กล้าไหม?? ‘ไบเดน’ ท้าสมาชิกเดโมแครตลงแข่งขันเป็น ‘ตัวแทนพรรค’ ด้านแพทย์ทำเนียบขาวร่อน จม.ยัน ปธน.ไม่ได้เป็น ‘โรคพาร์คินสัน’

ไบเดนยืนยันอย่างโกรธเกรี้ยวเมื่อวันจันทร์ (8 ก.ค.) จะไม่ถอนตัวจากการลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเด็ดขาด พร้อมท้าทายสมาชิกเดโมแครตที่ไม่เห็นด้วย ให้ลงแข่งเป็นตัวแทนพรรคในการประชุมใหญ่เดือนสิงหาคมนี้ ไม่เช่นนั้นก็ควรหนุนหลังเขาเพื่อเอาชนะทรัมป์ ขณะเดียวกัน โฆษกประจำตัวยืนกราน ไบเดนไม่ได้เป็นโรคพาร์คินสัน หลังสื่อดังรายงานมีแพทย์เชี่ยวชาญทางประสาทวิทยาเข้าๆ ออกๆ ทำเนียบขาวหลายรอบในช่วงที่ผ่านมา

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน วัย 81 ปี แสดงความขุ่นเคืองดังกล่าวทั้งในจดหมายที่ส่งถึงพวกสมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคเดโมแครต และในการโทรศัพท์เข้ารายการทอล์กโชว์ทางทีวีซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่ค่อยกระทำ ณ วันเริ่มต้นของช่วงสัปดาห์ที่เห็นกันว่ามีความสำคัญยิ่งยวดสำหรับไบเดน โดยเฉพาะการที่เขาต้องเข้าร่วมการประชุมซัมมิตองค์การนาโตซึ่งจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ซึ่งเขาจะต้องถูกติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิดว่าจะแสดงอาการอิดโรยชราภาพออกมาให้เห็นเหมือนตอนที่ดีเบตทางทีวีกับ โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อคืนวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมาหรือไม่

ไบเดนยืนยันว่าจะยังคงลงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่อไป และสำทับว่า ถึงเวลาแล้วที่จะร่วมมือกันก้าวไปข้างหน้าในฐานะพรรคที่เป็นหนึ่งเดียวและเอาชนะ ทรัมป์

ประมุขทำเนียบขาวยังโทรศัพท์เข้าไปในรายการ “มอร์นิง โจ” ของเครือข่ายทีวีและเว็บไซต์เอ็มเอสเอ็นบีซี โดยบอกว่า ผิดหวังมากกับบรรดาสมาชิกชั้นนำในพรรคเดโมแครต พร้อมท้าคนที่คิดว่า เขาไม่ควรลงเลือกตั้ง ให้สมัครชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคกับตัวเขาในการประชุมใหญ่ของพรรคที่กำหนดจัดขึ้นเดือนสิงหาคมนี้

ทางด้านอดีตประธานาธิบดีทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งมีพฤติกรรมที่ผิดธรรมชาติของเขา ด้วยการเก็บเนื้อเก็บตัวไม่แสดงความเห็นใดๆ ภายหลังการดีเบตที่ใครๆ ก็มองว่าไบเดนเพลี่ยงพล้ำหนัก ได้ให้สัมภาษณ์ในวันจันทร์ (8) กับเครือข่ายโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ คาดการณ์ว่าไบเดนเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองสูง และจะไม่ยอมถอนตัว

แต่ถึงแม้ไบเดนพยายามประกาศตัวอย่างหนักแน่นมากขึ้น แรงกดดันที่แรงขึ้นเรื่อยๆ ก็ยังคงถาโถมใส่ประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ผู้นี้อยู่นั่นเอง

