงแล้วกับความพยายามลอบสังหารทรัมป์นี่จะเป็นหงส์ดำครั้งแรกที่จะนำไปสู่ผลกำไรในตลาดคริปโต ขณะที่กลุ่มธุรกิจการพนันยังไม่มีการกำหนดราคาเดิมพันของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์” นักวิเคราะห์กล่าว
การเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของ Bitcoin
ความพยายามลอบสังหารทรัมป์เกิดขึ้นที่งานหาเสียงในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย แม้ว่าจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้น แต่ทรัมป์ก็ตอบโต้กลับอย่างไม่ลดละ ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า ทำให้เกิดการคาดเดาเกี่ยวกับโอกาสที่ทรัมป์จะได้รับเลือกตั้งอีกครั้งมากขึ้น
ที่น่าสังเกตคือ ทรัมป์เป็นผู้สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลอย่างเปิดเผย โดยระบุว่าเขาตั้งใจที่จะทำให้สหรัฐฯ เป็นผู้นำในด้านสกุลเงินดิจิทัล
เชื่อกันว่าจุดยืนที่สนับสนุนคริปโตของเขามีส่วนทำให้ตลาดตอบรับเชิงบวกหลังจากความพยายามลอบสังหารเขา ทรัมป์มีกำหนดเข้าร่วมงานเกี่ยวกับคริปโตหลายงาน โดยการประชุมบิทคอยน์ที่กำลังจะมีขึ้น จะเป็นหัวข้อหลักในการประชุมแม้จะมีความกังวลเหตุการณ์ลอบสังหารซ้ำ แต่ทรัมป์ก็ยืนยันว่าเขาจะยังคงพูดในงาน Bitcoin Conference ต่อไป
ทั้งนี้เมื่อราคาบิทคอยน์ทะลุระดับ 60,000 ดอลลาร์ นักลงทุนและนักวิเคราะห์ต่างจับตามองการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของตลาด ซึ่งการพุ่งขึ้นล่าสุดบ่งชี้ว่าบิทคอยน์อาจเติบโตอย่างยั่งยืน โดยได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางการเมือง และนโยบายสนับสนุนคริปโตของทรัมป์
เพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการซื้อขายบิทคตอยน์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังจากเหตุการณ์ลอบสังหาร Finbold ได้ทดสอบแนวโน้มตลาดคริปโตโดยใช้ OpenAI เวอร์ชั่นล่าสุด ChatGPT- 4o ซึ่งเครื่องมือ AI คาดการณ์ว่าในช่วงปลายปี 2567 ราคาอาจพุ่งแตะจุดสูงสุดตลอดกาลและซื้อขายในช่วง 80,000 ถึง 120,000 ดอลลาร์ หากไม่มีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์สำคัญอื่นๆ และยังคงมีความสนใจในสกุลเงินดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง
การวิเคราะห์ราคาบิทคอยน์
ณ เวลาที่เผยแพร่บทความนี้ราคาบิทคอยน์มีการซื้อขายอยู่ที่ 59,980 ดอลลาร์ โดยปรับตัวพุ่งขึ้นกว่า 2.5% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา นอกจากนี้ กำไรดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นในกราฟรายสัปดาห์ ซึ่งสินทรัพย์ดังกล่าวพุ่งขึ้นกว่า 5%
ในระหว่างนี้ ความสนใจอยู่ที่การที่บิทคอยน์ยังคงฟื้นตัวกลับมาที่แนวรับ 60,000 ดอลลาร์ได้ โดยนักวิเคราะห์บางคนแนะนำว่า การอ้างว่าสามารถรักษาแนวรับที่ 60,600 ดอลลาร์ ได้ นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาระดับกำไรดังกล่าวเอาไว้
หุ้น DJT ของโดนัลด์ ทรัมป์ พุ่ง 60% หลังถูกลอบสังหาร
หลังจากความพยายามลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ชุมนุมในรัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมการสำรวจความคิดเห็นการเลือกตั้งไม่ใช่แผนภูมิเดียวเท่านั้นที่ทำให้คะแนนนิยมของอดีตประธานาธิบดีเพิ่มขึ้น
