"อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์" เรียกประชุมผู้ถือ 17 ม.ค.67 เพื่อขอยืดหนี้แลกกับการจ่ายดอกเบี้ยเพิ่ม เผยขณะนี้สถาบันการเงินหลายแห่งในประเทศกำลังพิจารณาให้สินเชื่อใหม่แก่บริษัท หากได้รับอนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่ ดัน D/E สูงเกินกว่า 3 เท่า
นายวรวุฒิ หิรัญยไพศาลสกุล เลขานุการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD แจ้งว่าในฐานะผู้ออกหุ้นกู้ สมควรให้มีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2567 ซึ่งเป็นการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ทุกชุดในวันที่ 17 ม.ค.67 แต่แยกการนับองค์ประชุมและการลงมติในรูปแบบการประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) หลังจากปิดสมุดทะเบียนพักการโอนกรรมสิทธิ์วันที่ 3 ม.ค.67
วาระการประชุม มีดังนี้
วาระที่ 1 ขอผ่อนผันการดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ตามที่กำหนดในข้อกำหนดสิทธิ โดยให้มีผลตั้งแต่วันสิ้นสุดรอบปีบัญชีของปี 66 จนถึงวันสิ้นสุดรอบปีบัญชีของปี 68 และผ่อนผันให้ผู้ออกหุ้นกู้ดำเนินการเจรจา หรือเข้าทำสัญญาใดๆ กับเจ้าหนี้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ โดยไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิ
วาระที่ 2 ขอขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ไปอีก 2 ปี และ (ก) การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้อีกร้อยละ 0.25 ต่อปี (นับแต่วันถัดจากวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้เดิมจนถึงวันครบ 1 ปีจากวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้เดิม) และ (ข) การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้อีกร้อยละ 0.50 ต่อปี (นับแต่วันถัดจากวันครบ 1 ปีจากวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้เดิมจนถึงวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ใหม่) โดยจะชำระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดเพียงครั้งเดียวในวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ใหม่ (ที่ขยายออกไป)
โดย ITD ระบุว่า บริษัทได้ดำรงอัตรา D/E Ratio ตามข้อกำหนดสิทธิหุ้นกู้มาโดยตลอด แต่เนื่องจากในช่วงหลังจากสิ้นงวดบัญชีของไตรมาส 2/66 สถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศยังคงอยู่ในช่วงปรับตัว ซึ่งรวมถึงโครงการต่างๆ ของบริษัทยังคงอยู่ในช่วงดำเนินการ และหรืออยู่ระหว่างการส่งมอบให้ลูกค้าหน่วยงานภาครัฐ
อีกทั้งมีปัจจัยภายนอกหลายประการที่กระทบกับการประกอบธุรกิจของบริษัท เช่น สถานการณ์สงครามในต่างประเทศ ราคาวัสดุและน้ำมันที่สูงขึ้น การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย จึงทำให้ต้นทุนการทำงานของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งการเมืองในประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลล่าช้า ส่งผลกระทบกับโครงการภาครัฐต่างๆ ที่ชะลอตัวลงจากแผนงานเดิม ทำให้บริษัทซึ่งมีงานของภาครัฐเป็นจำนวนมากประสบปัญหาปริมาณงานลดลงไม่เป็นไปตามประมาณการ
ด้วยเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งปัจจัยภายนอกที่ไม่อาจคาดหมายได้เหล่านี้ ทำให้บริษัทมีความจำเป็นต้องเจรจากับเจ้าหนี้ต่างๆ ของบริษัท ทั้งเจ้าหนี้การค้า เจ้าหนี้สถาบันการเงิน และเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อขอผ่อนผันการชำระหนี้และเลื่อนการชำระหนี้ของบริษัทให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทด้วย
นอกจากนี้ บริษัทยังมีความจำเป็นต้องกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินเพื่อนำมาใช้ในโครงการงานต่างๆ ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจของบริษัท ซึ่งการได้รับสินเชื่อใหม่จากสถาบันการเงินในครั้งนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้บริษัทผ่านพันปัญหาการขาดเงินทุนหมุนเวียน สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ก่อสร้างโครงการต่างๆ ไปได้อย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้ การให้การสนับสนุนเงินกู้จากสถาบันการเงินดังกล่าวมีเงื่อนไขสำคัญว่า บริษัทจะต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัทร่วมด้วย จึงจำเป็นจะต้องจัดการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในครั้งนี้
ขณะนี้สถาบันการเงินหลายแห่งในประเทศกำลังพิจารณาให้สินเชื่อใหม่แก่บริษัท ซึ่งจะมีผลกระทบกับหน้าที่ของบริษัทตามข้อกำหนดสิทธิในการดำรง D/E โดย D/E ตามงบการเงินรวมของบริษัท ณ ไตรมาส 3 ปี 66 เท่ากับ 2.893 โดยหากบริษัทได้รับอนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่จะทำให้ D/E สูงขึ้นเกินกว่า 3 เท่า จึงต้องขอผ่อนผันการดำรง (D/E) และขอผ่อนผันให้สามารถเจรจาหรือทำสัญญากับเจ้าหนี้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้โดยไม่ถือเป็นเหตุผิดนัด
อีกทั้งเนื่องด้วยสถานการณ์ในตลาคตราสารหนี้ในปัจจุบัน โคยเฉพาะการลงทุนใน "หุ้นกู้" ไม่เอื้ออำนวยเป็นปัจจัยกดดันความเชื่อมั่นนักลงทุน ที่อาจทำให้การออกจำหน่ายหุ้นกู้รุ่นใหม่เพื่อทดแทนรุ่นเดิมที่ครบกำหนคไถ่ถอน (Roll over) มีความเสี่ยงต่อบริษัทและนักลงทุนเพิ่มขึ้น และจากสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงการดำเนินธุรกิจของบริษัท บริษัทจึงได้พิจารณาในการขอขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนแทนการออกหุ้นกู้รุ่นใหม่ๆ มาเพื่อทดแทนรุ่นเดิมที่จะครบกำหนดในปี 67