xs
xsm
sm
md
lg

ไว้ใจได้หรือ! เผยไต้หวันเป็นกังวลคำสัญญาสหรัฐฯ หลังเห็นตัวอย่างเตะถ่วงงบช่วยเหลือยูเครน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่เดินทางเยี่ยมเยือนพวกผู้นำไต้หวันในสัปดาห์ที่แล้ว มีรายงานว่าต้องเจอกับความหวาดหวั่นและคำถามต่างๆ เกี่ยวกับคำสัญญาด้านความมั่นคงของวอชิงตัน หลังจากอเมริกามีปัญหาติดขัดในด้านเงินช่วยเหลือสนับสนุนยูเครน ที่เวลานี้ติดค้างอยู่ในสภาคองเกรส

"ไต้หวันให้ความสนใจอย่างยิ่งในยูเครน และกังวลเป็นอย่างมากว่าเราอาจเดินหนีจากยูเครน" ไมค์ กัลลาเกอร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ บอกกับผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ (23 ก.พ.) หลังนำคณะตัวแทนสภาคองเกรสเดินทางเยือนไต้หวัน

กัลลาเกอร์ ส.ส.จากรีพับลิกันในรัฐวิสคอนซิน ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรในด้านจีน บอกต่อว่า การเดินทางเยือนครั้งนี้มีเจตนาแสดงให้เห็นว่าแรงสนับสนุนของวอชิงตันที่มีต่อไต้หวันนั้น ยังคงมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยไม่คำนึงว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน

คณะตัวแทนที่ประกอบด้วยสมาชิก 5 ราย ได้พบปะกับประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน และว่าที่ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ เช่นเดียวกับผู้นำคนอื่นๆ ระหว่างการเดินทางเยือนเกาะปกครองตนเองแห่งนี้เป็นเวลา 3 วัน

การเดินทางเยือนลักษณะดังกล่าวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คือปัจจัยที่โหมกระพือความตึงเครียดระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง ซึ่งประกาศรวมชาติกับมณฑลแยกตัวแห่งนี้ และถ้าจำเป็นก็จะดำเนินการผ่านการใช้กำลัง ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศจีนส่งเสียงเรียกร้องหลายครั้งให้บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ หยุดติดต่ออย่างเป็นทางการกับไต้หวัน และหยุดส่งสัญญาณผิดใดๆ ถึงกองกำลังแบ่งแยกดินแดน

กัลลาเกอร์ กล่าวว่า ความล้มเหลวของสหรัฐฯ ในการเดินหน้าสนับสนุนยูเครนในความขัดแย้งกับรัสเซีย อาจส่งผลกระทบบ่อนทำลายเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน โดยแม้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศเดินหน้าจัดหาอาวุธแก่เคียฟ "ตราบใดที่ยูเครนต้องการ" แต่บรรดา ส.ส.อนุรักษนิยมรีพับลิกัน ไม่เห็นด้วยกับการอนุมัติคำร้อขอเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 60,000 ล้านดอลลาร์ในงบประมาณฉุกเฉิน

ทางตันในสภาคองเกรสเกิดขึ้นในขณะที่วอชิงตันหมดงบประมาณช่วยเหลือยูเครนไปตั้งแต่เดือนที่แล้ว หลังจากงบประมาณ 113,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในร่างกฎหมายใช้จ่ายต่างๆ ที่ผ่านความเห็นชอบก่อนหน้านี้ ถูกใช้จนแทบหมดเกลี้ยงแล้ว

"ผลลัพธ์ในเรื่องยูเครน ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของยูเครนและความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ แต่มันยังเป็นเรื่องของการป้องปรามในอินโดแปซิฟิก และป้องปรามข้ามช่องแคบ" กัลลาเกอร์กล่าว และอ้างว่าพันธมิตรโดยพฤตินัยหนึ่งระหว่างรัสเซีย จีน และอิหร่าน พยายามบ่อนทำลายโครงสร้างพันธมิตรนานาชาติของวอชิงตัน ดังนั้นการมอบแรงสนับสนุนแก่ยูเครนและไต้หวันอย่างมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงจึงเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง

หวัง ถิง หยู สมาชิกสภานิติบัญญัติไต้หวัน บอกกับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ว่าการทอดทิ้งยูเครนจะกลายเป็นตัวยุยงพวกเผด็จการในปักกิ่ง เกาหลีเหนือ และประเทศอื่นๆ "พวกเขาจะตระหนักว่าพวกผู้นำโลกไม่มีความเข้มแข็งเพียงพอที่จะคงความอดทนเดินหน้าให้การสนับสนุนพันธมิตร"

นอกจากนี้ กัลลาเกอร์ยังคร่ำครวญเกี่ยวกับการที่สหรัฐฯ ยังไม่สะสางอาวุธมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์ ที่อนุมัติขายแก่ไต้หวัน แต่ยังไม่สามารถส่งมอบได้เสียที เขาบอกว่าจำเป็นต้องฟื้นฟูเติมพลังแก่พื้นฐานอุตสาหกรรมกลาโหมของวอชิงตัน และชี้แนะให้จัดตั้งความเป็นหุ้นส่วนด้านการผลิตในไต้หวัน เพื่อคลี่คลายปัญหาการผลิตไม่เป็นไปตามเป้า

"ต่างจากยูเครน ไต้หวันเป็นเกาะและเป็นเรื่องยากขึ้นในการเติมเสบียงอาวุธ" กัลลาเกอร์กล่าว "เราจำเป็นต้องเรียนรู้บนเรียนว่าทำไมการป้องปรามถึงล้มเหลวในยูเครน และใช้มันกับอินโดแปซิฟิก เพื่อที่เราจะสามารถหลีกเลี่ยงการสู้รบในสงครามหนึ่งๆ"

กัลลาเดอร์ เน้นย้ำ อยากให้ประชาชนชาวไต้หวันมั่นใจว่า "อเมริกายืนหยัดเคียงข้างพวกเขา แม้กระทั่งเรากำลังเผชิญกับฤดูกาลการเมืองภายในประเทศที่เข้มข้นอย่างยิ่ง" นอกจากนี้ เขายังส่งสารถึงปักกิ่ง โดยระบุว่า "หาก สี จิ้นผิง และพรรคคอมมิวนิสต์จีน ทำการตัดสินใจที่โง่เขลาที่สุดเท่าที่เคยมีมา ในความพยายามรุกรานไต้หวัน ความพยายามดังกล่าวจะล้มเหลว"

(ที่มา : อาร์ทีนิวส์/วอลล์สตรีท เจอร์นัล)


กำลังโหลดความคิดเห็น