โซเชียลมีเดียของทรัมป์ที่มีชื่อว่า “Truth Social” ซึ่งซื้อขายภายใต้สัญลักษณ์ Trump Media & Technology Group (NASDAQ: DJT) มีราคาพุ่งขึ้นถึง 64.11% ในการซื้อขาย 24 ชั่วโมง โดยเพิ่มขึ้นจาก 30.89 ดอลลาร์เป็น 50.67 ดอลลาร์ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
กำไรก่อนเปิดตลาดในกราฟซื้อขายปกติแสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเท่ากับ 1.17% หลังจากการซื้อขายปิดเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม
การวิเคราะห์ทางเทคนิคของหุ้น DJT
finboldได้วิเคราะห์ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค สำหรับหุ้น Trump Media เพื่อพิจารณาว่ากำไรเหล่านี้จะยั่งยืนหรือไม่ และหุ้น DJT จะยังคงโมเมนตัมนี้ในการซื้อขายปกติหรือไม่
ระดับแนวรับที่ใกล้เคียงที่สุดสำหรับหุ้น DJT ระบุช่วงราคาปิดล่าสุดที่ 30.89 ดอลลาร์ ในขณะเดียวกันแนวต้านอยู่ที่ 31.91 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่โมเมนตัมปัจจุบัน จากการซื้อขายก่อนเปิดตลาดสามารถทะลุผ่านได้อย่างง่ายดายเมื่อเปิดการซื้อขายในวันที่ 15 กรกฎาคม
ตัวบ่งชี้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สำหรับ 50, 100 และ 200 วันส่งสัญญาณเชิงลบสำหรับความคืบหน้าต่อไปของหุ้น DJT เนื่องจากมีการซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั้งสามรายการ ($41.71, $41.68, $31.91)
ส่วนปริมาณการขายและการซื้อ Relative Strength Index ( RSI ) แสดงระดับ 40.62 ซึ่งเคลื่อนไหวลดลงเมื่อเทียบกับ 14 วันก่อนหน้า
Trump's Truth Social is trading like a meme stock. Its market value is completely divorced from its financial reality.
• The platform's base still very small and niche — and its business is practically non-existent. https://t.co/zcV4bl8sMA pic.twitter.com/BtBHrDL7hW— Axios (@axios) March 27, 2024
อย่างไรก็ตาม หากกำไรก่อนเปิดตลาดในปัจจุบันยังคงอยู่ ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคจะเปลี่ยนแปลงเรื่องราวโดยสิ้นเชิง เนื่องจากพารามิเตอร์ส่วนใหญ่จะล้าสมัยไปแล้ว
หุ้น DJT อาจประสบชะตากรรมเดียวกับหุ้นมีม
การประเมินมูลค่าตลาดของ Truth Social ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งเป็นไปในลักษณะเดียวกับปรากฏการณ์ที่พบเห็นกับหุ้นมีม
เพื่อความสำเร็จในระยะยาว แพลตฟอร์มอาจจำเป็นต้องดึงดูดนักลงทุนสถาบันที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนและความสามารถในการทำกำไร แทนที่จะพึ่งพาความกระตือรือร้นของนักลงทุนรายย่อย
ด้านฐานผู้ใช้ของ Truth Social มีขนาดค่อนข้างเล็กและอยู่ในท้องถิ่นเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในอุตสาหกรรมโซเชียลมีเดีย
แม้ว่าจะยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลผู้ใช้ที่เฉพาะเจาะจง แต่การประมาณการชี้ให้เห็นว่ามีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ทั่วโลกประมาณ 5 ล้านคนต่อเดือน และมีผู้ใช้แอปที่ใช้งานจริงต่อเดือนประมาณ 1 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาซึ่งต่ำกว่าฐานผู้ใช้ Facebook และX (เดิมคือ Twitter) อย่างมาก ณ ช่วงเวลาที่พวกเขาเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
