โกลด์แมนแซคส์เล็งโครงการโทเค็นไนเซชันสำหรับลูกค้าสถาบันภายในสิ้นปีนี้

ผู้บริหารของโกลด์แมนแซคส์เผยเล็งขยายธุรกิจเพิ่มแผนกของธนาคาร ไปสู่การดูแลรักษาสกุลเงินดิจิทัลหากสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบเปลี่ยนแปลงไปเอื้ออำนวยผลประโยชน์การทำธุรกิจ

จากการเปิดเผยของนายแมทธิว แมคเดอร์มอตต์ หัวหน้าฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกของบริษัทกล่าวกับ Fortune Crypto ในการสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ระบุถึงโกลด์แมนแซคส์ซึ่งกำลังเตรียมเปิดตัวโครงการโทเค็นไนเซชั่นสามโครงการภายในสิ้นปีนี้ สำหรับการให้บริการลูกค้าสถาบันหลัก ๆ

โดยนายแมทธิว อธิบายว่า การสร้างโทเค็น ซึ่งเป็นกระบวนการแปลงสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริง (RWA) ให้เป็นโทเค็นดิจิทัล ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับธนาคาร เนื่องจากลูกค้ามีความต้องการผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น

“ไม่มีประโยชน์เลยที่จะทำมันเพียงเพราะความต้องการที่จะทำเท่านั้น แต่ผลตอบรับที่ชัดเจนคือนี่จะเป็นสิ่งที่จะเปลี่ยนธรรมชาติของวิธีการลงทุนของพวกเขาได้”

เมื่อพูดถึงโครงการต่างๆ เขากล่าวว่าโครงการเหล่านี้จะมุ่งเน้นไปที่ตลาดสำหรับสินทรัพย์โทเค็น ในการเร่งการทำธุรกรรม และกระจายสินทรัพย์ค้ำประกัน ในขณะเดียวกัน เขายังเปิดเผยอีกว่าโครงการหนึ่งจะมุ่งเป้าไปที่กลุ่มกองทุนของสหรัฐฯ ในขณะที่อีกโครงการจะมุ่งเน้นไปที่การออกตราสารหนี้ของยุโรป

นอกจากนี้การเคลื่อนไหวของ โกลด์แมนแซคส์สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของสถาบันที่เพิ่มมากขึ้นในการสร้างโทเค็นในสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวได้รับการนำไปใช้เป็นจำนวนมาก โดยเห็นได้จากกองทุน BUIDL ของ BlackRock ซึ่ง มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการเกิน 500 ล้านดอลลาร์ในเวลาไม่ถึง 6 เดือน แม้จะเผชิญกับความท้าทายในตลาดที่กว้างขึ้น

คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสกุลเงินดิจิทัล

แมทธิว แย้มว่าการมีส่วนร่วมของบริษัทในภาคส่วนคริปโต อาจขยายไปรวมถึงบริการดูแลรักษา หากแนวทางการกำกับดูแลของรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลง

“อาจมีสิ่งอื่นๆ ที่เราในฐานะบริษัท อาจสนใจโดยธรรมชาติโดยต้องได้รับการอนุมัติให้ทำ เช่น การดำเนินการ และบางทีอาจเป็นการดูแลช่วง”

เมื่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใกล้เข้ามาสกุลเงินดิจิทัลได้กลายมาเป็นประเด็นทางการเมืองที่สำคัญ ผู้สมัครชั้นนำอย่าง ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงความสนใจอย่างมากในอุตสาหกรรมนี้ แม้ว่าจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ตาม

แม้ว่าไบเดนจะเริ่มผ่อนปรนจุดยืนเดิมของรัฐบาลที่มีต่อภาคส่วนนี้ แต่ทรัมป์ก็แสดงการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งต่ออุตสาหกรรมนี้ต่อสาธารณะ พร้อมสัญญาที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเติบโต

เนื่องด้วยเหตุนี้ ผู้ถือผลประโยชน์ด้านคริปโตจำนวนมากจึงออกมาสนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์อย่างเปิดเผยพวกเขาเชื่อว่าทรัมป์จะดำเนินการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบที่จะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมเติบโตและปกป้องอุตสาหกรรมจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินที่เข้มงวด เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC)