องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยโควิด-19 ได้คร่าชีวิตมนุษย์ไปแล้วถึง “1 ล้านคน” ในปีนี้ ทั้งที่มีตัวช่วยสารพัดทั้งยาและวัคซีนที่น่าจะสามารถยับยั้งการเสียชีวิตได้
นับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มอุบัติขึ้นเมื่อราวๆ 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา มีประชากรโลกที่ต้องเสียชีวิตจากโรคนี้แล้วมากกว่า 6.4 ล้านคน ตามข้อมูลจาก WHO
ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการ WHO กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (25 ส.ค.) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตในปี 2022 ที่ทะลุ 1 ล้านคนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสะท้อนให้เห็นว่า โลก “ยังคงไม่เรียนรู้” ที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับไวรัสชนิดนี้
“สัปดาห์นี้เราได้ก้าวผ่านหมุดหมายอันน่าเศร้า โดยมีจำนวนผู้เสียชีวิตถึง 1 ล้านคนแล้วในปีนี้” ผอ.WHO ระบุในงานแถลงข่าว
“เราคงกล่าวไม่ได้ว่า เราได้เรียนรู้แล้วที่จะอยู่ร่วมกับโควิด-19 ในเมื่อยังมีผู้เสียชีวิตถึง 1 ล้านคนในปีนี้ ทั้งๆ ที่พวกเราอยู่ร่วมกับโรคระบาดกันมาแล้ว 2 ปีครึ่ง และมีเครื่องมือทุกอย่างที่จะป้องกันการเสียชีวิตเหล่านี้ได้”
“เราขอเรียกร้องให้ทุกรัฐบาลเพิ่มความพยายามในการฉีดวัคซีนให้แก่บุคลากรด้านสาธารณสุข ผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยงสูง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากร 70% ของโลก”
ทีโดรส เคยออกมาขอร้องให้ทุกประเทศฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากร 70% ภายในสิ้นเดือน มิ.ย.ปีนี้ ทว่ายังมี 136 ประเทศที่ทำไม่สำเร็จ และในจำนวนนี้มีถึง 66 ประเทศที่ฉีดวัคซีนได้ไม่ถึง 40% ของจำนวนประชากร
WHO ระบุด้วยว่า มีอยู่ 10 ประเทศที่พลเมืองได้รับวัคซีนกันไม่ถึง 10% โดยส่วนใหญ่เป็นประเทศที่กำลังเผชิญวิกฤตด้านมนุษยธรรม
เดอร์ริค ซิม จากกลุ่มพันธมิตรวัคซีนกาวี (Gavi) ชี้ว่า ยอดตาย 1 ล้านศพในปี 2022 นั้นมากเกินกว่าจะยอมรับได้
จนถึงขณะนี้ WHO ได้รับรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกมากกว่า 593 ล้านคน โดยเป็นยอดผู้ติดเชื้อในปีนี้ถึง “ครึ่งหนึ่ง” แม้อัตราการตรวจหาเชื้อในหลายประเทศจะลดลงมากแล้วก็ตาม
74% ของผู้ป่วยโควิดทั่วโลกในขณะนี้เกิดจากการติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5
ที่มา : เอบีซีนิวส์