นับตั้งแต่นายเปรมชัย กรรณสูต อดีตประธานกรรมการบริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ถูกจับกุมในความผิดล่าเสือดำ กลางป่าจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 หุ้น ITD ได้ฟุบลงต่อเนื่อง และคงไม่มีโอกาสฟื้นอีกแล้ว
เพราะฐานะการเงินย่ำแย่ ขาดสภาพคล่องอย่างหนัก ไม่เพียงแต่มีปัญหาไถ่ถอนหุ้นกู้และชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงินเท่านั้น แม้แต่เงินเดือนพนักงานยังไม่สามารถจ่ายได้ครบถ้วน
ITD คือบริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2537 และกำลังจะครบ 30 ปีของการเข้าจดทะเบียน แต่ปีที่ 30 ในตลาดหุ้นเป็นปีที่วิกฤตหนัก จนกิจการอาจต้องปิดฉากลง
หุ้น ITD เคยร้อนแรง ติดอันดับหุ้นเก็งกำไรยอดนิยมในยุคที่ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมีความรุ่งเรือง
จุดเริ่มต้นในความสั่นคลอนของ ITD เกิดขึ้นประมาณปี 2553 เมื่อขยายการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ทวายของพม่า แต่ไปไม่รอด การก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกมีความล่าช้า เพราะขาดเงินทุนหมุนเวียน จนถูกพม่าบอกเลิกสัมปทานในปี 2564 และต้องสูญเสียเงินลงทุนไปเฉียด 1 หมื่นล้านบาท
และคดีการล่าเสือดำที่ทำให้นายเปรมชัย ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก 2 ปี 14 เดือน ซ้ำเติมให้ ITD ทรุดฮวบลง เพราะธุรกิจถูกต่อต้านทางสังคม นักลงทุนในตลาดหุ้นหมดความเชื่อมั่นในหุ้น
นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมลงความเห็นว่า วิบากกรรมที่นายเปรมชัย และ ITD กำลังเผชิญอยู่ เป็นผลกรรมจากการล่าเสือดำ
แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏอย่างเป็นรูปธรรมคือ ผลประกอบการ ITD ตกต่ำติดต่อยาวนานหลายปี โดยปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 1,104.45 ล้านบาท ปี 2564 ขาดทุน 155.62 ล้านบาท ปี 2565 ขาดทุน 4,758.85 ล้านบาท ส่วนงบการเงินปี 2566 ยังไม่ส่งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่คาดกันผลน่าจะขาดทุนหนักไม่น้อยกว่าหลายปีที่ผ่านมา
การไม่ส่งงบการเงินปี 2566 ตามกำหนดเวลา ทำให้ตลาดหลักทรัพย์สั่งขึ้นเครื่องหมาย SP พักการซื้อขายหุ้น ITD ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 โดยราคาหุ้นปิดครั้งสุดท้ายที่ 85 สตางค์
แม้ ITD จะขอขยายเวลาการชำระหนี้หุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระคืนจำนวน 5 รุ่น วงเงิน 14,455 ล้านบาท ออกไปอีก 2 ปี โดยไม่ถือว่าผิดนัดชำระหนี้ แต่ผู้ถือหุ้นกู้ทุกรุ่นคงประเมินสถานการณ์ได้ดีว่า อีก 2 ปีข้างหน้า ITD ไม่น่ามีปัญญาที่จะหาเงินมาไถ่ถอนหุ้นกู้ได้
เพราะยังมีหนี้สินกับสถาบันการเงิน และภาระหนี้ที่สถาบันการเงินค้ำประกันอีกประมาณ 120,000 ล้านบาท
ผู้ถือหุ้นรายย่อย ITD มีจำนวนทั้งสิ้น 38,023 ราย ถือหุ้นรวมกันสัดส่วน 77.17% ของทุนจดทะเบียน
วิกฤต ITD ครั้งนี้ ซึ่งมีแนวโน้มอาจทำให้กิจการไปไม่รอด ผู้ที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด จึงไม่ใช่ "กลุ่มกรรณสูต" แต่เป็นนักลงทุนรายย่อยจำนวนเกือบ 4 หมื่นราย
ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนในตลาดหุ้นจำนวนนับแสนราย ต้องวอดวาย เสียหายย่อยยับกับวิกฤตในหุ้นหลายตัวที่ประสบปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัว ปัญหาการปั่นหุ้นและการทุจริต
ไล่เรียงตั้งแต่หุ้นบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE หุ้นบริษัท สตาร์ค คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK หุ้นบริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL ก่อนมาที่หุ้นบริษัท เจเคเอ็นโกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN และล่าสุดหุ้น ITD
2-3 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนเผชิญความเสี่ยงรอบด้าน ทั้งภาวะความผันผวนของตลาดหุ้น ผลกระทบจากหุ้นเน่า และหุ้นกำลังจะเน่าอย่าง ITD
นักลงทุนที่ยังมีลมหายใจอยู่ รอดมาได้ถึงวันนี้ถือว่าหนังเหนียวพอสมควร