หุ้นไทยปิดร่วง 9.91 จุด นักวิเคราะห์ระบุตลาดหุ้นไทยวันนี้ลงไปแรงสุดในภูมิภาค จากแรงขายหุ้นบิ๊กแคปถ่วง เหตุต่างชาติกังวลความเป็นอิสระของแบงก์ชาติหลังมีชื่อคนในรัฐบาลเป็นแคนดิเดดประธานบอร์ดคนใหม่ และในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้าจะมีการพิจารณาคดีทางการเมืองประเด็นคุณสมบัตินายกฯ มีผลต่อการอภิปรายงบประมาณปี 68 แนวโน้มพรุ่งนี้คาดตลาดแกว่งในกรอบแนวรับ 1,315 จุดและแนวต้าน 1,343 จุด แนะติดตามผลการประชุม ECB คืนนี้
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงแรง ถือว่าแย่ที่สุดในภูมิภาค แม้มีแรงซื้อจากหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ช่วยประคองดัชนีไว้ แต่ไม่สามารถต้านทานแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ได้
ตลาดหุ้นไทยถูกกดดันจากประเด็นที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ารัฐบาลเตรียมเสนอชื่อ 2 บุคคลใกล้ชิดเป็นแคนดิเดต ประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ เนื่องจากนายปรเมธี วิมลศิริ อดีตเลขาธิการสภาพัฒน์จะครบวาระในเดือน ก.ย.หลังจากรัฐบาลและ ธปท.มีความขัดแย้งด้านนโยบายเศรษฐกิจ เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติต่อความเป็นอิสระของ ธปท. ทำให้ภาพการลงทุนช่วงนี้อาจดูไม่น่าสนใจ
นอกจากนั้น ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคดีทางการเมืองสำคัญ คือ คำร้องยุบพรรคก้าวไกล การพิจารณาคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน และคดีที่อัยการสูงสุดจะส่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร ผิด ม.112 โดยเฉพาะเรื่องคุณสมบัติตินายกฯ อาจมีผลต่อการอภิปรายงบประมาณปี 68 ในวันที่ 19-21 มิ.ย.นี้
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,328.41 จุด ลดลง 9.91 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.74% มูลค่าการซื้อขาย 45,540.12 ล้านบาท
แนวโน้มพรุ่งนี้คาดลาดแกว่งในกรอบแนวรับ 1,315 จุด และแนวต้าน 1,343 จุด คืนนี้รอติดตามผลการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ขณะที่ Sentiment ต่างประเทศในแง่ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดดีขึ้นเล็กน้อยหลังการรายงานตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ เริ่มส่งสัญญาณชะลอ ทั้งนี้ หาก ECB ลดดอกเบี้ยและเฟดลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้อาจจะช่วยผ่อนคลายแรงกดดันต่อตลาดหุ้นไทยได้