xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดผิดหวังดิจิทัลวอลเล็ต-ECB ฉุดหุ้นไทยปิดร่วง -5.30 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดร่วง -5.30 จุด นักวิเคราะห์เผยตลาดผิดหวัง “ดิจิทัลวอลเล็ต” หลังมีแนวโน้มล่าช้าไม่เป็นไปตามกรอบเวลา และอาจเพิ่มเงื่อนไขลดขนาดผู้ได้รับสิทธิ์ กดดันเกิดแรงเทขายในหุ้นกลุ่มค้าปลีกปรีับตัวลดลง มองแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดแกว่งในกรอบแนวรับที่ 1,400 -1,393 จุด และแนวต้านที่ 1,410-1,414 จุด แนะจับตาประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ITD

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 16 มกราคม 2567 ปรับตัวลดลง -5.30 จุด หรือ -0.38% โดยปิดตลาดที่ 1,401.72 จุดมูลค่าซื้อขาย 39,472.36 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวลงหลุด 1,400 จุด ก่อนปรับตัวฟื้นขึ้นมาปิดยืนเหนือ 1400 จุด โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,407.08 จุด ในทิศทางขาลงกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,399.85 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 174 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 167 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 296 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,508.62 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +253.12 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -834.37 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -927.36 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,504.31 ล้านบาท ปิดที่ 33.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,438.15 ล้านบาท ปิดที่ 53.75 บาท ลดลง 1.00 บาท
3.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,436.58 ล้านบาท ปิดที่ 63.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
4.TISCO มูลค่าการซื้อขาย 1,153.42 ล้านบาท ปิดที่ 98.75 บาท ลดลง 1.75 บาท
5.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,032.57 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.AEONTS ปิดที่155.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาท หรือ 0.97%
2.TKN ปิดที่ 10.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.55บาท หรือ 5.76%
3.RCLปิดที่26.00บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.96%
4.GULF ปิดที่ 45.75บาท เพิ่มขึ้น 0.50บาท หรือ 1.10%
5.TOP ปิดที่ 52.00บาท เพิ่มขึ้น 0.50บาท หรือ 0.97%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.EGCO ปิดที่129.50บาท ลดลง 3.00บาท หรือ 2.26%
2.CBG ปิดที่76.25บาท ลดลง 2.25บาท หรือ 2.87%
3.SCC ปิดที่ 284.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 0.70%
4.TISCO ปิดที่98.75บาท ลดลง 1.75บาท หรือ 1.74%
5.DELTA ปิดที่83.00บาท ลดลง 1.75บาท หรือ 2.06%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,899.55 จุด ลดลง -8.31 จุด หรือ -0.44% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 857.05 จุด ลดลง -3.57 จุด หรือ -0.41% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 415.72 จุด ลดลง -2.69 จุด หรือ -0.64%

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงต่อเนื่อง รับบรรยากาศการลงทุนเชิงลบจากแรงขายทำกำไรตลาดต่างประเทศฉุด Big Cap ลงตาม โดยวานนี้ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ระบุว่าอาจไม่ได้ปรับลดดอกเบี้ยเร็วอย่างที่ตลาดคาด ทำให้มีแรงขาทำกำไรออกมาหลังจากหุ้นฟื้นขึ้นมาหลังเงินเฟ้อชะลอตัวตั้งแต่ปลายต.ค.66

ขณะที่ปัจจัยในประเทศผิดหวังนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เริ่มเห็นความเสี่ยงโครงการเกิดล่าช้า รวมถึงความไม่แน่นอนของตลาดหุ้นกู้ โดยตลาดรอติดตามการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นต์ (ITD) ในวันพรุ่งนี้

ส่วนตลาดหุ้นไทยยังคง Underperform เนื่องจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสูงมีโอกาสให้ Fund Flow ไหลออกต่อเนื่องจะเห็นว่าหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) มีแรงขายออกมา ขณะที่หุ้นค้าปลีก อย่าง CPALL, CPN, COM7 ที่ผิดหวังกำลังซื้อจากดิจิทัลวอลเล็ตที่อาจมาล่าช้า หรือลดขนาดโครงการ สำหรับกลุ่มแบงก์เริ่มเห็นแนวโน้มต้นทุนการเงินเพิ่มสูงขึ้น หลังแบงก์ TISCO ให้แนวโน้มอย่างระมัดระวังมากขึ้น

"แนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้แกว่งตัวในกรอบ แต่เชื่อว่าจะไม่หลุด 1,400 จุด ถ้าการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ITD ไม่มีเซอร์ไพร์ส จะทำให้ตลาดหุ้นกู้ไม่แย่และแบงก์ก็ไม่ต้องตั้งสำรองเพิ่ม โดยให้แนวรับ 1,400 -1,393 จุด แนวต้าน 1,410-1,414 จุด" นายกิจพล กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น