เหตุเสียงปืนดังปะทุขึ้นที่เวทีหาเสียงของทรัมป์เมื่อวันเสาร์ (13 ก.ค.) ซึ่งก่อความตื่นตระหนกแก่ฝูงชน และทำให้ตัวแทนพรรครีพับลิกันลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี มีเลือดเปื้อนหน้า อาจเป็นความพยายาม "ลอบสังหาร" ท่ามกลางรายงานข่าวที่ว่าคนร้ายถูกวิสามัญแล้ว และมีผู้เข้าร่วมชมการหาเสียงเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน
รอยเตอร์อ้างแหล่งข่าว รายงานว่ามือปืนเสียชีวิตแล้ว และหน่วยสืบราชการลับกำลังสืบสวนเหตุการณ์นี้ในฐานะเป็นความพยายามลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ระหว่างที่เสียงปืนปะทุขึ้นตอนที่เพิ่งเริ่มกล่าวปราศรัย ทรัมป์เอามือกุมบริเวณหูขวา จากนั้นก็มองดูที่มือ แล้วคุกเข่าก้มหลบอยู่เบื้องหลังโพเดียม ก่อนบรรดาเจ้าหน้าที่สืบสวนราชการลับจะกรูกันเข้ามาและเอาตัวบังให้เขา จากนั้นพวกเจ้าหน้าที่ก็รุดพาตัวเขาไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ แล้วขับออกไป
หน่วยสืบราชการลับและทีมหาเสียงของอดีตประธานาธิบดีบอกว่า ทรัมป์ ปลอดภัย ตามหลังเหตุยิงกันที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย ห่างจากพิตต์สเบิร์ก ราว 50 กิโลเมตร แม้คลิปวิดีโอไลฟ์สด พบเห็นเลือดเปื้อนบริเวณหน้าอกและหู ขณะที่เสื้อสีขาวของเขาก็เปื้อนไปด้วยเลือดเช่นกัน
ยังไม่มีการระบุตัวตนมือปืนและแรงจูงใจในการก่อเหตุยังไม่ชัดเจน แต่บรรดาแกนนำของทั้งรีพับลิกันและเดโมแครต รุดออกมาประณามความรุนแรงอย่างรวดเร็ว
สำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์รายงานว่า ดูเหมือนกระสุนปืนจะพุ่งมาจากด้านนอกพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การคุ้มกันของหน่วยสืบราชการลับ ขณะที่ผู้สื่อข่าวของวอชิงตันโพสต์ โพสต์ข้อความบนพื้นที่สังคมออนไลน์ อ้างข้อมูลจากอัยการเขตบัตเลอร์ เคาน์นี ว่ามีผู้รับฟังการหาเสียงรายหนึ่งเสียชีวิต และอีกคนอาการสาหัส แต่จากข้อมูลล่าสุดของหน่วยสืบราชการลับ พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย
เหตุลอบยิงครั้งนี้เกิดขึ้นไม่ถึง 4 เดือน ก่อนถึงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน ซึ่ง ทรัมป์ จะเผชิญศึกรีแมตช์กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากเดโมแครต
"อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ขอบคุณเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและทีมตอบสนองเร็ว สำหรับปฏิบัติการที่รวดเร็วระหว่างการกระทำอันชั่วร้าย เขาปลอดภัยดี และกำลังตรวจร่างกายที่สถานพยาบาลท้องถิ่น รายละเอียดอื่นๆ จะมีตามมา" สตีเฟน เช็ง โฆษกเปิดเผยในถ้อยแถลง
บรรดาผู้นำทางการเมืองจาก 2 ฟากฝั่งรุดออกมาประณามเหตุความรุนแรงไม่นานหลังจากเกิดเหตุ ในนั้นรวมถึงประธานาธิบดีไบเดน คู่แข่งทางการเมืองของทรัมป์ "ไม่มีที่ว่างในอเมริกา สำหรับความรุนแรงลักษณะนี้มันน่าสะอิดสะเอียน มันเป็นเหตุผลว่าทำไมประเทศแห่งนี้จึงจำเป็นต้องมีความสามัคคี เราไม่อาจเป็นแบบนี้ เราไม่อาจให้อภัยกับเรื่องแบบนี้ได้" ไบเดน บอกกับพวกผู้สื่อข่าว ณ แถลงข่าวสถานการณ์ฉุกเฉิน ในเดลาแวร์
รอน มูส ผู้สนับสนุนรายหนึ่งของทรัมป์ ซึ่งอยู่ในฝูงชน เล่าถึงสถานการณ์ความวุ่นวาย ว่า "ผมได้ยินเสียงปืน 4 นัด และผมเห็นฝูงชนก้มหลบ จากนั้น ทรัมป์ ก็มุดหลบลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน ต่อมาหน่วยสืบราชการลับก็กระโดดขึ้นเวทีและปกป้องทรัมป์ทันทีที่พวกเขาทำได้"
มูส เล่าว่าเขาเห็นชายคนหนึ่งวิ่งหนี และถูกไล่ล่าด้วยพวกเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบทหาร พร้อมเผยว่าตนเองได้ยินเสียงปืนเพิ่มเติม แต่ไม่มั่นใจว่าใครเป็นคนยิง ทั้งนี้ มูส เชื่อมือซุ่มยิงได้เตรียมการอยู่บนดาดฟ้าของคลังสินค้าแห่งหนึ่งที่อยู่บริเวณด้านหลังเวที
สำนักข่าวบีบีซี สอบถามชายคนหนึ่งที่อ้างว่าเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เขาเห็นชายติดอาวุธปืนไรเฟิลปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าที่อยู่ใกล้ๆ เวที ผู้คนเริ่มชี้ไปที่ชายคันดังกล่าว พยายามแจ้งเตือนพวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แต่ไม่เป็นผล
"ผมนึกในใจว่า ทำไมถึงยังปล่อยให้ทรัมป์พูดต่อไปอีก ทำไมพวกเขาไม่ดึงทรัมป์ลงจากเวที สิ่งถัดมาที่เกิดขึ้นก็คือ มีเสียงปืน 5 นัดดังขึ้น" เขากล่าว
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)