แม้มีเสียงเรียกร้องจากสมาชิกเดโมแครตมากขึ้นให้ไบเดนถอนตัวจากการลงชิงทำเนียบขาวอีกสมัย แต่ดูเหมือนประธานาธิบดีวัยดึกผู้นี้ยังไม่แม้แต่จะคิดเรื่องดังกล่าว โดยยืนยันว่า มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่จะโน้มน้าวให้เขายุติการลงแข่งขัน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน วัย 81 ปี กำลังเผชิญการลุกฮือที่ค่อยๆ ก่อตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในหมู่พวกสมาชิกเดโมแครตในรัฐสภา และพวกผู้บริจาคสนับสนุนพรรคที่ทรงอิทธิพลบางคนซึ่งกังวลมากขึ้นว่า ไบเดนมีความสามารถด้อยลงจนไม่เพียงพอเสียแล้วในการเอาชนะโดนัลด์ ทรัมป์ วัย 78 ปี จากพรรครีพับลิกัน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ วันที่ 5 พฤศจิกายน
รายการที่ไบเดนให้สัมภาษณ์ฝ่ายข่าวของเครือข่ายโทรทัศน์เอบีซีในสหรัฐฯ (เอซีบีนิวส์) ที่นำออกแพร่ภาพเมื่อวันศุกร์ (5 ก.ค.) คือรายการให้สัมภาษณ์สื่อครั้งใหญ่ครั้งแรกของไบเดน ภายหลังการดีเบตกับทรัมป์ซึ่งเขาทำได้ย่ำแย่เหลือเกิน จึงกลายเป็นรายการที่มีผู้เฝ้าชมกันมาก กระนั้น ผลซึ่งออกมาปรากฏว่ายังไม่สามารถคลายความกังวลอะไรได้
ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ ไบเดนแสดงท่าทีมองข้ามความเป็นไปได้ที่พวกผู้นำเดโมแครตอาจร่วมมือกันและพยายามบอกให้เขาถอนตัวจากการเลือกตั้ง โดยกล่าวว่า มีเพียงพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่สามารถโน้มน้าวให้เขาทำแบบนั้นได้
จากนั้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (6 ก.ค.) ไบเดนยังประชุมกับผู้นำทีมรณรงค์หาเสียงทั่วประเทศตามปกติ ทั้งนี้ ตามการเปิดเผยของทำเนียบขาว
อย่างไรก็ตาม ความกดดันจากรัฐสภามีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เนื่องจากสมาชิกรัฐสภากำลังจะกลับเข้าทำงานหลังช่วงวันหยุดยาว ขณะที่ไบเดนก็กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาสัปดาห์หนึ่งซึ่งอาจก่อให้เกิดผลพวงต่อเนื่องได้มากที่สุดสำหรับสมัยการดำรงตำแหน่งของเขาทีเดียว
ถึงแม้อนาคตของเขาจะถูกหยิบยกขึ้นอภิปรายกันโดยพวกสมาชิกเดโมแครตในรัฐสภา แต่ในสัปดาห์นี้ไบเดนยังจะเป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้นำฝ่ายตะวันตกหลายสิบราย ณ การประชุมซัมมิตขององค์การนาโตในกรุงวอชิงตันอีกด้วย โดยมีกำหนดจะจัดการประชุมแถลงข่าวซึ่งแน่นอนทีเดียวว่าจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด
วันเสาร์ (6) ที่ผ่านมา แองกี้ เครก ส.ส.จากรัฐมินเนโซตา กลายเป็นสมาชิกรัฐสภาพรรคเดโมแครตคนที่ 5 และเป็นคนแรกซึ่งอยู่ในเขตเลือกตั้งซึ่งถือเป็นสมรภูมิสำคัญ ที่เรียกร้องให้ไบเดนถอนตัว
ในโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ เครกระบุว่า จากที่ติดตามการดีเบตกับทรัมป์เมื่อปลายเดือนที่แล้ว รวมทั้งการที่ไบเดนไม่ออกมาให้คำอธิบายใดๆ กับความล้มเหลวดังกล่าว ทำให้เธอไม่เชื่อว่า ไบเดนจะสามารถหาเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพและเอาชนะทรัมป์ได้
มีรายงานว่า ส.ส.เดโมแครตบางคนกำลังออกจดหมายเวียน 2 ฉบับแยกต่างหากจากนั้น แต่เนื้อหาคือการเรียกร้องให้ไบเดนถอนตัว ถึงแม้สมาชิกรัฐสภาเดโมแครตจำนวนมากระบุว่าขอรอดูไบเดนให้สัมภาษณ์เอบีซีนิวส์ก่อน จึงจะดำเนินการอะไรต่อไป
มีรายงานว่า ส.ส.ฮาคีม เจฟฟรีส์ ผู้นำเดโมแครตในสภาล่าง นัดประชุมแบบออนไลน์กับพวก ส.ส.อาวุโสของพรรคคนอื่นๆ ในวันอาทิตย์ (7) เพื่อหารือเรื่องการลงเลือกตั้งของไบเดนและเส้นทางที่จะเดินกันต่อไปข้างหน้า
ลอยด์ ด็อกเกตต์ ส.ส.จากรัฐเทกซัส ที่กลายเป็น ส.ส.เดโมแครตคนแรกซึ่งเรียกร้องตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วให้ไบเดนยุติแคมเปญหาเสียง กล่าวกับซีเอ็นเอ็นภายหลังจากที่รับชมไบเดนให้สัมภาษณ์กับเอบีซีนิวส์ว่า ยิ่งไบเดนปล่อยเวลาผ่านไป คนใหม่ที่จะมาเอาชนะทรัมป์แทนเขาจะยิ่งทำงานยากขึ้น
ขณะที่ในส่วนวุฒิสมาชิกเดโมแครตนั้น ก็มีรายงานว่า ส.ว. มาร์ก วอร์เนอร์ ได้ติดต่อเพื่อน ส.ว. คนอื่นๆ เพื่อประชุมเกี่ยวกับการลงเลือกตั้งของไบเดน โดยอาจมีขึ้นในวันจันทร์ (8 ก.ค.)
ทางไบเดนเองนั้น มีกำหนดเริ่มลุยหาเสียงอีกครั้งในรัฐเพนซิลเวเนีย ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย และเมืองแฮร์ริสเบิร์กในวันอาทิตย์ หลังจากประกาศระหว่างหาเสียงที่เมืองเมดิสัน รัฐวิสคอนซินเมื่อวันศุกร์ว่า เขาจะสู้ต่อและจะชนะอีกครั้ง
ผลโพลของบางสำนักแสดงให้เห็นว่า ทรัมป์นำไบเดนห่างออกไปมากขึ้น และเดโมแครตกังวลว่า การที่ไบเดนไม่ยอมถอนตัวอาจสร้างความกดดันให้การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาของเดโมแครตไปด้วย
กระนั้น ไบเดนกลับมีผลงานดีที่สุดในโพลของบลูมเบิร์ก นิวส์/มอร์นิง คอนซัลต์ ที่จัดทำขึ้นในรัฐที่เป็นสมรภูมิเลือกตั้งสำคัญ ซึ่งพบว่า ทรัมป์นำไบเดนเพียง 2% คือ 47% ต่อ 45%
ด้านรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ซึ่งเวลานี้กลายเป็นแคนดิเดตเบอร์หนึ่งที่จะมาแทน หากไบเดนถอนตัว ยังคงแสดงการสนับสนุนไบเดนอย่างแข็งขัน เธอโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ แสดงการสนับสนุนไบเดนที่กำลังหาเสียงที่เมืองเมดิสัน โดยบอกว่า ไบเดนอุทิศชีวิตต่อสู้เพื่อชาวอเมริกัน และตอนนี้เธอรู้ว่าทุกคนพร้อมสู้เพื่อเขา
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)