อีลอน มัสก์ ซีอีโอของสเปซเอ็กซ์ และเทสลา ออกมากล่าวอ้างว่ามีความพยายามลอบสังหารเขามาแล้วเช่นกัน แถมยังโดนถึง 2 รอบในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ความกล่าวอ้างของอภิมหาเศรษฐีที่พักอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ระหว่างปราศรัยหาเสียงในเพนซิลเวเนีย เมื่อวันเสาร์ (13 ก.ค.)
กระสุนปืนถูกยิงออกมาหลายนัด ระหว่างที่อดีตประธานาธิบดีกำลังปราศรัย ณ เวทีหาเสียง หนึ่งในนั้นพุ่งถากบริเวณใบหูขวาของทรัมป์ ในขณะที่ ทรัมป์ ถูกบรรดาเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับอารักขาลงจากเวที อีกด้านหนึ่งปรากฏว่าเหตุลอบสังหารครั้งนี้ได้ทำให้ผู้ร่วมฟังการหาเสียงรายหนึ่งเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ต่อมาพวกเจ้าหน้าที่รายงานว่ามือปืนซึ่งมีอายุ 20 ปี ถูกวิสามัญฆาตกรรมแล้ว หลังจากเขาก่อเหตุลอบสังหารมาจากดาดฟ้าของอาคารหลังหนึ่ง
ในข้อความที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ มัสก์เขียนว่า "ช่วงเวลาแห่งอันตรายรออยู่เบื้องหน้า" เขาระบุ พร้อมเขียนต่อว่า "บุคคล 2 ราย (คนละครั้ง) พยายามสังหารผมในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา พวกเขาถูกจับกุมพร้อมด้วยอาวุธปืน ห่างจากสำนักงานใหญ่ของเทสลาในเทกซัส ขับรถมาไม่ถึง 20 นาที"
คำกล่าวอ้างของ มัสก์ เป็นการเขียนตอบกลับผู้ใช้แพลตฟอร์มเอ็กซ์รายหนึ่ง ที่ขอให้อภิมหาเศรษฐีที่พูดจาขวานผ่าซากรายนี้ ยกระดับการปกป้องตนเอง 3 เท่า โดยบอกว่า "ถ้าพวกเขาสามารถทำกับทรัมป์ พวกเขาก็จะทำกับคุณด้วยเช่นกัน"
ก่อนหน้านี้ มัสก์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความพยายามลอบสังหารตัวแทนพรรครีพับลิกันลงสู้ศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในข้อความที่โพสต์ลงแพลตฟอร์มเอ็กซ์อีกอัน โดยเขียนว่า "ผมขอสนับสนุนรับรองประธานาธิบดีทรัมป์อย่างเต็มที่ และผมหวังว่าเขาจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว"
มหาเศรษฐีเจ้าของเทสลา มักออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเดโมแคตในปัจจุบันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในนั้นรวมถึงย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคม 2022 ที่กล่าวอ้างว่าขุมกำลังทางการเมืองแห่งนี้ "กลายเป็นพรรคแห่งความแตกแยกและความเกลียดชัง ดังนั้นผมจึงไม่สามารถสนับสนุนพวกเขาได้อีกต่อไป และผมจะโหวตให้รีพับลิกัน"
ล่าสุด ในความเห็นที่มีต่อผลงานครั้งหายนะของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในศึกประชันวิสัยทัศน์กับ โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายน มัสก์บ่งชี้ในช่วงต้นเดือนว่า "ดูเหมือนสหรัฐฯ จะไม่มีประธานาธิบดีมาสักพักแล้ว"
ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม มหาเศรษฐีรายนี้ประณามวินิจฉัยของคณะลูกขุนหนึ่งในแมนฮัตตัน ที่ตัดสินว่า ทรัมป์ มีความผิด 34 กระทง กรณีปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจเพื่อจ่ายเงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่ไม่ให้แฉความสัมพันธ์ลับ
"ถ้าอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญาในประเด็นเล็กน้อยเช่นนี้ ที่มีแรงจูงใจทางการเมือง ไม่ใช่ความยุติธรรม เมื่อนั้นทุกคนก็เสี่ยงเผชิญชะตากรรมแบบเดียวกัน" มัสก์กล่าว
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลด์ อ้างหล่งข่าวหลายราย รายงานว่า ทรัมป์ และ มัสก์ หล่อหลอมความสัมพันธ์แน่นแฟ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และเคยพูดคุยกันอย่างลับๆ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการเสนอชื่อ มัสก์ เป็นที่ปรึกษาทำเนียบขาว หากว่า ทรัมป์ คว้าชัยในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี ในเดือนพฤศจิกายน
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)