นักเทรดคาดหาก "ทรัมป์" ชนะเลือกตั้ง อาจชี้ชะตาตลาดคริปโตในสหรัฐ

นักลงทุนตั้งประเด็นคำถามแนวคิดเรื่อง "อนาคตตลาดคริปโตในสหรัฐหากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง" ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น ในหมู่นักลงทุนสกุลเงินดิจิทัลเนื่องมาจาก "จุดยืนและนโยบายที่สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัล" ของอดีตประธานาธิบดี

Financial Times รายงานเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมโดยอ้างนักวิเคราะห์หลายคนว่า หากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีทำเนียบขาวอีกครั้งนั้น คาดว่าจะทำให้มูลค่า ของ Bitcoin พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก

ตามที่ FT รายงาน แนวคิดเรื่อง “ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของทรัมป์” กำลังได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น ในหมู่นักซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล เนื่องมาจาก “จุดยืนและนโยบายที่สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัล” ของอดีตประธานาธิบดี

ขณะที่ผลกระทบของ บิทคอยน์ ล่าสุด ซึ่งเป็นพี่ใหญ่ในสกุลเงินดิจิทัล ได้รับผลกระทบจากมูลค่าการซื้อขายที่ปรับตัวลดลง จากปริมาณเหรียญที่เพิ่มขึ้นในตลาด (การคืนเหรียญให้กับเจ้าหนี้ของ Mt.Gox ยังส่งผลต่อความผันผวนของตลาดอีกด้วย ทำให้ราคา Bitcoin ตกลงมาต่ำกว่า 54,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน) และผลตอบแทนของกลุ่มธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ที่ปรับตัวลดลง (หลังบิทคอยน์ฮาล์ฟวิ่ง) ประกอบกับท่าทีการเคลื่อนไหวด้านกฎระเบียบของทางการสหรัฐและเยอรมนี

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังคงมีความหวังว่าชัยชนะของทรัมป์จะส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจทำลายสถิติสูงสุดตลอดกาลอีกครั้งในเดือนสิงหาคม และแตะระดับ 100,000 ดอลลาร์ภายในวันเลือกตั้ง

ในขณะที่เผยแพร่บทความนี้ ตามข้อมูลของ CryptoSlate ราคา Bitcoin ฟื้นตัวเล็กน้อยและซื้อขายอยู่ที่สูงกว่า 56,000 ดอลลาร์เล็กน้อย

"ทรัมป์" กับนโยบายหนุน Bitcoin

รายงานระบุว่า ผู้นำในอุตสาหกรรมคริปโตมีความหวังว่ารัฐบาลของทรัมป์จะเข้าร่วมกับการที่พรรครีพับลิกัน ซึ่งจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในรัฐสภา ในการช่วยส่งเสริมสภาพแวดล้อมการกำกับดูแลที่เอื้ออำนวยต่อสกุลเงินดิจิทัลมากยิ่งขึ้น

ซึ่งก่อนหน้านี้ในการหาเสียง นายโดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นผู้สนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโตที่โดดเด่นเมื่อไม่นานนี้ โดยนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ถึงขั้นเปิดบ้านคฤหาสถ์หลังโตเลี้ยงต้อนรับผู้บริหารด้านการขุดคริปโต ที่มาร์อาลาโก นอกจากนี้ยังได้รับเงินบริจาคในการหาเสียงด้วยรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล ขณะที่ก่อนหน้านี้ อดีตประธานาธิบดีได้ออกแถลงการณ์เชิงบวกเกี่ยวกับคริปโตหลายครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงมีข่าวลือว่าเขากำลังพิจารณานำ Bitcoin มาเป็นสินทรัพย์สำรองของประเทศ

นักวิเคราะห์ตลาดแนะนำว่าจุดยืนที่สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลของทรัมป์ อาจช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดของ Bitcoin ได้อย่างมาก ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาพุ่งขึ้นสู่ระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน นอกจากนี้ ผู้สังเกตการณ์ตลาดบางราย ถึงกับคาดการณ์ว่าหากทรัมป์ชนะการเลือกตั้งและส่งผลเชิงบวกต่อสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะราคา Bitcoin อาจพุ่งถึง 100,000 ดอลลาร์ภายในวันเลือกตั้ง

ทั้งนี้หากทรัมป์ชนะการเลือกตั้งและได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี อาจส่งผลให้ตลาดการเงินในวงกว้างต้องพิจารณาด้วย โดยนโยบายต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายใต้การนำของทรัมป์ เช่น การควบคุมการย้ายถิ่นฐานของผู้อพยบที่เข้มงวดยิ่งขึ้น การเพิ่มภาษีศุลกากร และการลดภาษี ซึ่งคาดว่าจะทำให้การขาดดุลของสหรัฐฯ สูงขึ้น ส่งผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้น และเพิ่มผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล

เจฟฟ์ เคนดริก หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลของ Standard Chartered เน้นย้ำว่านโยบายของทรัมป์อาจนำไปสู่ ​​“การครอบงำทางการเงิน” ซึ่งการขาดดุลและหนี้สินของรัฐบาลจำนวนมากอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของเฟดในการควบคุมเงินเฟ้อ

นอกจากนี้ เจฟฟ์ เคนดริก ยังกล่าวอีกว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลดีต่อราคา Bitcoin เนื่องจากมีความสัมพันธ์กับตัวบ่งชี้สำคัญของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่าเส้นโค้งที่ชันกว่าและอัตราจุดคุ้มทุนที่สูงกว่าผลตอบแทนจริงน่าจะผลักดันให้ราคา Bitcoin สูงขึ้น ทำให้สามารถป้องกันความเสี่ยงจากความเชื่อมั่นที่ลดลงในตลาดกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้

ภูมิทัศน์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอน

ตามรายงานของ FT หากมีความชัดเจนในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้ง โอกาสที่ทรัมป์จะชนะก็จะเพิ่มขึ้น และอาจผลักดันให้ Bitcoin พุ่งสูงไปสู่ระดับใหม่

อย่างไรก็ตาม รายงานยังระบุเพิ่มเติมว่า “การซื้อขายทรัมป์” ขึ้นอยู่กับว่าไบเดนจะเป็นคู่ต่อสู้ของทรัมป์ในเดือนพฤศจิกายนหรือไม่ โดยตามค่าเฉลี่ยการของผลสำรวจจาก RealClearPolitics เปิดเผยเรตติ้งว่า ทรัมป์มีโอกาสชนะ 55% ในขณะที่ไบเดนมีโอกาสชนะ 16.5% ซึ่งสิ่งนี้บ่งชี้ว่า ตราบใดที่ไบเดนยังคงอยู่ในการแข่งขัน ผู้ที่ชื่นชอบ Bitcoin ก็มีแนวโน้มที่จะมองโลกในแง่ดี ในทางกลับกัน หากไบเดนถอนตัว และมีผู้สมัครรายใหม่เข้ามาแทนที่ซึ่งถือว่ามีความได้เปรียบเหนือทรัมป์ ซึ่งอาจส่งผลต่อโมเมนตัมของ Bitcoin ให้สั่นคลอนได้

ขณะที่ตลาดการพนันในศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐ เช่น Polymarket ได้เห็นการเดิมพันจำนวนมากว่า Biden จะถอนตัวจากการแข่งขัน โดยมีเงินมากกว่า 11 ล้านดอลลาร์ที่วางเดิมพันไว้สำหรับผลลัพธ์นี้