ไหนว่าฝรั่งจะกลับมา / สุนันท์ ศรีจันทรา

ปีนี้กูรูหุ้นโบรกเกอร์แทบทุกสำนักคาดหมายว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นจะฟื้นตัวขึ้น นักลงทุนต่างชาติจะกลับมาซื้อหุ้น แต่ความจริงที่เผชิญหน้าอยู่ กลายเป็นว่าต่างชาติยังถล่มขายหุ้นอย่างหนัก ต่อเนื่องจากปีก่อน

ความหวังที่จะได้เห็นต่างชาติขนเงินกลับและซื้อหุ้นคืน จากปีที่แล้วที่ขายทิ้งเกือบตลอดทั้งปี เลือนรางไปทุกที

ตัวเลขการขายหุ้นของต่างชาติ ยอดสะสมจากต้นปีจนถึงวันพุธที่ 17 มกราคมที่ผ่านมาน่าตกใจ โดยมียอดขายหุ้นสะสมจำนวน 13,380.75 ล้านบาท และวันพุธเพียงวันเดียวขายถล่ม 5,749.49 ล้านบาท ฉุดให้ดัชนีหุ้นดิ่งลง 21.07 จุด ถอยรูดลงมาปิดที่ 1,380.65 จุด

นักลงทุนรายย่อยรับเละ กลายเป็นผู้รับเหมา ตั้งป้อมรับหุ้นที่ต่างชาติเทใส่ และมียอดซื้อสุทธิสะสมจำนวน 15,209.84 ล้านบาท

ปี 2565 ต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 1.98 แสนล้านบาท แต่คายหรือระบายขายออกมาในปี 2566 จำนวน 1.49 แสนล้านบาท หักกลับลบกัน ต่างชาติยังมีหุ้นที่ซื้อไว้ในปี 2565 อีกจำนวนประมาณ 4.9 หมื่นล้านบาท และกำลังถูกนำมาทยอยขายต่อในปีนี้

การขายหุ้นออก เพราะต่างชาติประเมินแล้วว่าตลาดหุ้นไทยไม่สดใส ยังไม่ฟื้น และมีความเสี่ยงที่จะทรุดลง จึงชิงลดน้ำหนักการลงทุน ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง โดยเฉพาะปี 2566 ซึ่งดัชนีลดลง 252 จุด หรือลดลง 15.15%

การชิงขายก่อน ช่วยลดความเสียหายของนักลงทุนต่างชาติ แต่นักลงทุนในประเทศที่เข้าไปรับแรงขายของต่างชาติ โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย ซึ่งเป็นผู้ซื้อหุ้นรายใหญ่มาหลายปีแล้วกลายเป็นกลุ่มที่ขาดทุนหนัก

ต่างชาติยังปักหลักระบายหุ้นทิ้งต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่า ยังมีมุมมองเชิงลบเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดหุ้น ซึ่งหากปีนี้ต่างชาติไม่กลับมา สถานการณ์การลงทุนที่คาดกันว่าจะกระเตื้องขึ้นจากปีก่อน อาจฟุบลงต่อหรือเลวร้ายต่อเนื่องอีกปี

ยอดซื้อหุ้นสุทธิสะสมของนักลงทุนรายย่อยในรอบ 6 ปี ทะลุกว่า 5 แสนล้านบาท และเป็นหุ้นต้นทุนสูงที่ต้องแบกไว้ในพอร์ต แต่นักลงทุนายย่อยไม้ได้แสดงความย่อท้อในการสวนหมัดกับต่างชาติ และยังก้มหน้าก้มตาช้อนหุ้น

จนไม่รู้ขนเงินมาจากไหน และจะสู้กับฝรั่งได้อีกนานเท่าไหร่ เพราะไม่มีสัญญาณว่าฝรั่งจะหยุดขาย โดยเฉพาะในระยะสั้น

ปัจจัยภายนอกเลวร้าย หุ้นทั้งโลกร่วงระเนระนาด ปัจจัยภายในไม่มีข่าวดีกระตุ้นความเชื่อมั่นนักลงทุน และยังต้องเผชิญแรงขายของต่างชาติ กดดันให้หุ้นเข้าสู่ช่วงขาลงเต็มตัว

จุดต่ำสุดของดัชนีก่อนหน้าลงมาแตะที่ระดับประมาณ 1,354 จุด และขาลงรอบนี้ กังวลว่า อาจเกิดจุดต่ำสุดใหม่ของดัชนี เพราะปัจจัยลบกดดันรอบด้าน โดยไม่มีสัญญาณข่าวดีที่จะกระตุ้นตลาดให้กลับสู่ความคึกคัก

เสียดายการตัดสินใจของนักลงทุนรายย่อย เพราะถ้าไม่รีบร้อนซื้อหุ้น จะมีโอกาสซื้อในราคาต้นทุนที่ต่ำลง หรือต่ำกว่าราคาปิดล่าสุดได้ เนื่องจากหุ้นมีแนวโน้มไหลลงต่อ

การถล่มขายหุ้นหนักตั้งแต่ต้นปีของต่างชาติ เป็นการส่งสัญญาณที่ไม่ดีนักสำหรับทิศทางตลาดหุ้นปี 2567

หุ้นปีนี้อาจแย่ไม่น้อยไปกว่าปีที่ผ่านมาก็ได้ นักลงทุนรายย่อยต้องปรับกลยุทธ์รับมือหุ้นฟุบต่อ