ทั้งนี้ ส.ส.แอดัม สมิธ สมาชิกอาวุโสของฝ่ายเดโมแครตในคณะกรรมาธิการการทหารของสภาผู้แทนราษฎร กลายเป็น ส.ส. เดโมแครตคนที่ 6 ที่เรียกร้องอย่างเปิดเผยให้ไบเดนถอนตัวจากการเลือกตั้ง โดยให้สัมภาษณ์กับโทรทัศน์ข่าวซีเอ็นเอ็นว่า เห็นได้ชัดว่า ไบเดนไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการส่งสาส์นของเดโมแครตถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

อย่างไรก็ดี สมาชิกอาวุโสคนอื่นๆ ของพรรค รวมถึง ส.ส. ฮาคีม เจฟฟรีส์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่ายังคงสนับสนุนไบเดนไม่เปลี่ยนแปลง

การตอบโต้อย่างแข็งกร้าวล่าสุดของไบเดนเป็นความพยายามฝังกลบความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเขาเอง โดยเฉพาะระหว่างที่เขาดีเบตกับทรัมป์ ซึ่งไบเดนมีอาการหลงลืมสิ่งที่จะพูดหลายครั้ง ตาลอย พูดจาไม่ปะติดปะต่อด้วยเสียงแหบแห้ง ถึงแม้เจ้าตัวแก้ต่างว่า เขาเป็นหวัด และยังอยู่ในอาการอ่อนล้าปรับตัวเข้ากับเวลาไม่ได้ เนื่องจากก่อนหน้านั้นได้เดินทางไปปฏิบัติภารกิจในยุโรป

ผลงานยอดแย่ในการดีเบตคราวนั้น จุดชนวนความกังวลว่า ไบเดนอาจป่วยด้วยอาการโรคบางอย่างที่ยังไม่มีการเปิดเผย และเมื่อวันจันทร์ทำเนียบขาวต้องออกมาแถลง ประธานาธิบดีไม่ได้กำลังรักษาตัวด้วยโรคพาร์คินสัน และก็ไม่ได้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยา นอกเหนือจากระหว่างการตรวจร่างกายประจำปี

การปฏิเสธเช่นนี้นี้มีขึ้น หลังจากสื่อทรงอิทธิพลอย่างนิวยอร์กไทมส์รายงานเมื่อวันเสาร์ (6) โดยอ้างอิงบันทึกรายการผู้เข้าไปในทำเนียบขาว ที่แสดงให้เห็นว่า นายแพทย์เควิน แคนนาร์ด นักประสาทวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านความผิดปกติในการเคลื่อนไหว จากศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์ รีด รวมทั้งเป็นผู้ร่วมเขียนรายงานการวิจัยว่าด้วยการรักษาโรคพาร์คินสันแต่เนิ่นๆ ที่ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลต์ ได้เดินทางไปทำเนียบขาวอย่างน้อย 8 ครั้งระหว่างเดือนสิงหาคมปีที่แล้วถึงเดือนมีนาคมปีนี้

คืนวันจันทร์ นายแพทย์เควิน โอคอนเนอร์ แพทย์ประจำทำเนียบขาว ได้ออกจดหมายระบุว่า ไบเดนไม่ได้พบแพทย์นักประสาทวิทยา นอกกำหนดการตรวจร่างกายประจำปีปกติ ส่วนแคนนาร์ดนั้นไปทำเนียบขาวเนื่องจากทำงานอยู่ในคลินิกประสาทวิทยาเพื่อให้การสนับสนุนทหารหลายพันคนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในทำเนียบขาว ไม่ได้ไปรักษาไบเดน

ทางด้านแครีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาว ปฏิเสธที่จะยืนยันหรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางเข้าทำเนียบขาวของแคนนาร์ด แต่บอกเพียงว่า อาจเกี่ยวข้องกับการรักษาทหารบางนายที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในทำเนียบขาว และย้ำกับผู้สื่อข่าวที่ซักไซ้เรื่องนี้ว่า ต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย

ฌอง-ปิแอร์สำทับว่า ไบเดนพบนักประสาทวิทยา 3 ครั้ง ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับการตรวจร่างกายประจำปี 3 ครั้งที่ผ่านมาของเขา

(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)