ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และโดนัลด์ ทรัมป์ 2 คู่แข่ง ในวันอาทิตย์ (14 ก.ค.) ต่างเรียกร้องให้อเมริกันชนแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกัน ตามหลังความพยายามลอบสังหารตัวแทนจากรีพับลิกัน กลายเป็นปฐมบทใหม่แห่งความมืดมิดในศึกชิงชัยเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในประเทศที่เต็มไปด้วยความแตกแยกรุนแรงอยู่ก่อนแล้ว
ไบเดน บอกว่าจะแถลงกับประชาชนทั่วประเทศจากห้องทำงานรูปไข่ทำเนียบขาว หลังจากนี้ในวันเดียวกัน ทรัมป์ คู่แข่งของเขาในศึกเลือกตั้งและประธานาธิบดีคนก่อน ถูกยิงเฉียดใบหู ณ เวทีปราศรัยหาเสียงในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย
"ความเป็นหนึ่งเดียวเป็นเป้าหมายลมๆ แล้งๆ ที่สุดสำหรับทุกคน แต่เวลานี้ไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่านี้อีกแล้ว" ไบเดน กล่าวจากทำเนียบขาว ขนาบข้างด้วยรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ
ตัวแทนพรรคเดโมแครตวัย 81 ปี เปิดเผยว่าในวันอาทิตย์ (14 ก.ค.) เขา "ได้สนทนาสั้นๆ แต่การสนทนาที่ดี" กับ ทรัมป์ คู่แข่งทางการเมือง ที่เขาตราหน้าเป็นประจำว่าเป็นภัยคุกคามประชาธิปไตย
ไบเดน ระบุว่ายังไม่ทราบเกี่ยวกับแรงจูงใจของ โทมัส แมทธิว ครูกส์ มือปืนวัย 20 ปี และเรียกร้องประชาชนอย่าสันนิษฐานกันไปต่างๆ เกี่ยวกับความเกี่ยวข้องใดๆ ของเขา
หนึ่งวันหลังจากถูกบรรดาเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับอารักขาลงจากเวทีในสภาพที่เลือดเปื้อนใบหน้า ทรัมป์ ได้เผยแพร่ถ้อยแถลงเรียกร้องคล้ายกัน "ณ เวลานี้ มันเป็นสิ่งสำคัญกว่าหนไหนๆ ที่เราต้องยืนหยัดเป็นหนึ่งเดียวกัน" อดีตประธานาธิบดีเขียนบนทรัตช์ โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขา พร้อมระบุชาวอเมริกันไม่ควรปล่อยให้ "ปีศาจได้รับชัยชนะ"
มหาเศรษฐีรายนี้กล่าวต่ออีกว่า "พระเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้นที่ขัดขวางไม่ให้สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น" พร้อมประกาศกร้าวว่าเขาจะไม่มีวันเกรงกลัวกับสิ่งนี้ ขณะที่ เมลาเนีย ภรรยาของทรัมป์ เรียกมือปืนว่าเป็น "ปีศาจ"
พลซุ่มยิงของหน่วยสืบราชการลับจัดการปลิดชีพ ครูกส์ หลังจากเขาลั่นไกหลายนัดจากดาดฟ้าของอาคารที่อยู่ใกล้เคียงเข้าใส่เวทีหาเสียง มีผู้สัญจรผ่านไปมาเสียชีวิต 1 ราย และผู้รับฟังการหาเสียงได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 คน ในเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดในความรุนแรงทางการเมืองของสหรัฐฯ ในรอบหลายทศวรรษ
ไบเดน กล่าวว่าเขาสั่งให้ทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยตามเวทีหาเสียง เช่นเดียวกับที่ประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันในสัปดาห์นี้ ที่มิลวอกี ซึ่งคาดหมายว่า ทรัมป์ จะได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการในฐานะตัวแทนพรรคลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี
นอกจากนี้ ไบเดน ยังกล่าวยกย่องเหยื่อนามว่า คอรีย์ คอมเพราตอเร ซึ่งเสียสละตนเองปกป้องครอบครัวจากกระสุน
มีคำถามมากมายเกี่ยวกับแรงจูงใจของครูกส์ ซึ่งภาพข่าวสถานีโทรทัศน์พบเห็นร่างไร้วิญญาณของเขานอนแน่นิ่งอยู่บนหลังคาของอาคารเตี้ยๆ หลังหนึ่ง ใกล้กันมีอาวุธที่เชื่อว่าน่าจะเป็นปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ AR-15
พวกเจ้าหน้าที่สืบสวนพบวัตถุระเบิดในรถยนต์ของเขาที่จอดใกล้จุดเกิดเหตุ ตามรายงานของสื่อมวลชนสหรัฐฯ ขณะที่เอฟบีไอได้ทำการบุกค้นบ้านของเขาเช่นกัน
เชื่อว่ามือปืน ซึ่งลงทะเบียนในนามผู้สนับสนุนรีพับลิกัน ลงมือเพียงลำพัง ขณะที่บิดาของเขาให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น ว่าเขาเองก็กำลังพยายามหาคำตอบว่า "อะไรเกิดขึ้นกันแน่"
เหตุการณ์สุดช็อกนี้เรียกเสียงวิจารณ์ต่อมาตรการรักษาความปลอดภัย ณ เวทีหาเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีคำถามว่าผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีรายหนึ่งตกเป็นเป้าของมือปืนในระยะแค่ 150 เมตรได้อย่างไร แม้มีหน่วยสืบราชการลับอยู่เต็มไปหมด
โฆษกของหน่วยสืบราชการลับ ปฏิเสธโดยสิ้นเชิงต่อคำกล่าวอ้างที่ว่าพวกเขาปฏิเสธยกระดับมาตรการคุ้มกันทรัมป์เพิ่มเติม ก่อนหน้าขึ้นเวทีหาเสียง
ความพยายามเอาชีวิตทรัมป์ ก่อคลื่นความช็อกไปทั่วโลก แต่ผลกระทบที่มีต่อศึกชิงชัยประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในประเทศที่เต็มไปด้วยความแตกแยกนี้ยังไม่แน่นอน
การรอดชีวิตแบบฉิวเฉียดของเขา โหมกระพือทฤษฎีสมคบติดต่างๆ และทาง เจ.ดี.แวนซ์ ว่าที่ตัวเลือกคู่ชิงรองประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวอ้างว่าโวหารของทีมหาเสียงไบเดน มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงที่นำไปสู่เหตุโจมตี
เวลานี้การเมืองสหรัฐฯ เริ่มมีความเป็นปรปักษ์กันหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ประเทศแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ความรุนแรงทางการเมืองมาก่อน ครั้งที่ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี ถูกลอบสังหารในปี 1963 และประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ถูกยิง แต่รอดชีวิตในความพยายามลอบสังหารในปี 1981
(ที่มา : เอเอฟพี)